ที่สมาคมเทควันโดแห่ง ประเทศไทย ซึ่งมีนายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ''โค้ชเช'' เช ยอง ซอก ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย, คิม แจ วู ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้, วิชิต สิทธิกัณฑ์ ผู้ฝึกสอนชาวไทย และ ชัชวาล ขาวละออ ผู้ฝึกสอนชาวไทย ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

''โค้ชเช'' ยังเว้นที่นั่ง อชก. ให้น้องก้อย

        ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุการณ์นี้ว่าจะจบลงอย่างไร ''โค้ชเช'' เช ยอง ซอก กล่าวถึงในเรื่องนี้ว่าอยากให้น้องก้อยเข้ามาพูดคุยกับตนเองและจะขอโทษด้วย ตนเอง โดยวันที่แข่งขันนั้นที่เรียกน้องก้อยมาอบรมก็บอกเหตุผลตอนทำโทษแล้วว่าทำไม ถึงทำโทษเข้าใจว่าน้องเพิ่งติดทีมชาติระยะเวลาน้อยเลยไม่เข้าใจอย่างชัดเจน สิ่งที่สำคัญคือต้องเข้าใจหน้าที่ของนักกีฬาถ้านักกีฬาทำไม่ดีทำผิดก็ต้องทำ โทษทุกครั้งที่ทำไม่ได้ทำเพราะอารมณ์ แต่ทำเพราะต้องการให้นักกีฬาจดจำและมีสติจะได้ไม่ทำอีก

        ส่วนเรื่อง ''น้องก้อย'' ตนไม่เคยโกรธและยังยินดีต้อนรับกลับเข้าสู่ทีมชาติเสมอโดยเฉพาะเอเชียนเกมส์ ที่ตั้งเป้าว่าจะส่งน้องก้อยลงทำการแข่งขันในรุ่นน้ำหนัก 62 กก. ถ้าพร้อมตนก็ยินดีส่วนเรื่องบทเรียนทำงานมาในประเทศไทยมา 12 ปีรู้ดีว่าอะไรควรไม่ควร เข้าใจวัฒนธรรมดี ไม่เคยทำโทษเพราะเล่นไม่เก่ง แต่ทำโทษเพราะไม่มีวินัย ไม่มีระเบียบ ส่วนเรื่องบทลงโทษคงต้องมีการคุยกับทางผู้ใหญ่ทางสมาคมฯ อีกครั้ง อาจจะมีการปรับบทลงโทษใหม่ให้มีความเหมาะสม หลังจากปรับเปลี่ยนบทลงโทษจะมีการพูดคุยกับผู้ปกครองนักกีฬาว่ารับได้หรือ ไม่

        แต่ก็ต้องให้ทุกคนเข้าใจเหมือนกันว่ากีฬาเทควันโดเป็นกีฬา ต่อสู้ จุดประสงค์ที่สอนคือต้องการให้นักกีฬามีความอดทนมีสมาธิ ถ้ามีนักกีฬาใหม่เข้ามาก็จะมีการปฐมนิเทศ เพื่อทำความเข้าใจก่อน และในเรื่องของระเบียบวินัยนั้น นักเทควันโดที่ดีต้องมีใจสู้ ต้องขยันฝึกซ้อม ต้องมาก่อนเวลา เวลาซ้อมต้องตั้งใจต้องมีความสุภาพมีมารยาท หน้าที่ต้องทำให้เต็มที่ ไม่ว่าตอนซ้อมและแข่งขันไม่ว่าจะเป็นรายการระดับเล็กหรือระดับใหญ่

        สำหรับเรื่องนี้ตนก็อยากให้จบลง เพราะตอนนี้ตนต้องทำหน้าที่เพื่อหานักกีฬาไปแข่งขัน 2 รายการใหญ่ก็คือ ยูธโอลิมปิกเกมส์ และเอเชียนเกมส์ ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งก็อยากให้นักกีฬามีสมาธิกับการฝึกซ้อมและเป้าหมายก็คืออยากจะทำเหรียญ ทองให้ได้

  
ทำด้วยใจไม่ไม่คิดเรื่องค่าจ้างสูง

        นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามเกี่ยวกับเรื่องของเงินเดือนค่าจ้าง ว่าน้อยไปหรือไม่ ผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวลในเรื่องค่าจ้างและไม่เคยได้ทำสัญญากับทางสมาคมฯเป็นลายลักษณ์ อักษร เพราะมีความสุขที่ได้คุมทีมเทควันโดไทยตลอดการคุมทีมที่ผ่านมา ตนอยากทำให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุข และตั้งใจทำงานมาโดยตลอด เพราะคิดว่าที่นี่เหมือนเป็นบ้านหลังที่สองของตนเองนักกีฬาก็เปรียบเสมือน ลูกชายและลูกสาวส่วนคุณปรีชา ต่อตระกูล และคุณพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโด เปรียบเหมือนพ่อ อยากจะทำงานผู้ฝึกสอนให้กับประเทศไทยเป็นที่สุดท้าย

        ปรีชา ต่อตระกูล เสริมในเรื่องเงินเดือนว่า ''โค้ชเชได้รับค่าจ้างเดือนละ 60,000 บาทจากการกีฬาแห่งประเทศไทยและที่เหลือส่วนต่าง สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เป็นคนซัพพอร์ต ตั้งแต่ทำงานมาโค้ชเช ไม่เคยพูดถึงเรื่องเงินเดือนเลย ตลอดเวลาที่แข่งขันและชนะได้เงินจากการสนับสนุนยังแสดงน้ำใจด้วยการตัดส่วน แบ่งของตนเองให้กับโค้ชไทยที่ได้เงินเดือนน้อยกว่าด้วย โค้ชเช ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ฝึกสอนคนอื่นๆ เป็นคนประหยัด มัธยัสถ์ ไม่ได้เป็นคนฟุ้งเฟ้อ หากเราจ้างโค้ชชาวต่างชาติที่มีราคาถูกเข้ามาอาจจะไม่คุ้มกับผลงานที่เกิด ขึ้น

ปรีชาย้ำทีมชาติไม่ได้คัดจากเด็กเส้น

        ส่วนเรื่องของกรณีที่มีข่าวว่า สมาคมเทควันโดคัดเด็กเส้นเข้าทีมชาติ นายปรีชา ต่อตระกูล กล่าวต่อว่า ไม่เป็นความจริงเพราะก่อนที่นักกีฬาจะติดทีมชาติต้องผ่านระบบคัดเลือก คนที่ติดทีมชาติต้องได้เหรียญทอง เงิน หรือทองแดง จากการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย หรือเข้ารอบ 4 คนสุดท้าย ในการเเข่งขันกีฬาเเห่งชาติ เเละ 4 คนสุดท้ายที่เข้ารอบการเเข่งขันระดับกีฬามหาวิทยาระดับประเทศไทย ซึ่งจะได้ตัวนักกีฬาทั้ง 12 คน มาเข้าเเคมป์เก็บตัว โดยจะให้นักกีฬาได้มีโอกาสปรับตัวเเละทำความคุ้นเคยในการเก็บตัวฝึกซ้อมเป็น เวลา 2 เดือน ก่อนจะทำการประลอง

        โดยจับคู่ประลอง ใช้กรรมการผู้ตัดสิน 8 คน ในการตัดสิน โดยนักกีฬาที่จะติดทีมชาติได้ต้องเอาชนะคู่เเข่งด้วยเเต้มที่เป็นเอกฉันท์ 8-0 หากชนะ 6-2 หรือ 5-3 ซึ่งเป็นสกอร์ที่ไม่เป็นเอกฉันท์ก็จะให้นักกีฬาทำการเเข่งขันใหม่ ซึ่งเเต่ละวันเราสามารถทำการคัดเลือกได้สูงสุดถึง 6 เเมตช์ ตามที่สหพันธ์เทควันโดระบุ ถือเป็นการป้องกันการล็อบบี้กรรมการ ซึ่งเราเชื่อว่าระบบการคัดตัวที่เราใช้อยู่เป็นระบบที่ดีที่สุด เเละป้องกันเรื่องปัญหาระบบเด็กเส้นได้เเน่นอน

        อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเรื่องโลกโซเชียล ที่ทำให้เกิดกระแสข่าวอย่างรวดเร็ว เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะมีการกำหนดกฎระเบียบการให้เล่นพวกโซเชียล ทั้งเฟซบุ๊ก และการแชตต่างๆ เชื่อว่านักกีฬาจะเข้าใจในเรื่องนี้

สำนักข่าวเกาหลีเผยเข้าใจคนไทยมากขึ้น

        

        

นอกจากผู้สื่อข่าวไทยที่มาติดตามเกาะติดกระแสข่าวนี้แล้ว ผู้สื่อข่าวจากสำนักงานข่าว เอ็มบีซี นิวส์ ประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นสำนักข่าวที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประเทศเกาหลีใต้ ได้มาเกาะติดรายงานข่าวครั้งนี้ด้วย โดยผู้สื่อข่าว มู โฮ ฮอ จากสำนักข่าวเอ็มบีซี นิวส์ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไมข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่โต เพราะที่ประเทศเกาหลีใต้ถือเป็นเรื่องธรรมดาเพราะผู้ฝึกสอนนั้นจะทำโทษนัก กีฬาแบบนี้เป็นเรื่องปกติ และโค้ชเช นั้นเป็นผู้ฝึกสอนที่ดี มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่โค้ชได้อย่างดี ไม่ว่าจะตอนซ้อมและตอนแข่งขัน แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้เราเข้าใจคนไทยมากขึ้น และเราก็เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งประเทศ ไทยเเละเกาหลีใต้เเน่นเเฟ้นขึ้นกว่าเดิมอย่างเเน่นอน  

ด่วน! "โค้ชเช"เปิดใจเต็มๆ ทุกเรื่องที่คนไทยอยากรู้

 

         ซึ่ง "โค้ชเช" ได้กล่าวขอโทษประชาชนชาวไทยทุกคน และได้กล่าวถึงสาเหตุที่ทำลงไปทั้งหมดเพราะห่วงในเรื่องวินัยของนักกีฬา ที่แม้ว่าการแข่งขันรายการ "โคเรีย โอเพ่น" จะเป็นแค่รายการเล็กๆ แต่หากตนเองละเลยก็อาจจะทำให้เหตุการณ์บานปลายได้ และหลังจากนี้ตนเองก็พร้อมที่จะต้อนรับน้องก้อย กลับคืนสู่ทีมชาติเสมอ
 

โค้ชเช ประกาศเป็นโค้ชเมืองไทยแห่งสุดท้าย