ทันทีที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดการทีมป้ายแดงแต่หน้าคุ้นเคยแห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไรอัน กิ๊กส์ ดูจะกลายเป็นความหวังขึ้นมาเล็กๆ สำหรับแฟนผีทุกหมู่เหล่า เพราะอย่างน้อยก็ดูจะเป็นที่พอใจมากกว่าเดวิด มอยส์ บอสผู้อาภัพที่ทำผลงานทีมดิ่งลงเหวและโดนปลดแบบสายฟ้าแล่บไม่ทันรอจบฤดูกาล

โกล ประเทศไทยขอพาแฟนปีศาจแดงทุกท่านย้อนรอยดู 11 เหตุการณ์ (ไม่เรียงตามลำดับเวลา) สุดตราตรึงให้ได้อิ่มเอมและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่ในนาม “ปีกพ่อมด” รายนี้ไปด้วยกัน

อันดับไหนโดนใจคุณที่สุด บอกเล่าให้เราฟังได้ที่กล่องคอมเมนท์เลย

ใน วัยเพียง 17 ปี ไรอัน กิ๊กส์เปิดตัวและลงสนามครั้งแรกให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยการพบกับเอฟเวอร์ตันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดวันที่ 2 มีนาคม 1991 ด้วยการเป็นตัวสำรองเปลี่ยนแทนเดนิส เออร์วิน แบ็คซ้ายตำนานที่บาดเจ็บก่อนจะพ่ายไป 0-2 โดยในวันนั้นเจ้าตัวสวมหมายเลข 14

และ ประตูแรกของเขาก็มาในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ 4 พฤษภาคม 1991 แม้จะแฉลบคอลิน เฮนดรีเข้าประตูตัวเองก็ตามแต่เครดิตในประตูนั้นก็คือการซัลโวแรกในการออก สตาร์ท 90 นาทีครั้งแรกให้ยูไนเต็ดเช่นกัน

ฤดู กาลถัดมา ไรอัน กิ๊กส์ก้าวเข้ามาเป็นกำลังสำคัญให้กับยูไนเต็ดด้วยอายุ 18 ปี และหลังจากที่ผิดหวังในเกมลีกคัพเมื่อปี 1991 กิ๊กส์และยูไนเต็ดทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง พบกับนอร์ติงแฮม ฟอเรสต์ในปี 1992

แข้ง ดาวรุ่งของปีศาจแดงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนสร้างแอสซิสต์สำคัญให้ไบร อัน แมคแคลร์ในนาทีที่ 14 ก่อนจบลงด้วยสกอร์ 1-0 คว้าลีกคัพไปครองได้สำเร็จ

ใน กันยายนปีเดียวกันนั้นเอง ไรอันสร้างความฮือฮาด้วยการโชว์ลูกยิงและสัญชาติญาณการลากเลื้อยให้ได้เห็น กันแบบจั๋งๆในเกมที่พวกเขาเสมอกับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 1-1

กิ๊กส์ อาศัยจังหวะการจับบอลที่ผิดพลาดของดีน ออสติน, แต่ลอดขาด้วยความเร็วผ่านเจสัน คันดี ก่อนลากผ่านเอียน วอล์คเกอร์และยิงมุมแคบเข้าไปอย่างสวยงามจนกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดประตู สำหรับแฟนคลับปีกพ่อมดตลอดกาล

นี่คืออีกหนึ่งประตูที่เราอยากยกย่องให้เห็นถึงความสามารถของไรอันโดยเฉพาะ

หลัง จากความผิดหวังด้วยการพลาดอย่างไม่น่าเชื่อในการยิงประตูโล่งๆ ใส่อาร์เซนอลเกมเอฟเอ คัพในปี 1999 กิ๊กส์กลับมาสู่เส้นทางของยอดปีกจอมกระชากอีกครั้งด้วยการโซโลและยิงเบิ้ล ใส่ยูเวนตุสในเกมยุโรป ก่อนจะจบลงด้วยสกอร์ 3-0 เป็นการคัมแบ็คจากความผิดหวังที่สวยงามมาก

ใน วัย 40 กระรัต แม้กิ๊กส์จะไม่จี๊ดจ๊าดและจัดจ้านเหมือนสมัยหนุ่มๆ แต่หลังเกมที่แมนฯยูฯ เสมอกับชัคตาร์ โดเน็ตส์ค 1-1 ในแชมเปี้ยนส์ลีก ไรอันก็ทาบสถิติเกมยุโรปกับราอูล กอนซาเลซ ตำนานของเรอัล มาดริดที่ 144 แมตช์ทันที ก่อนจะตามมาด้วย 145 นัดจากสองเกมที่เหลือในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเป็นสถิติที่ยากจะทัดทาน

สำหรับ ยอดนักเตะระดับตำนานอย่างกิ๊กส์ เขายิงประตูมาแล้วอย่างต่อเนื่องในตลอด 23 ซีซั่นที่ผ่านมาบนลีกสูงสุด!!! และ 21 ฤดูกาลสำหรับพรีเมียร์ลีก

ประ ตูของกิ๊กส์ที่ยิงใส่เอฟเวอร์ตันในปี 2013 ทำให้สถิติของเขายังคงต่อเนื่องต่อไป และวันนี้ กิ๊กส์ยังเหลืออีก 4 เกมให้ได้ลุ้นว่าเขาจะได้ยิงเพื่อสร้างตัวเลขให้คอนตินิวต่อไปได้หรือไม่

บางทีผู้จัดการทีมคนใหม่รายนี้น่าจะขออาสาเป็นคนยิงจุดโทษนะ

กับ เกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ในช่วงโค้งสำคัญของปี 2009 นี่คือสุดยอดแมตช์แห่งความทรงจำอย่างแท้จริง เมื่อความผิดพลาดของเฟอร์ดินานด์ทำให้เบลลามีแห่งซิตี้ตีเสมอได้ในช่วงทด เจ็บนาทีที่ 92 ทั้งสองทีม 3-3 เท่ากัน

ทว่า ในช่วงนาทีทดเวลาที่ยาวนาน กิ๊กส์ยังโชว์ความนิ่งและเย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็ง จ่ายบอลคิลเลอร์พาสสุดงามให้ไมเคิล โอเวนสอดเข้าไปยิงผ่านเชย์ กิฟเวน นายด่านของซิตี้ในนาที 96 ทำให้ปีศาจแดงเอาชนะทีมของมาร์ค ฮิวจ์ไปได้อย่างสุดดราม่า 4-3

11 พฤษภาคม 2008 กิ๊กส์ลงสนามให้กับยูไนเต็ดด้วยการเป็นตัวสำรองเปลี่ยนแทนปาร์ค จี ซอง โดยนั่นทำให้เขาทาบสถิติลงสนามให้กับตำนานอย่างเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตันที่ 758 แมตช์ก่อนที่จะยิงประตูที่ 2 ช่วงทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 10 ได้สำเร็จอย่างสวยงามสุดๆ

และ 10 วันหลังจากนั้น กิ๊กส์ก็ผ่านสถิติดังกล่าวของเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตันลง (ขยับเป็น 759 แมตช์) เมื่อลงเป็นตัวสำรองแทนพอล สโคลส์ในเกมแชมเปียนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศกับเชลซี

และแน่นอน หลังจากเสมอกันในเกม 1-1 กิ๊กซี่เป็นหนึ่งในขุนพลปีศาจแดงที่ยิงจุดโทษได้สำเร็จ ก่อนที่ฟาน เดอซาร์จะหยุดลูกยิงของอเนลกาในจังหวะถัดมา พาปีศาจแดงเถลิงบัลลังก์แชมป์ยุโรปอย่างยิ่งใหญ่

แม้ ในเกมแชมเปี้ยส์ลีกนัดชิงชนะเลิศกับบาเยิร์น มิวนิคในปี 1999 ไรอันจะไม่สามารถทำประตูได้ แต่ด้วยลูกกึ่งยิงกึ่งผ่านไปถึงเท็ดดี้ เชอริงแฮมจนเป็นประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะเป็นโอเล กุนนา โซลชาในวินาทีสุดท้าย พาทีมเบียดเสือใต้คว้าถ้วยยุโรปให้แฟนผีได้พูดคุยและจดจำกันตลอดมา

นี่คือหนึ่งในสุดยอดโมเมนต์ที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยทีเดียว

สุดยอดโมเมนต์ตลอดกาลของไรอัน กิ๊กส์ที่เราขอยกให้ กับประตูสุดสวยที่สร้างรอยแผลและความปวดใจให้แฟนคลับปืนใหญ่ตลอดมา

จาก ผลเสมอ 1-1 ในเกมอันแสนดราม่าและระทึกใจ อาร์เซนอลกำลังจะได้เป็นฝ่ายกำชัยจากลูกจุดโทษหลังฟิล เนวิลล์เสียบเรย์ พาร์เลอร์ในเขตโทษ ทว่าเบิร์กแคมป์ของอาร์เซนอลพลาดให้กับชไมเคิลอย่างจัง นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนก่อนจะมาถึงโมเมนต์สำคัญ ที่วิเอร่าจ่ายบอลพลาดจนไรอัน กิ๊กส์ตัดบอลได้และโซโล่เดี่ยวตั้งแต่ครึ่งสนาม

หลังจากนั้นก็ได้ยินเพียงเสียงเฮของแฟนปีศาจแดงทั่วโลก กับการเฉลิมฉลองทริปเปิ้ลแชมป์ในซีซั่น 1998-1999 อย่างยิ่งใหญ่

หลังจากการประกาศวางมือของเซอร์อเล็กซ์ฯ ที่ตามมาด้วยการเข้ารับตำแหน่งของเดวิด มอยส์ ได้พาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกทะเลด้วยผลงานที่ย่ำแย่พร้อมหลุดวงโคจรฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรก ในรอบหลายปี ก่อนที่จะมีคำสั่งปลดเดวิด มอยส์แบบฟ้าแล่บในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ไรอัน กิ๊กส์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวทันทีโดยประเดิมการคุม ทีมปีศาจแดงนัดแรกในชีวิตและรุ่นน้องของตัวเองทั้งหมดในแคมป์เพื่อพบกับนอริ ช ซิตี้ วันเสาร์ที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ด้วยการคว้าชัยชนะอย่างท่วมท้น 4-0