ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี

               วันพุธที่ 1 ตุลาคม 2557

            ลูโดโกเรตส์ (บัลแกเรีย) 1 - 2 เรอัล มาดริด (สเปน)

สนาม : สตาดิโอน วาซิล เลฟสกี้ (โซเฟีย, บัลแกเรีย), (สนามกลาง)

            ลูโดโกเรตส์ แชมป์ลีกบัลแกเรีย ประเดิมนัดแรกพ่ายลิเวอร์พูล 1-2 แต่ถือว่าทำผลงานได้ดี แถมผลงานในบ้านเกมยุโรปสามเกมหลังไม่แพ้เลย นัดนี้ได้ วลาดิสลาฟ สโตยานอฟ นายทวารมือหนึ่งพ้นโทษแบนกลับมาเฝ้าเสา ส่วนสามประสานแดนหน้าใช้งาน ดานี่ อบาโล่, โรมัน เบซยัค และ มิฮาอิล อเล็กซานดรอฟ ลงล่าตาข่าย

            ทางด้าน ''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นก่อน ฟอร์มดุเหลือเกินชนะรวด 4 เกมหลังสุดในทุกรายการ ยิงเบ็ดเสร็จ 20 ประตูด้วยกัน เกมนี้ชุดขาวต้องขาด ซามี่ เคดิร่า กองกลางทีมชาติเยอรมันที่ผ่าตัดเอ็นหลังหัวเข่า และ เฆเซ่ โรดริเกซ (หัวเข่า) รวมถึง ฟาบิโอ โคเอนเตรา แบ็กซ้ายโปรตุกีสที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว

            แนวรุกให้ อีสโก้ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทำเกมรุกร่วมกับ แกเร็ธ เบล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดยมี ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" กองหน้าทีมชาติเม็กซิโก ยืนเป็นตัวเป้า

            เปิดฉากครึ่งแรกมาได้แค่ 6 นาที เจ้าบานพลิกขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ได้ลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ฟาบิโอ เอสปินโญ่ เปิดมาเสาแรก คอสมิน โมติ ทะยานขึ้นโหม่งเช็ดบอลไปโดนตัวของ เซร์คิโอ รามอส กองหลังของเรอัล มาดริดมาเข้าทางของ มาร์เซลินโญ่ โขกจ่อๆจากระยะแค่ 2 หลาเข้าประตูไปช่วยให้ ลูโดโกเร็ตส์ ออกนำก่อน 1-0

            สี่นาทีต่อมา เรอัล มาดริด มาได้จุดโทษ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" กองหน้าตัวเก่งชาวเม็กซิกัน โดน ยอร์ดาน มิเนฟ ทำฟาวล์ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าทันที ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารด้วยขวา แต่ วลาดิสลาฟสโตยานอฟ นายทวารของลูโดโกเรตส์ ลอยตัวปัดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

            ผ่านมา 14 นาที คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ราชันชุดขาว หลุดเข้าไปซัดบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

            ลูโดโกเร็ตส์ ได้ลุ้นจากลูกเตะมุมอีกครั้งในนาที 22 คอสมิน โมติ สอดไปที่เสาสองหลัง อีเกร์ กาซียาส นายทวารเรอัล มาดริด ปัดบอลพลาด ยังดีบอลหลุดกรอบออกไป

            ทว่า 2 นาทีต่อมา เรอัล มาดริด ได้ลูกโทษอีกครั้ง คอสมิน โมติ ของเจ้าถิ่นทำฟาวล์ใส่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จากทางด้านหลัง คราวนี้ดาวยิงโปรตุกีส ไม่พลาดโดยเลือกยิงไปทางเดิม แต่สโตยานอฟ พุ่งไม่ถึง บอลเข้าประตูไปให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 และเป็นประตูที่ 1,001 ของเรอัล มาดริด ในฟุตบอลสโมสรยุโรปด้วย

            เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 32 ทีมเยือนลุยขึ้นมาอีกครั้งฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" โขกเน้นๆ แต่ไม่ผ่านมือสโตยานอฟ

            ท้ายครึ่งแรกนาที 42 เป็นจังหวะลุ้นของชุดขาวอีกครั้ง อีสโก้ พาบอลเข้าเขตโทษก่อนดีดให้ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" ซัดหลุดกรอบไปอีก หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1

            มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เรอัล มาดริด เปิดเกมรุกหนักแล้วมีโอกาสออกนำนาที 52 เมื่อแกเร็ธ เบล ได้ขึ้นโขกสะบัดเต็มหัว ทว่า สโตยานอฟ นายทวารเจ้าบ้านบินปัดมือเดียวได้อย่างเหลือเชื่อ

            ลูโดโกเร็ตส์ ไม่ยอมง่ายๆ เหมือนกัน เกือบได้ประตูออกนำ เมื่อ มาร์เซลินโญ่ จับบอลหน้าเขตโทษแล้วยิงปั่นโค้งจะให้เสียบเสาสอง กาซียาส นายทวารเรอัล มาดริด ต้องบินปัดมือเดียวทิ้งไป

            ล่วงเลยมานาทีที่ 68 เรอัล มาดริด ได้โอกาสจากจังหวะที่ โรนัลโด้ สอดไปรับบอลที่เสาสองแล้วยิงผ่าน สโตยานอฟ ไปแล้ว ทว่า มิเนฟ กองหลังของลูโดโกเรตส์ มาเคลียร์ทิ้งบนเส้นได้เหลือเชื่อ

            อย่างไรก็ตามนาทีที่ 77 ราชันชุดขาว มาได้ประตูแซงนำจนได้จากจังหวะที่ มาร์เชโล่ เปิดบอลจากกราบซ้ายไปหน้าประตูให้ คาริม เบนเซม่า ที่ลงมาเป็นสำรองแปด้วยซ้ายจ่อๆ ไม่มีพลาดช่วยให้ เรอัล มาดริด แซงนำ 2-1

            เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก ครบ 90 นาที เรอัล มาดริด บุกมาชนะ ลูโดโกเรตส์  2-1 เก็บชัยสองนัดรวด นำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม บี. ต่อไป

            รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

            ลูโดโกเรตส์ : วลาดิสลาฟ สโตยานอฟ - จูเนียร์ ไคซาร่า, คอสมิน โมติ, อเล็กซานดร้า อเล็กซานดรอฟ, ยอร์ดาน มิเนฟ - สเวโตสลาฟ ดยาคอฟ (กัปตันทีม), มาร์เซลินโญ่ (วานแดร์สัน น.70), ฟาบิโอ เอสปินโญ่ (อนิเซ็ต อาเบล น.82) - ดานี่ อบาโล่, โรมัน เบซยัค, มิฮาอิล อเล็กซานดรอฟ (เวอร์กิล มิซิดยาน น.82)
            สำรองไม่ได้ใช้ : มิลาน บอร์ยาน (ผู้รักษาประตู) - บรายัน อังกูโล่, ฮริสโต้ ซลาตินสกี้, ยูเนส ฮัมซ่า

            เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ - ลูก้า โมดริช (โทนี่ โครส น.73), อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ - แกเร็ธ เบล, อีสโก้ (ฮาเมส โรดริเกซ น.76), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" (คาริม เบนเซม่า น.67)
            สำรองไม่ได้ใช้ : เคย์ลอร์ นาวาส (ผู้รักษาประตู) - เปเป้, ดาเนียล การ์บาฆัล, นาโช่ เฟร์นานเดซ

            ผู้ตัดสิน : เคร็ก ธอมป์สัน (สกอตแลนด์)