ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2557

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-3 ลิเวอร์พูล

สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน

          "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พลออกเยือนบ้าน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดยนัดนี้ มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกตัวแสบป้ายแดง ได้ลงประเดิมสนามตัวจริง ร่วมกับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ วัดคมแข้งจดสกอร์กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ของเจ้าบ้าน

        เริ่มเกมมา3นาที เกรียนโอ้ เกือบประเดิมซีดประตูแรกได้ หลัง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เปิดจากริมสนามฝั่งซ้าย มาที่หน้าประตู มาริโอ บาโลเตลลี่ กระโดดโขกเต็มหัว แต่ อูโก้ โยริส ยังเซฟได้อย่างหวุดหวิด

        แค่เพียง8นาทีเท่านั้น สาวกหงส์แดง ได้เฮกันลั่น เมื่อ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กระชากบอลขึ้นไปทางฝั่งขวาของสนาม ก่อนไหลบอลให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หลุดไปเปิดบอลให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่รออยู่เสาสอง ยิงยัดเสาแรก ให้ ลิเวอร์พูล บุกนำ 1-0

        นาทีต่อมา สเปอร์ส เกือบตามเสมออย่างรวดเร็ว เมื่อ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หลุดไปกระดกบอลข้ามตัว ซิมง มินโญเลต์ ไปแล้ว แต่บอลโด่งไปตรงหลังคาเพดานไป

        นาทีที่26 ลิเวอร์พูล เสียใบเหลืองไปก่อน เมื่อ โจ อัลเลน ไปเจตนาดึง เอริค ลาเมล่า ในจังหวะโต้กลับของทีมตราไก่ เลยไม่รอดรับใบเหลืองคนแรกของเกม

        เกมผ่านครึ่งชั่วโมง บาโลเตลลี่ ทำหมูหกอย่างน่าเสียดายเมื่อ อูโก้ โยริส ออกมาเคลียร์บอลนอกกรอบไม่ดี บอลมาเข้าทาง ซูเปอร์มาริโอ แต่ หัวหอกอิตาเลี่ยน กลับยิงไม่ดี บอลออกหลังไปแบบไม่มีลุ้น

        นาทีที่36 ลิเวอร์พูล รับใบเหลืองอีกใบ เมื่อ ฆาบี มานกีโย่ ไปเสียบหนักใส่ แดนนี่ โรส เลยไม่รอดรับใบเหลืองอีกราย

        นาทีที่42 เจ้าบ้าน พลาดโอกาส ตีเสมออย่างน่าเสียดาย เมื่อแนวรับ ลิเวอร์พูล พลาด เปิดโอกาส นาเซอร์ ชัดลี่ หลุดไปล่อเป้า ในกรอบเขตโทษ แต่ นาเซอร์ ชัดลี่ ยิงไม่ห่าง ซิมง มินโญเลต์ จึงถูกเซฟไว้ได้อย่างหวุดหวิด

        ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไร กันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาครึ่งแรก ลิเวอร์พูล จึงบุกนำ สเปอร์ส 1-0

        นาทีที่48 สกอร์ของ ลิเวอร์พูล ไหลไปเป็น2-0 หลัง เอริค ไดเออร์ ไปดึง โจ อัลเลน ล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน ฟิล ดาวด์ ชี้เป็นลูกจุดโทษทันที ก่อน สตีเว่น เจอร์ราร์ด สังหารไม่พลาด

        10นาทีต่อมา สเปอร์ส เปลี่ยนทีเดียว2ตัว โดยส่ง แอนดรอส ทาวน์เซนด์ กับ มูซ่า เดมเบเล่ ลงมาแทน คริสเตียน เอริคเซ่น กับ นาบิล เบนทาเลบ

        แต่แล้วนาทีที่60 สัมผัสบอลแรกของ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ก็ทำทีมเสียประตู เมื่อถูก อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ฉกบอลจากฝั่งลิเวอร์พูล ก่อนแบ็คซ้ายป้ายแดง จะโซโล่เดี่ยว ลากขึ้นมายิงยัดเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม หงส์แดง นำห่าง 3-0

        2นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล เปลี่ยน2ตัวบ้าง โดยส่ง เอ็มเร่ ชาน กับ ลาซาร์ มาร์โควิช ลงมาแทน โจ อัลเลน กับ มาริโอ บาโลเตลลี่

        นาทีที่66 ลิเวอร์พูล ลงไปรับในแดนตัวเองลึกขึ้น และใช้จังหวะโต้หลับเล่นงานเจ้าถิ่น โดยขึ้นบอลมาจาก ราฮีม สเตอร์ลิง ก่อนจ่ายให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ โยกกดยิงระยะ20หลา แต่ อูโก้ โยริส ยังเซฟได้อยู่

        นาทีที่72 สเปอร์ส เปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่ง เบน เดวิส ลงมาเล่นแทน แดนนี่ โรส

        2นาทีต่อมา หงส์แดง รับใบเหลือง คนที่สาม เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิง ไปฟาวส์หนักใส่ ยูเนส กาบูล เลยรับไปอีกคน

        ก่อนหมดเวลา5นาที ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่ง โฆเซ่ เอ็นริเก้ ลงมาแทน ราฮีม สเตอร์ลิง

        ช่วงเวลาที่เหลือ ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา ลิเวอร์พูล จึงบุกเอาชนะ สเปอร์ส ไปด้วยสกอร์สวย 3-0

11นักเตะของทั้งสองทีม

สเปอร์ส (4-4-2) : อูโก้ โยริส, เอริค ไดเออร์, ยูเนส กาบูล, ยาน แฟร์ทองเก้น, แดนนี่ โรส, เอเตียน กาปู, นาบิล เบนทาเลบ, เอริค ลาเมล่า, คริสเตียน เอริคเซ่น, นาเซอร์ ชัดลี่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

สำรอง:วลาด คิริเชส,ลูอิส โฮลท์บี้,แอนดรอส ทาวน์เซนด์,แฮรี่ เคน,มูซ่า เดมเบเล่,แบร็ด ฟรีเดล,เบน เดวิส

ลิเวอร์พูล (4-4-2) : ซิมง มินโญเลต์, ฆาบี มานกีโย่,มามาดู ซาโก้, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน,ราฮีม สเตอร์ลิง,มาริโอ บาโลเตลลี่,แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

สำรอง:แบร็ด โจนส์,ฟิลิปเป้ คูตินโญ่,โฆเซ่ เอ็นริเก้,โคโล่ ตูเร่,ริกกี้ แลมเบิร์ต,เอ็มเร่ ชาน,ลาซาร์ มาร์โควิช

 ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์