This is It : ฟันเฟืองที่หายไปของหงส์แดง
Posted 22/09/2014 by goal.com
หลังจากที่ออกสตาร์ทได้อย่างย่ำแย่สำหรับลิเวอร์พูล ทำให้เกิดเครื่องหมายคำถามมากมายกับทีมรองแชมป์เมื่อปีที่แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?
หลังจบพรีเมียร์ลีกสัปดาห์ที่ 5 ซึ่ง น่าจะถือว่านานพอให้ทั้ง 20 ทีมที่ร่วมชิงชัยได้ตั้งหลักและปรับตัวกัน บางสายตาของผู้ติดตามแวดวงลูกหนังผู้ดีก็เริ่มหันไปโฟกัสทีมรองแชมป์จอม เซอร์ไพรส์เมื่อปีก่อนอย่างลิเวอร์พูล เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา หลังพ่ายเป็นนัดที่ 3 แล้วในฤดูกาลนี้ ทั้งที่ฤดูกาลก่อน กว่าที่พวกเขาจะสะกดคำว่าแพ้ครั้งที่สามนั้นต้องรอถึงเดือนธันวาคม
คำถามแรกสำหรับสาวก เดอะ ค็อปก็คือ เป้าหมายของพวกเขาในฤดูกาลนี้ควรจะเป็นอะไร เมื่อต้องลงเล่นถึง 4 รายการเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี - รักษาโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือแชมป์ลีกสูงสุดที่รอคอยมายาวนา
ไม่ว่าเป้าหมายจะอยู่ตรงไหน ด้วยสภาพทีมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หงส์แดงต้องลำบากไม่น้อยจากฟ้าผ่าครั้งใหญ่ในช่วงหน้าร้อน เมื่อต้องเสียหลุยส์ ซัวเรซไปให้บาร์เซโลนาแบบช็อคความรู้สึกแฟนบอล หลังจากที่ดาวยิงอุรุกวัยไปก่อเรื่องฉาวที่บราซิล และโดนแบนยาวถึง 4 เดือน
เมื่อเสียดาวยิงคนสำคัญเมื่อฤดูกาลที่แล้วไป ช่วงเวลาในตลาดซื้อขายของหงส์แดงจึงเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ จากที่เป้าหมายตอนแรกของทีมคือแก้ไขแนวรับเป็นหลัก กลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องควานหาศูนย์หน้ามาทดแทนซัวเรซ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ไปพร้อมๆ กัน
หลังจากมีข่าวลือกับหัวหอกมากมาย สุดท้ายพวกเขาก็ได้ตัวมาริโอ บาโลเตลลี ศูนย์หน้าเจ้าปัญหาที่ไม่เคยมีใครกังขากับฝีเท้าในสนามมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์
แนวรุกของหงส์แดงเริ่มกลับมาร้อนแรงและดูมีอนาคตอีกครั้ง เมื่อได้เกรียนโอ้มาร่วมทีม และเจ้าตัวก็ประเดิมนัดแรกได้อย่างสวยหรูด้วยการสามคะแนนจากการบุกไปเอาชนะ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ถึง 3-0 แต่หลังจากนั้นทีมก็ต้องช็อคอีกครั้งด้วยการพ่ายต่อแอสตัน วิลลาไป 0-1 ทั้งที่เป็นฝ่ายครองเกมบุกได้เหนือกว่าตลอดทั้งเกม
ตามมาด้วยเกมที่เอาชนะลูโดโกเร็ตส์ไปได้ 2-1 แบบหืดจับ ทั้งที่เจอคู่ต่อสู้เป็นรองหากเทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ เมื่อผนวกรวมกับเกมล่าสุดซึ่งบุกไปพ่ายเวสต์แฮม 1-3 ทำให้แฟนบอลหงส์แดงคงเริ่มคิดถึงซัวเรซอีกครั้ง ไปพร้อมๆ กับก่นด่าความเปราะบางในแนวรับของทีม ที่เป็นสาเหตุสำคัญให้พวกเขาพลาดแชมป์เมื่อฤดูกาลก่อนในบั้นปลาย
ผลงานของซัวเรซเป็นสิ่งสำคัญที่ทำ ให้ลิเวอร์พูลคว้าตำแหน่งรองแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หลังซัดไปทั้งสิ้น 31 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 33 นัด พร้อมคว้ารางวัลดาวซัลโวของยุโรปรวมถึงในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
ทั้ง 31 ประตูดังกล่าว แปรเปลี่ยนเป็นผลงานที่ไม่เคยแพ้ใครเลยของลิเวอร์พูลเมื่อดาวยิงชาวอุรุกวัย ทำประตูได้ โดยนับเป็นชัยชนะถึง 16 นัด และเสมอเพียง 2 นัดเท่านั้น โดยเฉลี่ยแล้ว เจ้าตัวยิงทุก 95.6 นาที หรือเกือบทุกเกมที่ได้ลงสนาม
ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับผลงานของทีมหงส์แดง แม้สุดท้ายพวกเขาจะไปไม่ถึงฝั่งฝันด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 19 มาประดับตู้โชว์ก็ตาม
เมื่อเสียซัวเรซไป ไม่ว่าแฟนหงส์คนไหนก็คงคาดหวังให้ทีมเดินหน้าต่อได้อย่างไร้ปัญหา - สโมสรต้องยิ่งใหญ่กว่าใครสักคน - แต่หลักฐานที่เด่นชัดในฤดูกาลนี้ คือศักยภาพแนวรุกของพวกเขาตกลงไปพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออาการบาดเจ็บมาพรากโอกาสลงสนามของดาเนียล สเตอร์ริดจ์ไปอีกราย ยิ่งทำให้ภาระทุกอย่างลงมาอยู่บนบ่าของหน้าใหม่ที่ใครๆ ก็รู้ดีถึงความเอาแน่เอานอนไม่ได้อย่างมาริโอ บาโลเตลลี ใครเล่าจะเชื่อว่าทีมที่ซัดไปได้ 101 ประตูเมื่อฤดูกาลที่แล้วจะประสบปัญหาอย่างหนักในการทำประตูหลังผ่านไป 5 นัดในฤดูกาลนี้
หลายคนอาจมองว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ดาวยิงแต่เป็นการสร้างสรรค์โอกาส แต่จากสถิติทั้ง 5 เกมที่ผ่านมา หลักฐานที่ชัดเจน คือ ลิเวอร์พูลมีโอกาสยิงถึงเลขสองหลักในทุกๆ เกม
พบ เซาแธมป์ตัน มีโอกาสยิงทั้งหมด 12 ครั้ง ยิงตรงกรอบ 5 ครั้ง แปรเปลี่ยนเป็นประตูได้ 2 ประตู
พบ แมนเชสเตอร์ ซิติ้ ที่มีโอกาสยิงทั้งหมด 11 ครั้ง ยิงตรงกรอบ 3 ครั้ง แปรเปลี่ยนเป็นประตูได้ 1 ประตู
พบ สเปอร์ มีโอกาสยิงทั้งหมด 17 ครั้ง ยิงตรงกรอบ 8 ครั้ง แปรเปลี่ยนเป็นประตูได้ 3 ประตู
พบ แอสตัน วิลลา มีโอกาสยิงทั้งหมด 18 ครั้ง ยิงตรงกรอบ 1 ครั้ง แปรเปลี่ยนเป็นประตูได้ 0 ประตู
พบ เวสต์แฮม มีโอกาสยิงทั้งหมด 11 ครั้ง ยิงตรงกรอบ 5 ครั้ง แปรเปลี่ยนเป็นประตูได้ 1 ประตู
หากรวมสถิติทั้งหมดแล้ว ลิเวอร์พูลสร้างสรรค์โอกาสได้ทั้งสิ้น 69 ครั้ง ซัดตรงกรอบ 22 ครั้ง ทว่าแปรเปลี่ยนเป็นประตูได้เพียง 7 ลูกเท่านั้น เราลองมาคิดกลับกัน หากโอกาสทั้งหมดนั้นเป็นฝีเท้าของหลุยส์ ซัวเรซ เขาจะแปรเปลี่ยนป็นประตูได้กี่ประตู
ขณะที่แนวรับยังคงมีปัญหาเมื่อพวกเขาเก็บคลีนชีทได้เพียงนัดเดียวเท่า นั้นในฤดูกาลนี้ การที่ไม่อาจรักษาจุดแข็งที่แกร่งที่สุดในลีกของทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่าง เกมบุกเอาไว้ได้ คือสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่งต่อโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งมีผลต่อรากฐานของทีมในระยะยาว
ลิเวอร์พูลในเวลานี้ เหมือนต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง สำหรับการควานหาดาวยิงที่เป็นตัวความหวังในการจบสกอร์ พวกเขาเคยมีประสบการณ์มากมายกับการต้องเสียดาวยิงตัวเก่งไป ไล่ตั้งแต่เอียน รัชในปี 1996 , ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ในปี 2001, ไมเคิล โอเวน ในปี 2004, เฟอร์นันโด ตอร์เรส 2011 และล่าสุดกับหลุยส์ ซัวเรซในปี 2014
แล้วใครจะเป็นขวัญใจของทีมคนต่อไป มาริโอ บาโลเตลลี จะเดินตามรอยดาวยิงเหล่านี้ หรือจะกลายเป็นกองหน้าที่แฟนหงส์ต่างเอือมระอาเหมือนแอนดี้ แคร์โรลล์
หากเป็นมาริโอ บาโลเตลลีจริง เขาต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการพัฒนาฝีเท้าเป็นสุดยอดดาวยิง และถ้าไม่ใช่ ใครคือสุดยอดดาวยิงคนต่อไปในถิ่นแอนฟิลด์
แน่นอนว่าคำตอบของคำถามเหล่านี้คงยังอยู่ในสายลม แต่ที่แน่ๆ ก็คือพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2014-15 คงไม่รอคอยการควานหาฟันเฟืองที่หล่นหายชิ้นนี้ และเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องหาหนทางที่ “อย่างน้อยที่สุด” จะต้องนำทีมเก็บแต็มให้ได้อย่างสม่ำเสมอ แม้จะไม่สวยงามหรือหวือหวานัก เพื่อรักษาโอกาสในการลุ้นโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไม่ให้หลุดลอยไปไกลไวกว่าที่ควรจะเป็น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
คาร์ร่าชี้ผีพลาดไม่ซื้อแนวรับระดับโลกร่วมทัพ
เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตแข้งดัง ชี้ชัดฟันธง แมนฯ ยูไนเต็ด ดำเนินนโยบายซื้อผู้เล่นผิดพลาด หลังทุ่มตังค์ไปกับการเสริมแกร่งเกมรุก โดยไม่แยแสเกมรับ และสิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในแมตช์ล่าสุดที่แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-5 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโปลิศผู้ดีเข้ม!สอบหนักหลังบาโลโดนเหยียดผิว
เจ้าหน้าที่ตำรวจของย่านเมอร์ซี่ย์ไซด์ ระบุ ตอนนี้พวกเขาเปิดฉากสอบสวนถึงประเด็นที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอก ลิเวอร์พูล โดนเหยียดผิวผ่านโลก ทวิตเตอร์ แล้ว โดยประเด็นที่ทำให้ "ซูเปอร์มาริโอ" โดนเหยียดผิวในครั้งนี้ มาจากการที่เขาโพสต์ข้อความเยาะเย้ย แมนฯ ยูไนเต็ด ที่พ่าย เลสเตอร์ 3-5 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาบาโลโดนเหยียดผิวหลังเย้ยผีพ่ายจิ้งจอก
มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอก ลิเวอร์พูล ถูกเหยียดผิวเต็มๆ หลังไปเย้ยหยัน แมนฯ ยูไนเต็ด ที่พ่าย เลสเตอร์ แบบชวนช็อก 3-5 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
นโยบายล่อตา!โรนัลโด้ อาสาดึง เป๊ป คุมบราซิล หากได้เป็นบิ๊กส.บอล
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อดเซิ้งบอลโลก 2026 ! ฟีฟ่า, ยูฟ่า มติแบน รัสเซีย ต่อไป
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์