"ศิ-ศศิ สินทวี" ผู้หญิงที่มีกระแสข่าวมาแรงจนเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ว่อนไปทั่วโลกโซเชียล เธอจะมาเปลือยหมดเปลือกกับทุกเรื่องที่ทุกคนต่างอยากรู้และอยากเห็นจากเธอ

ศิ-ศศิ สินทวี กระแสข่าวมาแรงจนเป็น ทอล์กออฟเดอะทาวน์ว่อนไปทั่วโลกโซเชียล แต่ก็ไม่มีใครรู้จักว่าเธอเป็นใครมาจากไหน แต่กลับถูกตราหน้าว่าเป็นมือที่ 3 ก่อนที่จะได้รู้ตื้นลึกหนาบางในเรื่องราวที่เกิดขึ้น งานนี้จริงเท็จยังไงไม่ใช่ประเด็น แต่ที่เป็นประเด็นคือ เธอจะมาเปลือยหมดเปลือกกับทุกเรื่องที่ทุกคนต่างอยากรู้และอยากเห็นจากเธอ

ตอนเด็กๆ ฝันว่าอยากเป็นอะไร?
ตอนเด็กๆ ฝันว่าอยากเป็นคุณครูเหมือนกับคุณแม่ แต่พอเริ่มโตก็มี

คนบอกว่าเราหุ่นดีก็เลยลองสมัครดู 
เวทีแรกประกวดคือ Thai super model 2011 ครั้งแรกที่ไปก็เข้ารอบ 20 คนสุดท้ายเลย จากนั้นก็เดินสายประกวดนางแบบมาโดยตลอด 

ไปเองหรือว่ามีใครชวน?
ไปเองค่ะ ไม่ได้มีใครชวนไปแบบไม่ได้มีการเตรียมตัวอะไรเลย ขนาดเดินยังเดินไม่เป็นเลย ตอนประกวดก็เดินๆ แบบที่เดินอยู่ปกติ จากนั้นก็ผ่านเข้ารอบระดับภาคเราเป็นตัวแทนจากทางภาคใต้ แต่ก็คิดนะว่าตัวเองคงไม่ได้เข้ารอบแน่ๆ เพราะคิดว่าเด็กกรุงเทพฯ สวยจะตาย

อะไรคือแรงบันดาลใจให้เข้าประกวด?
ตอนนั้นเรายังเด็กอยู่ด้วยมั้งอายุแค่ 15-16 ปีเอง ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก พอได้เห็นในทีวีก็รู้สึกสนใจ ก็เลยอยากลองไปสมัครดูไปแบบไม่ได้คิดอะไรมาก อีกอย่างเพราะคนชอบชมว่าหุ่นดี [ทำไมถึงหุ่นดี?] ก็ดูแลตัวเองประกอบกับกรรมพันธุ์ด้วยค่ะ

ตอนนี้มีผลงานอะไรบ้าง?
ส่วนใหญ่ก็เป็นงานเดินแบบถ่ายแบบเป็นหลักค่ะ และก็กำลังจะมีซิงเกิลเพลงเป็นแนวเกิร์ลกรุ๊ป แต่ตอนนี้ก็ยังบอกอะไรมากไม่ได้ แต่สไตล์เพลงจะออกแนวมันๆ ติดเซ็กซี่หน่อยๆ

วางแพลนในอนาคตไว้ยังไงบ้าง?
หลักๆ ก็ชอบงานเดินแบบ ถ้าหากมีงานไหนเสนอมาน่าสนใจเราก็ทำหมด

อาชีพนางแบบมีเสน่ห์ยังไง?
อาจจะทำงานในส่วนนี้มานานจนชิน เพราะเริ่มอาชีพนางแบบเดินแบบมาตั้งแต่อายุ 16 ปี แล้วก็ทำงานในสายงานนี้มาโดยตลอด ถ้าจะให้นับก็มากกว่าร้อยงานแล้วที่ทำมา 

ประทับใจงานไหนที่สุด?
เป็นงานของประเทศสิงคโปร์ เพราะมีคนไปแคสงานนี้ร้อยกว่าคน แต่เอาแค่ 2 คน แล้วหนูก็ได้เป็นหนึ่งในนั้นเป็นงานถ่ายแบบโปสเตอร์ เพื่อจะเอาไปโฆษณาที่สิงคโปร์

งานหรือเวทีไหนที่ทำให้เราเป็นที่รู้จัก?
การเข้าประกวดอยู่เรื่อยๆ เพราะถ้ามีการประกวดเราก็จะไปสมัครอยู่ตลอด ทำให้คนรู้จักจำหน้าจำชื่อเราได้

เป็นไงบ้างกับกระแสข่าวที่มาแรงในช่วงนี้?
ก็รู้สึกแย่นะที่เวลาไปไหนมาไหนคนก็จะรู้จักเราในภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ว่าเป็นมือที่ 3 หรือเปล่า ก็มักจะโดนนินทาต่อหน้าเราเลยก็เยอะมากแรกๆ ก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน

ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ยังไง?
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกำลังใจจากเพื่อน เพราะเพื่อนสนิทจะรู้ทุกอย่างแล้วเราก็พักอยู่ด้วยกันด้วยแล้วก็เป็นที่ ปรึกษา  ที่ดีให้กับเรา ส่วนทางบ้านก็โทรมาหาอยู่ตลอด คอยให้กำลังใจแนะนำเรา เพราะพ่อแม่คือคนที่เลี้ยงเรามาเขาก็จะรู้จักนิสัยของเราดี ว่าเราเป็นคนยังไง

แค่ขอเบอร์มันกลายมาเป็นประเด็นใหญ่โตได้ยังไง?
จริงๆ แค่เรื่องของเบอร์มันไม่ได้เป็นประเด็นอะไร แต่ที่มันกลายมาเป็นประเด็นก็เพราะมีการชวนออกไปเที่ยวหลายรอบ แต่เราก็ปฏิเสธไปหลายครั้งอยู่เหมือนกัน อาจจะทำให้คนเห็นเราอยู่ด้วยกันจนกลายมาเป็นประเด็น ตอนนี้ทุกอย่างก็จบ ต่างคนก็ต่างไม่ได้คุยกันเงียบหายกันไป

ตอนที่ให้เบอร์ไปเราไม่รู้หรอ?
ตอนที่ให้เบอร์ไปเราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรมาก ก็อาจจะเป็นการขอเบอร์ไปเพื่อติดต่อพูดคุยกันธรรมดา หรือแค่เรื่องงานเพียงเท่านั้น และอาจจะเป็นช่วงของเวลาที่ประจวบเหมาะกันพอดี ที่เขามีปัญหากันกับคนที่คบอยู่ ทำให้สื่อเอามาจับเป็นประเด็น ว่ามีใครกันเป็นมือที่สามที่ทำให้ความรักของทั้งสองคนนั้นต้องจบลง จนกลายมาเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ว่าเป็นใครกัน  

มีคนมาขอเบอร์จะระวังมากขึ้นมั้ย?
จริงๆ แล้วถ้ามีใครมาขอเบอร์เรื่องงาน เราก็จะให้เบอร์พี่ที่ดูแล มีอะไรก็ให้ติดต่อผ่านเขาหมดเลย 

ถ้าขอเพื่อจะจีบล่ะ?
คงไม่มีหรอกค่ะ ถ้าจะมีจริงๆ ก็เอา Line ไปก่อนเเล้วกันทำความรู้จัก   กันไป [จะรู้ได้ไงว่ามาดีหรือมาร้าย?] ก็ไม่รู้นะคงต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์มั้งค่อยๆ คุยกันไปทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆ

เข้ามาขอแบบไหนไม่มีทางได้เบอร์แน่นอน?
ก็แบบไม่เป็นสุภาพบุรุษพูดจากไม่ดี ไม่ให้เกียรติชอบถึงเนื้อถึงตัว เพราะนี่จะไม่ชอบผู้ชายที่พึ่งรู้จักกันครั้งแรกแล้วมาถึงเนื้อถึงตัว เพราะคิดว่ามันไม่แมนเลยสำหรับการกระทำแบบนี้    ซึ่งเราก็เจอมากเยอะเลยไม่ค่อยชอบ 

แล้วเราทำยังไง?
เราก็ค่ะๆ เรื่อยๆ ให้มันผ่านไปเมื่อวานก็พึ่งเจอมา แบบมาพูดมาคุยกับเราว่าให้อย่างงั้นอย่างงี้เอามั้ย    แต่เราก็ปฏิเสธไป แต่ก็จะมีแบบนี้อยู่ตลอดทั้งจากคนในและคนนอกวงการ

แล้วสถานะตอนนี้ล่ะ?
ก็..โสด!! ค่ะ (เสียงอ่อยๆ) 

ตอนนี้คุยอยู่กี่คน?
ก็ อืม!! [ถ้าเป็นสถานะเพื่อนล่ะ?] แหม!! ถ้าเป็นเพื่อนหรอ  ก็มีคุยอยู่เป็นร้อย 

แล้วที่คุยกันเป็นพิเศษ?
ก็ยังไม่มีนะคะ ยังคงคุยกันไปเรื่อยๆ สบายๆ กันเอง (เสียงเบาเชียว)

ดูเป็นคนเจ้าชู้นะเรา?
เปล่าเลย!! (เสียงสูงปรี๊ด) ศิว่าไม่ค่อยมีใครอยากคบศิเท่าไหร่ [ทำไมคิดแบบนั้น?] ก็ดูจากที่มหาวิทยาลัย ก็ไม่ค่อยมีใครหรือผู้ชายคนไหนเข้ามาคุยมาทักทายเราเลย    

คิดยังไงกับเรื่องรักในวัยเรียน?
มันก็ดูไม่ควรไม่เหมาะสมเพราะมันอาจจะยังไม่ถึงเวลาอันควร ควรที่จะมุ่งมั่นตั้งใจเรียนไปก่อน

ตอบดูมีหลักการแล้วเคยมีเพื่อนมาปรึกษาเรื่องเซ็กซ์มั้ย?
ก็มีอยู่ค่ะ [แสดงว่าเป็นกูรูสิท่า?] ก็เปล่านะ แค่เราก็พอมีความรู้เรื่องพวกนี้อยู่บ้าง พอดีตอนเรียนเป็นคนที่ตั้งใจเรียนวิชาสุขศึกษา (หัวเราะ)

นอกจากวิชาสุขศึกษาแล้วมีที่ไหนอีกที่เป็นแหล่งความรู้?
ก็ฟังจากคนอื่นเล่าให้เราฟังบ้าง จากข้อมูลทั่วๆ ไปที่หาอ่านได้ในอินเทอร์เน็ตแล้วก็อ่าน FHM ค่ะ

เอา FHM ของแฟนมาอ่านหรอ?
อ๋อเปล่าค่ะ ก็เคยเห็น แหม...ใครๆ   ก็รู้จัก FHM เคยเจอตามร้านหนังสือแล้วก็เปิดดูผ่านๆ ยืนอ่านบ้างก็มี

เป็นนางแบบอยู่แล้วถ่ายวันนี้ก็ขนมเลยสิ?
ก็ยังไม่รู้เหมือนกันเพราะยังไม่ได้ถ่าย แต่เป็นเรื่องงานศิก็เต็มที่ค่ะ

มีท่าโพสปวดตับที่โดนขออยู่เป็นประจำมั้ย?
ก็น่าจะเป็นท่าเท้าเอวที่น่าจะเป็นท่าเบสิก แต่ที่สำคัญคือจะทำยังไงให้ท่าเบสิกดูดีที่สุด

คิดว่าต้องโพสท่ายังไงถึงจะดูเซ็กซี่?
เราก็ต้องรู้ก่อนว่าคอนเซ็ปต์เป็น  ยังไง ชุดที่เราใส่เป็นแบบไหน ต้องการที่จะให้เรานำเสนอในเรื่องอะไร ให้ทุกอย่างมันสัมพันธ์กัน ภาพรวมก็จะออกมาดี จะเน้นการเเสดงออกทางสายตา เพื่อให้ภาพที่ออกมาดูมีอารมณ์มากยิ่งขึ้น

คิดว่าเซ็กซี่ไปมั้ยสำหรับอายุ 18ปี?
ก่อนหน้านี้ก็ค่อยถ่ายชุดว่ายน้ำมาก่อนทั้งหมดนี้ที่เราคิดก็คือการทำงาน มันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องทำ และมันก็เป็นงานที่เราชอบด้วย FHM