ถึงจะเคยผ่านงานละครมาบ้างแต่ดูเหมือนแอคติ้งของ วุ้นเส้น วิริฒิพา จะดีขึ้นตามลำดับ แม้นางจะทิ้งห่างงานละครมานานถึง 2 ปีแต่พอได้มารับบท พิมพ์อร ในละครเรื่อง รากบุญ2 ตอนรอยรัก แรงมาร นางก็เคาะสนิทใส่อินเนอร์เต็มที่จนแฟนๆ ละครหลายคนอกปากชมว่าการแสดงดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ ซึ่งสาว วุ้นเส้น เองก็ปลื้มอกปลื้มใจกับฟีดแบ็คที่ได้ จนละคร รากบุญ2 กลายเป็นละครเรื่องโปรดของนางที่สุดตั้งแต่ที่เล่นละครมา

“สำหรับละครที่วุ้นเคยเล่นมาถ้าให้เลือกว่าชอบเรื่องไหนมากที่สุดก็คงจะเป็นเรื่อง รากบุญ2 นี่แหละค่ะ เพราะว่าหนึ่งเลยเป็นบทบาทใหม่ที่เราไม่เคยเล่นมาก่อน แล้วเราไม่คิดว่าเราจะทำได้ เพราะบทของเรื่องนี้ยากมากสำหรับวุ้น ไปกองวันแรกเราอยากถอนตัวเลย เพราะบทมันยากจริงๆ ค่ะ"

“แล้วแอคติ้งโค้ชเขาก็พูดตรงทุกอย่าง ว่าการแสดงของเราตรงนี้ยังติดอยู่ ตรงนั้นก็ยังไม่ได้ เราก็ใจแป้ว ทำไมข้อเสียเราเยอะจัง หรือเราจะไม่เหมาะกับบทนี้หรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ฮึดสู้แล้วก็ผ่านมันไปได้ค่ะ “

“ตอนนั้นที่ฮึดสู้วุ้นก็พยายามคิดว่าคนอื่นเขายังเล่นได้ เราก็ต้องเล่นได้ คือเราไม่ค่อยได้เล่นละครไง นานๆ ทีเล่น อย่างเรื่องนี้ก็ห่างจากเรื่องก่อนๆ ไปถึง 2 ปี ตอนแรกๆ มันก็เลยยังขัดๆ หน่อย เพราะเราไม่รู้ว่าต้องแอคติ้งยังไง แต่พอเล่นไปเล่นมาเราก็เริ่มอินกับบทพิมพ์อรมากขึ้นเลยทำให้แสดงออกมาดีขึ้นตามลำดับค่ะ”

“ซึ่งฟีดแบ็คเรื่องนี้ก็แรงเกินคาด รู้สึกดีใจมาก นานๆ จะมีคนชมเพราะฉะนั้นต้องเล่นละครต่อค่ะ(ยิ้มหวาน) ตัววุ้นเองไม่ได้คาดหวังว่าคนจะดูเยอะหรือคนจะดูน้อยแค่มีคนดูเราก็ดีใจแล้วค่ะ”

ฟีดแบ็คจากสามีเป็นยังไงบ้าง “เขาก็ชมบ้างค่ะแล้วแต่ฉาก บางฉากเขาก็เอ๊ะ ฉากนี้พึ่งเริ่มเล่นหรือเปล่าแต่ฉากหลังๆ ก็เริ่มดีขึ้นเพราะเราอินกับตัวละครมากขึ้นเขาก็ชมค่ะ”

นอกจากสามีจะชมแล้วคอละครในโลกไซเบอร์ส่วนใหญ่ก็วิจารณ์การแสดงของ วุ้นเส้น ไปในทิศทางเดียวกันว่า “แอคติ้ง” ของนางดีขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆ เยอะ แม้ว่าบท พิมพ์อร จะร้ายหลบในภายนอกต้องดูดี ซึ่งก็น่าจะเล่นยากสำหรับนักแสดงที่ห่างจากงานละครมานานว่าจะตีบทอย่างไรให้ออกมาสมูทที่สุด และเข้าถึงตัวละครมากที่สุดเพื่อให้แฟนๆ ละครดูแล้วอินไปกับตัวละครนั้น ซึ่งวุ้นเส้นก็สามารถแสดงออกมาได้ดีเหมาะสมกับการเป็น พิมพ์อร จริงๆ ทำให้ฟีดแบ็คจากละครเรื่องนี้ของนางแรงเกินความคาดหมาย สาวๆ ส่วนหนึ่งยังแต่งหน้าตามเทรนด์ของ พิมพ์อร เลยจ้า

ดังนั้นความดีความชอบในการพัฒนาฝีมือการแสดงของวุ้นเส้นในเรื่องนี้ นอกจากจะยกให้เจ้าตัวแล้วยังยกให้กับ ผู้กำกับละครและแอคติ้งโค้ชด้วยที่ช่วยกับขัดเกลาจนนางสามารถตีบทบาทได้แตกกระจุย