จับได้แล้ว! "อ้น เพชรโชติ" หนึ่งในผู้ต้องสงสัยคดีสังหาร "เอ๊กซ์" จักรกฤษณ์
 

         หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามแกะรอยทีมสังหาร "เอ๊กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทยที่ถูกยิงเสียชีวิตคารถปอร์เช่ สีดำ ทะเบียน 2223 กรุงเทพมหานคร บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหง เขตมีนบุรี เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 19 ตุลาคม 2556 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม 1 ในทีมสังหารที่ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ คือ นายธวัชชัย เพชรโชติ หรือ อ้น อายุ 33 ปี ชาวสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้หนีไปกบดานได้ที่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา

         ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ รองผบก.น 3, พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.มีนบุรี พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เจ้าของพื้นที่ได้คุมตัวนายธวัชชัยมาทำแผนประกอบการรับสารภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มกำลังมาคุ้มกัน โดยได้มีการทำแผนถึง 5 จุด ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทุกแขนง และผู้ที่ให้ความสนใจจำนวนมาก

         จุดแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายธวัชชัยไปที่ปากซอยรามคำแหง 174 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาใช้รถยนต์กระบะอำพรางมาเฝ้าสังเกตดูความเคลื่อนไหว ของเหยื่อสังหารนานกว่า 20 วัน และยังเป็นจุดที่ได้รับการติดต่อจาก นายสันติ ทองเสม หรือ ทนายอี๊ด ยืนยันว่านายจักรกฤษณ์ขับรถออกจากซอยดังกล่าวมุ่งหน้าไปที่ซอยรามคำแหง 166 ในวันเกิดเหตุ

         จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายธวัชชัยมาที่ร้านสะดวกซื้อ ซอยรามคำแหง 174 ซึ่งเป็นจุดที่ขี่รถจักรยานยนต์พา นายจีระศักดิ์ กลิ่นคล้าย อายุ 33 ปี มือปืนไปลงมือยิงนายจักรกฤษณ์ จากนั้นได้ไปจุดที่ 3 บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ซึ่งเป็นจุดที่นายธวัชชัยขี่รถจักรยานยนต์แซงขวาให้มือปืนคือนายจีระศักดิ์ เป็นผู้ลงมือยิง ก่อนหลบหนีไปยังซอยมิสทินที่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร

         จุดที่ 4 ได้ไปทำแผนที่พักรายวันชื่อ หัสทยา วิลล่า ที่เปิดไว้พักอาศัยในช่วงสังเหตุการณ์ตลอดทั้งเดือน ในซอยรามคำแหง 187/1 แยก 4 และเป็นจุดที่ทนายอี๊ดนำเงินค่าจ้าง 2 แสนบาท เป็นค่ามัดจำก่อนลงมือ

         จุดสุดท้าย ได้ไปทำแผนที่ปากซอยถนนราษฎร์พัฒนา หรือซอยมิสทิน ที่เป็นเส้นทางที่นายธวัชชัยขับรถจักรยานยนต์หลบหนี โดยมุ่งไปที่หมู่บ้านนักกีฬา ระหว่างนี้นัดกับทนายอี๊ดเพื่อส่งมอบเงินงวดสุดท้าย และได้หลบหนีไปที่จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนจะล่องใต้ไปกบดานที่สงขลา

         หลังจากที่ทำแผนเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายธวัชชัยไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี พร้อมกับแจ้ง 3 ข้อหาคือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ครอบครอง และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกันนั้นยังคัดค้านการประกันตัวอีกด้วย พร้อมกันนั้นเตรียมที่จะรวบรวมคำให้การของนายธวัชชัยทั้งหมดไปประกอบสำนวน คดีเพื่อเป็นหลักฐานเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

         สำหรับนายธวัชชัยถือว่าเป็นผู้ต้องหาคนสุดท้ายในคดีนี้ โดยก่อนหน้านั้นผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้เข้ามอบตัวและถูกจับกุมได้ หมดแล้วประกอบด้วย "หมอนิ่ม" พญ.นิธิวดี ภู่ยศเจริญ ภรรยานายจักรกฤษณ์, นางสุปรางค์ ดวงจินดา อายุ 72 ปี มารดาของหมอนิ่ม, ที่รับสารภาพก่อนหน้านั้นว่าเป็นผู้จัดการเรื่องทั้งหมดเพราะทนเห็นลูกสาว โดนทำร้ายร่างกายไม่ได้, น.ส.วรพรรณภูรี มนตรีอารีย์กุล หรือ เจ๊แหม่ม ผู้จัดหามือปืน, นายสันติ ทองเสม หรือ ทนายอี๊ด ผู้จ้างวาน, นายจีระศักดิ์ กลิ่นคล้าย มือปืนที่รับงานยิง