เบลเยียมต่อเวลาทิ่มสหรัฐฯ2-1ลิ่วชนฟ้าขาว
Posted 02/07/2014 by siamsport
ฟุตบอลโลก 2014 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม 2557
เบลเยียม 0-0 สหรัฐอเมริกา
(เบลเยี่ยมชนะช่วงต่อเวลาพิเศษ2-1)
"ปีศาจแดงแห่งยุโรป" เบลเยียม ส่ง เควิน เดอ บรอยน์, เอแดน อาซาร์ และ ดิว็อค โอริชี่ เป็นสามประสานในแนวรุก โดยดร็อป โรเมลู ลูกากู ที่ในทัวร์นาเม้นท์นี้ยังโชว์ฟอร์มไม่ออก เป็นเพียงแค่ตัวสำรอง ขณะที่ "พญาอินทรี" สหรัฐอเมริกา นำทัพโดย คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ยอดกัปตันจอมถล่มประตู, แกรม ซูซี่ และ อเลฮานโดร เบโดย่า เป็นตัวทีเด็ด
เริ่มเกมไม่ถึงนาที เบลเยียม ได้เสียวก่อนเลย เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ แทงบอลจากกลางสนามทะลุ แนวรับ อเมริกา เข้าเขตโทษให้ ดิว็อค โอริชี่ วิ่งเข้าไปสับด้วยขวา แต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ยังหนึบ ใช้ขาเซฟไว้ได้
เจฟฟ์ คาเมรอน แข้ง "พญาอินทรี" โดน ผู้ตัดสิน ฌาแมล ไอมูดี้ ควักใบเหลืองให้เป็นของชำร่วยคนแรกของเกม เมื่อเจ้าตัวเตะตัดฟาวล์ ดรีส เมอร์เท่นส์ ผู้เล่น ตัวแทนทวีปยุโรป ในนาทีที่ 18
นาทีที่ 20 สหรัฐฯ ได้ลุ้นบ้าง เมื่อ กองหลัง "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" สกัดมาเข้าทาง คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ในเขตโทษ เจ้าตัวซัดเร็วด้วยซ้ายทันที แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ไม่พลาดรับติดมือ
ถัดมาสองนาที เบลเยียม ได้เสียวอีก จากจังหวะโต้กลับ บอลมาถึง เควิน เดอ บรอยน์ หน้าเขตโทษ เจ้าตัวแตะหลอก แนวรับ มะกัน หนึ่งจังหวะ แต่ส่องด้วยขวาโดนไม่เต็ม ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
หนึ่งนาทีให้หลัง เบลเยียม ได้ลุ้นอีก เมื่อ ยาน แฟร์ทองเก้น มีโอกาส กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษ กะตบบอลเข้ากลาง ให้ มารูอาน เฟลไลนี่ ที่รอเข้าฮอส แต่บอลโดนไม่ดี เลยโดน แผงหลัง อเมริกา เคลียร์ทิ้งไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 32 แดนลุงแซม จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวคนแรก ด้วยการส่ง เดอันเดร เยดลิน ต้องลงมาแทน ฟาเบียน จอห์นสัน ที่เกิดอาการเส้นกระตุก เล่นต่อไม่ไหว
ต่อมาอีก 10 นาที แว็งซ็องต์ ก็อมปานี แนวรับ เบลเยียม โดน ผู้ตัดสินชาวแอลจีเรีย แจกใบเหลืองเป็นของสมนาคุณบ้าง เมื่อตามมาเสียบตัดเกม คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ถึงในแดน อเมริกา
นาทีที่ 45 "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ได้ลุ้นอีก ดิว็อค โอริชี่ ตัดบอลที่ แข้ง มะกัน จ่ายพลาด ก่อนเลื้อยจากกลางสนาม แล้วไหลให้ เควิน เดอ บรอยน์ วิ่งมาปั่นไซด์โป้งด้วยขวา ระยะ 25 หลา บอลค่อนข้างกลางประตู ทิม ฮาวเวิร์ด นายทวาร สหรัฐฯ เลยล้มตัวรับสบาย
เบลเยียม ทำเกมได้ดีกว่า พยายามบุกหวังเบิกสกอร์ขึ้นนำ แต่ "พญาอินทรี" แนวรับก็ยังเหนียวแน่น ทำให้จบ 45 นาทีแรก ยังเสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0
ครึ่งหลังเบลเยียม เริ่มต้นได้ดีกว่า เพียง 2 นาทีก็ได้ลุ้น เมื่อเควิน เดอ บรอยน์ เปิดจากขวาให้ ดรีส์ แมร์เทนส์ ได้โหม่ง บอลจะมุมใต้คานอยู่แล้ว แต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ยังกระโดดปัดออกหลังไปได้
นาทีที่ 56 "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ขึ้นมาทางขวาอีกครั้ง คราวนี้ ดรีส์ แมร์เทนส์ เปิดมาบริเวณจุดโทษอย่างแม่นยำ เข้าหัว ดิว็อค โอริชี่ โขกไปเช็ดคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ทัพเบลเยียม มาต่อเนื่องจริงๆ นาทีที่ 59 ดิว็อค โอริชี่ ลุยขึ้นมาในเขตโทษฝั่งซ้ายถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะตบมาให้ ดรีส์ แมร์เทนส์ ได้ไขว้ยิง ลูกหลุดเสาแรกไปนิดเดียว
และนาทีต่อมา มาร์ก วิลมอตส์ นายใหญ่เบลเยียม แก้เกมคนแรก ถอด ดรีส์ แมร์เทนส์ ออก แล้วส่ง เควิน มิรัลลาส ตัวทีเด็ดจากเอฟเวอร์ตัน ลงมาแทน
นาทีที่ 69 เบลเยียม ได้เสียวอีก โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ จ่ายสั้นๆ ให้ อั๊กเซล วิตเซล ได้กดด้วยหลังเท้า ประมาณ 20 หลา ลูกพุ่งเรียดเฉียวเสาออกไหลไปแบบได้ลุ้น
ผ่านมานาทีที่ 72 เจอร์เก้น คลินส์มันน์ เทรนเนอร์สายเลือดด๊อยท์ช แก้เกมคนที่สอง ส่ง คริส วอนโดลอฟสกี้ ลงมาแทน แกรห์ม ซูซี่
2 นาทีให้หลัง "ขุนพลเมืองลุงแซม" ได้โอกาสบ้าง คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ดาวยิงตัวเก่ง หาจังหวะซัดด้วยซ้าย บริเวณหัวกระโหลก แต่ติโบต์ กูร์กตัวส์ พุ่งรับได้ไม่ยาก
และนาทีที่ 77 "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" น่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ เมื่อดิว็อค โอริชี่ แทงทะลุช่องสุดสวยให้ เควิน มิรัลลาส ที่ลงมาเป็นตัวสำรองไม่นาน ได้หลุดไปยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ทิม ฮาวเวิร์ด สุดเหนียว ใช้ขาเซฟไว้ได้
จากนั้นไม่นาน 2 นาทีให้หลัง ทิม ฮาวเวิร์ด โชว์หนึบอีกครั้ง เมื่อเอแดน อาซา ได้อัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษไปที่เสาสอง แต่ก็ยังถูกปฏิเสธโดย นายด่านจากเอฟเวอร์ตัน ที่พุ่งทุบออกมาได้
นาที 88 เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายให้ เอแดน อาซาร์ ได้ยิงเหน่งๆที่เสาแรก แต่ลูกเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่นาทีสุดท้าย เควิน เดอ บรอยน์ ขึ้นเกมมาทางซ้าย ก่อนจ่ายให้ แว็งซ็องต์ ก็อมปานี ที่เติมสูงขึ้นมาไขว้ยิง ไม่กี่หลา แต่ทิม ฮาวเวิร์ด ยังปัดออกไปได้อีกคน
และถึงช่วงทดเวลา "พญาอินทร" ก็เกือบได้ประตูชัยสุดๆเช่นกัน เมื่อ เจอร์เมน โจนส์ หนุนบอลเข้าไปในเขตโทษ เจฟฟ์ แคเมอรอน ขึ้นโหม่งมาเข้าทาง คริส วอนโดลอฟสกี้ ได้ยิงเพียง 6 หลา ข้ามคานไม่น่าเชื่อ
จากนั้น ฌาแมล ไอมูดี้ ผู้ตัดสินชาวแอลจีเรีย ก็เป่าหมดเวลาการแข่งขัน เบลเยียม เสมอ สหรัฐอเมริกา 0-0 ทำให้ต้องมาตัดสินในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
เริ่มช่วงต่อเวลา เบลเยียม เปลี่ยนคนที่สองทันที ส่ง โรเมลู ลูกากู ลงมาแทน ดิว็อค โอริชี่
และเพียง 3 นาทีเท่านั้น "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 เมื่อ โรเมลู ลูกากู ที่ลงมาไม่นานาน กระชากบอลหลุดมาทางขวา ก่อนจะเปิดเรียดมาหน้าประตู กองหลังมะกันตัดบอลได้ก่อนแล้วแต่ไม่ขาดบอลมาเข้าทาง เควิน เดอ บรอยน์ พลิกบอลแล้วซัดด้วยขวาเสียบเสาสองไม่เหลือ
นาทีที่ 101 โรเมลู ลูกากู มาอีกครั้ง ลุยขึ้นมาเองในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะอัดที่เสาแรก แต่คราวนี้ ทิม ฮาวเวิร์ด ไม่พลาดเซฟเอาไว้ได้
แต่นาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลาครึ่งแรก เบลเยียม มาได้ประตูหนีไปเป็น 2-0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายให้ โรเมลู ลูกากู หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนกดด้วยซ้ายที่เสาแรกตุงตาข่าย
นาทีต่อมาสหรัฐฯ แก้เกมเปลี่ยนคนสุดท้าย ส่งจูเลี่ยน กรีน ลงมาแทน อเลฮานโดร เบโดย่า
และครึ่งหลังของการต่อเวลา ในนาที 107 "พญาอินทร" ก็ไล่มาเป็น 1-2 เมื่อ ไมเคิ่ล แบรดลี่ย์ ตัดบอลจากกลางสนาม ก่อนจะโยนไปในเขตโทษ จูเลี่ยน กรีน ที่ลงมาได้เพียงสองนาที ตวัดยิงแบบไม่จับด้วยขวา แม้ติโบต์ กูร์กตัวส์ จะปัดได้ แต่ก็ไม่พ้นลูกเสียบเสาไม่เหลือ
นาที 111 เบลเยียม เปลี่ยนคนสุดท้าย ถอดเอแดน อาซา ออก แล้วส่ง นาเซอร์ ชาดลี่ ลงมาแทน
ท้ายเกมของช่วงต่อเวลาพิเศษ แม้ "ขุนพลเมืองลุงแซม" จะเดินเครื่องกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็พลาดได้ประตูไปหมด ทำให้หมดเวลา เบลเยียม เอาชนะ สหรัฐอเมริกา ไปได้ 2-1 ฉลุยเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับอาร์เจนตินา ต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่ลงสนาม
เบลเยียม (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, ยาน แฟร์ทองเก้น, อักเซล วิตเซล, มารูอาน เฟลไลนี่, ดรีส์ แมร์เทนส์, เควิน เดอ บรอยน์, เอแดน อาซาร์, ดิว็อค โอริชี่
เทรนเนอร์ : มาร์ก วิลมอตส์
สหรัฐอเมริกา (4-3-3) : ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟาเบียน จอห์นสัน, เจฟฟ์ คาเมรอน, แม็ตต์ เบสเลอร์, ดามาร์คัส บีสลี่ย์, โอมาร์ กอนซาเลซ, ไมเคิ่ล แบรดลี่ย์, เจอร์เมน โจนส์, อเลฮานโดร เบโดย่า, แกรม ซูซี่, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์
ผู้ตัดสิน : ฌาแมล ไอมูดี้ (แอลจีเรีย)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ดิมาเรียซัด!อาร์เจนตินาเชือดสวิสต่อเวลา1-0
"ทัพฟ้าขาว" อาร์เจนตินา ต้องออกแรงเหนื่อยกว่าจะเป็นฝ่ายเอาชนะ สวิตเซอร์แลนด์ ไปได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 จากการยิงของ อังเคล ดิ มาเรีย หลัง 90 นาทีเสมอกัน 0-0 ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอังคารที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมาเนื้อหอม!เรือใบร่วมแจมหงส์,ปืนสอยซานเชซ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมกระโดดเข้ามาร่วมวงล่า อเล็กซิส ซานเชซ ดาวยิงความเร็วสูง บาร์เซโลน่า มาเสริมโหดในซัมเมอร์นี้ ร่วมกับ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ที่มีข่าวให้ความสนใจ หัวหอกวัย 25 ปี มาหลายสัปดาห์แล้ว
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อดเซิ้งบอลโลก 2026 ! ฟีฟ่า, ยูฟ่า มติแบน รัสเซีย ต่อไป
ผลงาน 5 ดาว!แฟน ฟิออเรนติน่า โหวต เด เคอา แข้งยอดเยี่ยมตุลาคม
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์