''น้องก้อย'' รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทย ออกสื่อครั้งแรก เล่าเหตุการณ์ทุกขั้นตอนก่อนโดนลงโทษหนัก ปวดกรามจนกินข้าวไม่ได้ ย้ำชัด โค้ชไทยยืนดูไม่ยอมช่วย ก่อนสรุปโค้ชเชต้องมาขอโทษผ่านสื่อ

"น้องก้อย" น.ส.รุ่งระวี ได้ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อเป็นครั้งแรก หลังจากกลับจากเกาหลีใต้ ว่ายังรู้สึกไม่ดีกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เนื่องจากตอนนี้ กระแสสังคม ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตนเป็นคนไร้ระเบียบวินัย จึงเป็นเหตุให้โดนลงโทษ พร้อมกับให้กำลังใจไปทางโค้ชเช ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ตนและครอบครัวน้อยใจ และอยากจะออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงว่า เหตุการณ์ในวันนั้น ตนเตรียมตัวที่จะลงแข่งอย่างเต็มที่ ทั้งการวอร์มอัพ และใส่อุปกรณ์

แต่เป็นทางโค้ชชาวไทยที่บอกว่า ให้ถอดอุปกรณ์ก่อน เพราะยังไม่ถึงเวลาแข่ง แต่เกิดความผิดพลาดขึ้น เป็นเหตุให้ต้องรีบลงสนามแบบฉุกละหุก เป็นเหตุให้โดนลงโทษตามที่เป็นข่าว ซึ่งการโดนกล่าวหาว่าไร้ระเบียบวินัยในครั้งนี้ ทำให้รู้สึกไม่ดี ประกอบกับโค้ชชาวไทย ที่บอกให้ถอดอุปกรณ์ ต่างปิดปากเงียบ ไม่ออกมาปกป้อง จึงอยากจะออกมาเปิดเผยให้สังคมรับรู้

รุ่งระวีได้เปิดเผยต่อว่า หลังการแข่งขัน โค้ชได้เรียกตัวนักกีฬามารวมตัวกัน ก่อนจะตั้งคำถามกับตนว่า แข่งคู่ที่เท่าไหร่ ต้องใส่อุปกรณ์อะไรบ้าง แต่ยังไม่ทันที่จะตอบคำถาม โค้ชเชก็ต่อยเข้าที่หน้า และต่อยท้องอีกหลายครั้ง จนทำให้ปวดกรามจนกินข้าวไม่ได้ ซึ่งหลังจากโดนลงโทษ ได้ติดต่อกับครอบครัว และเข้าไปร้องไห้ในห้องน้ำ ซึ่งการกระทำของโค้ชเชในครั้งนี้ ตนมองว่า ไม่ใช่การลงโทษแต่เป็นการทำร้ายร่างกายมากกว่า
  
ด้านพ่อและแม่ของน้องก้อยเปิดใจว่า หากเป็นการลงโทษในรูปแบบอื่น ตนก็พร้อมจะยอมรับ และไม่ติดใจอะไร แต่การลงโทษด้วยการต่อยหน้า คงไม่มีพ่อแม่คนไหนทนดูลูกสาว ต้องได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้มาจากการแข่งขันได้ แต่ถึงอย่างนั้น ทางครอบครัวก็ไม่อยากจะเอาความอะไร แค่อยากจะให้โค้ชเชออกมาขอโทษผ่านสื่อ และเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้ว่า ลูกของตนไม่ได้เป็นคนผิด

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวสยามกีฬา ได้เดินทางไปยังศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ เพื่อสอบถามถึงกรณีการเข้ารับการตรวจร่างกายของ "น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดทีมชาติไทย วัย 23 ปี จากกรณีที่เธอระบุว่าถูกโค้ช เช ยอง ซอก ผู้ฝึกสอนเทควันโดทำร้ายร่างกาย จากทาง พญ.วรัทพร สิทธิจรูญ แพทย์ผู้ทำการตรวจร่างกายให้ "น้องก้อย" เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมออกใบรับรองแพทย์ ที่ระบุว่า   มีประวัติการถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 57 6 แห่ง ดังนี้ 1. พบบาดแผลฟกช้ำบริเวณคิ้วซ้าย ส่วนปลาย ขนาดประมาณ 2 ซม., 2. บาดแผลฟกช้ำบริเวณโหนกแก้มซ้าย ขนาด 3 ซม., 3. บาดแผลฟกช้ำบริเวณกรามล่างด้านซ้าย ขนาดกว้าง 2 ซม., 4. บาดแผลฟกซ้ำ ขนาดกว้าง 2 ซม. ยาว 5 ซม., 5. บาดแผลฟกซ้ำบริเวณโหนกแก้มขวา ขนาดประมาณ 2 ซม. และ 6 มีอาการเจ็บบริเวณช่องท้องเหนือสะดือ และกรามเนื้อลำคอด้านซ้าย

แต่ทว่าเมื่อทาง พญ.วรัทพร สิทธิจรูญ แพทย์ผู้ทำการตรวจร่างกายให้ "น้องก้อย" ได้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสยามกีฬา โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลหรือตอบคำถามแทนผู้เข้ารับการตรวจร่างกายได้เท่านั้น