ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

            วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2557 

             แมนฯ ซิตี้ 4-1 สเปอร์ส

สนาม:เอติฮัด สเตเดี้ยม

          มานูเอล เปเยกรีนี่ กุนซือทีมเรือใบ ปรับเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่ง หลังสภาพฟิตผู้เล่นล้าจากเกมทีมชาติ โดยเกมนี้ ใช้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' เป็นหน้าเป้า ส่วนฝั่งอาคันตุกะผู้มาเยือน ''ไก่เดือยทอง'' วาง โรแบร์โต้ โซลดาโด้ ยืนตัวจริง

     เริ่มเกมมา5นาที เป็นทีมเยือน สเปอร์ส ได้ยิงทักทายก่อน เมื่อ นาเซอร์ ชาดลี่ ขึ้นบอลมาทางฝั่งซ้ายของสนามก่อนเลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษ และไหลให้ ไรอัน เมสัน กดยิงแต่บอลไม่เข้ากรอบ

     2นาทีต่อมา สเปอร์ส เปิดเกมได้ดุ และก็มีโอกาสทอง เมื่อ โรแบร์โต้ โซลดาโด้ เปิดบอลให้ ไรอัน เมสัน หลุดไปดวลเดี่ยว โจ ฮาร์ท ในกรอบเขตโทษ แต่ เมสัน ยิงไม่ผ่าน โจ ฮาร์ท

     นาทีที่14 กลายเป็นเจ้าบ้านได้เฮกันลั่น เมื่อ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จ่ายบอลให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดึงบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดตูมเดียวไม่เหลือ แมนฯซิตี้ นำ1-0

     แต่3นาทีต่อมา กลายเป็นแฟนไก่เดือยทองได้เฮบ้าง เมื่อ ไรอัน เมสัน ไปตัดบอลจาก แฟร์นานโด บอลมาเข้าทาง โรแบร์โต้ โซลดาโด้ ลากมาจ่ายให้ คริสเตียน อีริคเซ่น กดยิงคนเดียวไม่เหลือ สเปอร์ส ตามเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว

     แต่แล้วนาทีที่19 เจ้าบ้านได้เฮอีกครั้ง เมื่อ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ไปถูก เอริค ลาเมล่า กระแทกล้มจากด้านหลัง ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกจุดโทษให้ทันที

     ก่อน เซร์คิโอ อเกวโร่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ สเปอร์ส อีกครั้ง 2-1 โดย2ประตูที่เกิดขึ้นของ เอล กุน เกมนี้ทำให้เขาขึ้นแท่นเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ แมนฯ ซิตี้ ทันที ด้วยจำนวน 59 ประตู นำหน้าเหนือ เตเวซ 58 ประตู และ เชโก้ 48 ประตูแล้ว

     นาทีที่27 แมนฯซิตี้ ต้องเปลี่ยนตัวครั้งแรก เมื่อ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง แฟร์นันดินโญ่ ลงมาแทน

     นาทีที่31 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮอีกครั้ง เมื่อ ยูเนส กาบุล ไปเข้าเสียบ ดาบิด ซิลบา แบบโฉ่งฉ่างเลยไม่รอดเสียจุดโทษเป็นลูกที่สองในเกม

     แต่แล้ว เซร์คิโอ อเกวโร่ ยังไม่สามารถทำแฮตทริกให้ตัวเองได้ หลังยิงไปติดเซฟ อูโก้ โยริส แม้จะตามซ้ำแต่บอลก็ข้ามคานออกหลังไป สเปอร์ส รอดเสียประตูเพิ่มไป

     นาทีที่34 มีใบเหลืองใบแรก เมื่อ ไรอัน เมสัน ไปตัดฟาวส์ แฟร์นานโด ก่อน2นาทีต่อมา ทีมเยือนจะรับเพิ่ม เมื่อ เอริก ดายเออร์ ไปตัดฟาวส์ กาแอล กลิชี่

     ก่อนหมดเวลา5นาที คริสเตียน อีริคเซ่น ได้โอกาสสับไกยิงนอกกรอบ แม้บอลจะตรงตัว โจ ฮาร์ท แต่ดวยน้ำหนักบอลที่แรง ทำให้ โจ ฮาร์ท ตัดสินใจทุบทิ้งไป

     ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก แมนฯซิตี้ จึงนำ สเปอร์ส อยู่ 2-1

     เริ่มครึ่งหลังมาสามนาที เซร์คิโอ อเกวโร่ ยังป่วนแนวรับ สเปอร์สได้ตลอด แล้วก็มีโอกาสยิง แต่บอลยังไม่ผ่าน อูโก้ โยริส ที่เซฟไว้ได้อีกครั้ง

     นาทีที่55 แมนฯซิตี้ รับใบเหลืองไปบ้าง เมื่อ เฆซุส นาบาส ไปสอย นาเซอร์ ชาดลี่ ร่วงจากด้านหลัง เลยรับไปคนแรกของทีมเจ้าถิ่น

     3นาทีต่อมา สเปอร์ส พยายามจะฟ้องเอาจุดโทษ เมื่อ คริสเตียน อีริคเซ่น ยิงบอลไปถูกมือของ บาการี่ ซาญ่า ในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินเฉย แมนฯซิตี้ รอดเสียจุดโทษหวุดหวิด

     เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง สเปอร์ส เปลี่ยนตัว โดยส่ง แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ลงมาแทน ยูเนส กาบุล และส่ง มุสซ่า เดมเบเล่ ลงมาแทน เอริค ลาเมล่า

     นาทีที่62 แฟน สเปอร์ส ได้ลุ้นกันบ้าง เมื่อ มาร์ติน เดมิเคลิส ไปสอย โรแบร์โต้ โซลดาโด้ ล้มในกรอบเขตโทษ

     แต่ โรแบร์โต้ โซลดาโด้ ยิงไม่ดี รวมถึง โจ ฮาร์ท เดาทางถูก พุ่งปัดด้วยมือเดียว ทีมไก่เดือยทองชวดได้ประตูเสมอ

     นาทีที่66 สเปอร์ส ต้องเหลือผู้เล่น10คน เมื่อ เฟเดริโก ฟาซิโอ ไปเจตนาดึง เซร์คิโอ อเกวโร่ ล้มในกรอบเขตโทษ โดนใบแดง และเสียจุดโทษ

     ก่อน เซร์คิโอ อเกวโร่ ลุกขึ้นมาสังหารคราวนี้ ไม่พลาด ยิงให้ทีมนำ 3-1 พร้อมทำแฮตทริกได้สำเร็จฃ

     ทั้งสองทีมทำการเปลี่ยนตัว โดย สเปอร์ส เปลี่ยน ยาน แฟร์ตองเก้น ลงมาแทน ไรอัน เมสัน ขณะที่ แมนฯซิตี้ ส่ง สเตฟาน โยเวติช ลงแทน ดาบิด ซิลบา

        นาทีที่74 แมนฯซิตี้ มาบวกสกอร์ที่4 ได้อีกครั้ง เมื่อ แฟร์นานโด ฉวยโอกาสเล่นเร็ว เปิดบอลยาวให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ลากบอลไปล็อคหลบ แฟร์ตองเก้น ด้วยขวา ก่อนกดยิงด้วยซ้ายอย่างสวย เรือใบนำห่าง4-1

        2นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ ส่ง ยาย่า ตูเร่ ลงมาแทน แฟร์นานโด

        ช่วงเวลาที่เหลือ ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา แมนฯซิตี้ จึงเปิดบ้านเอาชนะ สเปอร์ส 4-1 เซร์คิโอ อเกวโร่ เหมายิงคนเดียวทำสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ แมนฯ ซิตี้ ด้วยสถิติ61ประตูในเกมนี้

รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม
 

แมนฯ ซิตี้ (4-4-2) : โจ ฮาร์ท, บาการี่ ซาญ่า, มาร์ติน เดมิเคลิส, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, กาแอล กลิชี่,แฟร์นานโด,แฟร้งค์ แลมพาร์ด,เฆซุส นาบาส,เจมส์ มิลเนอร์,ดาบิด ซิลบา ,เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน''

สำรอง:ยาย่า ตูเร่,แฟร์นันดินโญ่,เอดิน เชโก้,เอล็กซานเดอร์ โคลารอฟ,วิลลี่ กาบัลเยโร่,สเตฟาน โยเวติช,เดดริก โบยาต้า

 สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส,เอริก ดายเออร์, ยูเนส กาบุล, เฟเดริโก ฟาซิโอ, แดนนี่ โรส ,เอเตียน กาปู, ไรอัน เมสัน, เอริค ลาเมล่า, คริสเตียน อีริคเซ่น, นาเซอร์ ชาดลี่,โรแบร์โต้ โซลดาโด้

สำรอง:มิเชล ฟอร์ม,แอนดรอส ทาวน์เซนด์,เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์,ยาน แฟร์ตองเก้น,แฮร์รี่ เคน,มุสซ่า เดมเบเล่,เบนจามิน สตัมบูลี่