เปิดใจกับสี่คำถามกับจอมหนึบเลือดโคนม สำหรับการมาฉลองการเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดที่ประเทศไทย ที่เขาแย้มว่าสักวันแฟนบอลชาวไทยอาจจะได้เห็นเขาเฝ้าเสาในสนามไหนสักแห่งใน ดินแดนขวานทอง

เลสเตอร์ ซิติ้ ทีมขวัญใจทีมใหม่สำหรับแฟนบอลชาวไทย ที่ล่าสุดได้เดินทางมาฉลองการเลื่อนชั้นสู้ลีกสูงสุดที่ประเทศไทยเมื่อไม่ นานมานี้ได้กลับสู่่มาตุภูมิของพวกเขาไปเรียบร้อยแล้ว

แต่ผลงานในปี ที่ผ่านมาของทัพสุนัขจิ้งจอกยังคงเป็นสิ่งที่น่ากล่าวถึง ทั้งที่เมื่อปีก่อนพวกเขาต้องอกหักมาอย่างรุนแรงในรอบเพลย์ออฟแต่สุดท้ายปี นี้พวกเขาก็สามารถคว้าสิทธิ์เลื่อนขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดได้สำเร็จด้วยการเป็น แชมป์

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในกำลังหลักที่พาพวกเขาสู่การเป็น แชมป์ในครั้งนี้ก็คือแคสเปอร์ ชไมเคิล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตำนานมือกาวชื่อกระฉ่อนอย่างปีเตอร์ ชไมเคิล ที่มีส่วนป้องกันประตูจนช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่าจนในที่สุด ทีมก็สามารถคว้าแชมป์มาครองได้แบบหักปากกาเซียน

นายทวารชาวแดนิชกล่าวเริ่มต้นอย่างเป็นกันเองสำหรับการมาประเทศไทยครั้งนี้

“มันเป็นทริปที่มหัศจรรย์มากครับ” แคสเปอร์กล่าวเริ่ม

“ผม รู้สึกมีความสุขมากๆที่ได้เดินทางมาฉลองแชมป์กับทีมที่ประเทศไทย ขอบคุณจริงๆ สำหรับทุกคนและการต้อนรับที่ดีของที่นี่ มันทำให้รู้สึกดีมากๆ ครับ”

ฟุตบอลคือมหกรรมกีฬาที่ทั่วทั้งโลกต่างรู้จักและแน่นอน ฟุตบอลทำให้ใครหลายคนที่ไม่เคยรู้จักกัน มาสนิทสนม พูดคุยกันในสนามและฟุตบอลก็ไร้พรมแดนกั้นขวางแม้คุณจะค้าแข้งอยู่คนละประเทศ แต่ด้วยเทคโนโลยีต่างๆก็ทำให้ลีกชื่อดังอย่างพรีเมียร์ลีก กับ ไทยลีกยังสามารถลิงค์หากันได้แบบไม่น่าเชื่อ

ซึ่งทางแคสเปอร์เองก็ รู้จักไทยลีกอยู่ไม่ใช่น้อยหลังมีนักเตะชื่อดังจากประเทศอังกฤษมาค้าแข้งที่ แดนขวานทองอยู่ถึงสองรายในทีมบุรีัรมย์ ยูไนเต็ดและเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

“ครับ, ผมพอทราบว่าเจย์ โบธรอยด์ กับเจย์ ซิมป์สันอยู่ในสโมสรระดับท็อปสองทีมที่นี่“ นายทวารเลือดโคนมเลือกที่จะพูดถึงสองนักเตะที่เคยค้าแข้งในศึกพรีเมียร์ลีก

“มัน ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีนะผมว่า การที่มีนักเตะจากอังกฤษมาเล่นที่เมืองไทย ผมเชื่อนะว่าทั้งเจย์โบและเจย์ ซิมจะได้รับประสบการณ์ที่สุดยอดจากการค้าแข้งในประเทศไทยแน่นอน”

อนาคตของแคสเปอร์ กับทางสุนัขจิ้งจอกเองนั้นก็เป็นเครื่องหมายคำถามเช่นกัน หลังสัญญาฉบับปัจจุบันของเขากับทีมกำลังจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์นี้แต่เจ้าตัว ก็ยืนยันว่าเขาจะอยู่ให้เหล่าสาวก เดอะ ฟอกซ์ได้ชื่นใจแน่นอน

“แผนของผมในตอนนี้คือการช่วยทีมให้อยู่รอดและเล่นบนลีกสูงสุดของอังกฤษให้ ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้ผมขอโฟกัสเลสเตอร์เพียงทีมเดียวเท่านั้น”

แน่ นอนคำถามสุดท้ายถึงเรื่องอนาคตกันยาวไกลสำหรับตัวแคสเปอร์เองกับการลิ้มลอง ย้ายมาค้าแข้งที่ไทยลีก ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ปิดโอกาสในการมาที่ประเทศไทยในฐานะนักเตะคนหนึ่ง

“คุณ ไม่สามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้หรอกนะ ซึ่งผมเองก็คงจะพูดเองตรงนี้ไม่ได้เช่นกัน แต่แน่นอนความเป็นไปไม่ได้ มักเป็นไปได้เสมอในโลกฟุตบอลและเราลองมาดูกันว่ามันจะเกิดขึ้นจริงไหม”

แม้ คำตอบสุดท้ายจะไม่ชัดเจนแต่ตัวนายทวารชาวแดนิชเองก็ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสดัง กล่าวสักเท่าไหร่ และความเป็นไปได้ที่อนาคตแฟนบอลไทยลีกจะได้เห็นลูกชายของตำนานมือกาวยุค 90 มาเฝ้าเสาที่ไทยลีกก็มีความเป็นไปได้

เพราะขนาดพ่อของเขายังเคยมีข่าวกับสุรินทร์เลย อย่าลืมสิฟุตบอลมักจะสิ่งบ้าๆเกิดขึ้นเสมอ