ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » คิวพีอาร์เบิ้ลยิงตัวเอง!หงส์บุกเชือดทดเจ็บ3-2

คิวพีอาร์เบิ้ลยิงตัวเอง!หงส์บุกเชือดทดเจ็บ3-2

Posted 19/10/2014 by siamsport




"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ได้สามแต้มเหลือเชื่อ บุกเฉือนชนะ คิวพีอาร์ ช่วงทดเจ็บ 3-2 โดยเจ้าบ้านยิงสังเวยตัวเองถึง2ลูก ลิเวอร์พูล ขึ้นมาอยู่อันดับ5แซงหน้า แมนฯยูฯ เรียบร้อย ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา 

 

 

 

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2557

ควีนส์ปาร์ค 2-3 ลิเวอร์พูล


สนาม : ลอฟตัส โร้ด

 

         "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล  ส่ง มาริโอ บาโลเตลลี่ เป็นศูนย์หน้าตัวล่าตาข่ายหวังเก็บชัย ร่วมด้วยตัวรุกอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง,เอ็มเร่ ชาน และ อดัม ลัลลาน่าบุกถิ่น "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค ที่มี ชาร์ลี ออสติน กับ บ๊อบบี้ ซาโมร่า เป็นตัวป่วน

 

        เริ่มเกมมา9นาที ทีมเจ้าบ้านออกสตาร์ทได้ดี และก็มีโอกาสลุ้นก่อน เมื่อ ชาร์ลี ออสติน พาบอลผ่าน เกล็น จอห์นสัน และ มาร์ติน สเคอร์เทล เข้าไปดวลกับ ซิมง มิโญเลต์ ก่อนยิงติดในจังหวะ และได้โอกาสตามซ้ำบอลเข้าหน้าต่างไปแทน

        เกมผ่าน20นาที เกมทั้งสองทีมค่อนข้างเนือยๆทั้งคู่ ลิเวอร์พูล มีโอกาสใกล้เคียงสุดคือ จังหวะได้บอลวางยาว หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าก่อน

        นาทีที่28 คิวพีอาร์ พลาดโอกาส ได้ประตู เมื่อ บ๊อบบี้ ซาโมร่า หลุดไปทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษ ก่อนหักเข้ากลางให้ ลีรอย เฟอร์ วิ่งมาแปโล่งๆคนเดียว แต่บอลไปชนคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

        5นาทีต่อมา หงส์แดง รอดเสียประตูไม่น่าเชื่อ เมื่อ เนดุม โอนูโอฮา หยอดจากริมสนามฝั่งขวาให้ ลีรอย เฟอร์ กระโดดโหม่ง บอลผ่าน ซิมง มิโญเลต์ ไปแล้ว แต่บอลไปชนคานอีกครั้ง ก่อนบอลจะคลุกคลิกอยู่หน้าประตู สุดท้าย มาร์ติน สเคอร์เทล วิ่งมาเคลียร์ในจังหวะสุดท้ายได้ทัน

        นาทีที่43 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสใกล้เคียงในครึ่งแรก เมื่อ มาริโอ บาโลเตลลี่ ไหลบอลให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด วิ่งสอดเข้ามาในกรอบเขตโทษ ดึงหลอกแนวรับทีมเจ้าถิ่น ก่อนปั่นโค้งด้วยขวา บอลถากเสาออกหลังนิดเดียว

         ท้ายครึ่งแรก ริชาร์ด ดันน์ รับใบเหลือง และช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา จึงเสมอกันอยู่ 0-0

        เริ่มครึ่งหลังมา คิวพีอาร์ เปลี่ยนตัวก่อน โดยส่ง แมตต์ ฟิลลิปส์ ลงมาแทน เนดุม โอนูโอฮา 3นาทีต่อมา เจ้าถิ่นมีลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ซานโดร ได้กดยิงมุมแคบ ซิมง มิโญเลต์ พุ่งซูเปอร์เซฟมือเดียวหวุดหวิด

        เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง คิวพีอาร์ เปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่ง อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ ลงมาแทน ซานโดร

        2นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล พลาดโอกาส ได้ประตูอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อ อดัม ลัลลาน่า หลุดไปยิงในกรอบเขตโทษ อเล็กซ์ แมคคาร์ธี ปัดบอลมาเข้าทางปืน มาริโอ บาโลเตลลี่ แต่หัวหอกจอมเกรียนยิงโล่งๆข้ามคาน แบบน่าเขกกะโหลก

        นาทีที่64 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนทีเดียว2ตำแหน่ง โดยส่ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงมาแทน อดัม ลัลลาน่า และส่ง โจ อัลเลน ลงแทน เอ็มเร่ ชาน

        2นาทีต่อมา หงส์แดง ได้เฮ เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิง ฉวยโอกาสเล่นฟรีคิกเร็ว ไหลบอลริมเส้นให้ เกล็น จอห์นสัน หลุดไปเปิดเข้ากลาง ริชาร์ด ดันน์ พยายามสกัด แต่บอลโดนไม่ดี เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง เป็นสอร์ให้ ลิเวอร์พูล บุกนำ 1-0

        นาทีที่70 ลิเวอร์พูล โดนใบเหลืองไป เมื่อ เกล็น จอห์นสัน ไปเจตนาสอย อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ เลยไม่รอดรับใบเหลือง

        10นาทีต่อมา คิวพีอาร์ เปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่ง เอดูอาร์โด วาร์กัส ลงมาแทน บ๊อบบี้ ซาโมร่า

        นาทีต่อมา เจ้าถิ่น รับใบเหลืองอีกใบ เมื่อ คาร์ล เฮนรี่ ไปชน โจ อัลเลน จากด้านหลัง เลยไม่รอดรับใบเตือนเป็นอีกราย
ส่วน ลิเวอร์พูล เป็น มาร์ติน สเคอร์เทล รับบ้างจากการไปหวด ชาร์ลี ออสติน

        นาทีที่87 เจ้าบ้านได้เฮกันลั่น เมื่อ เอดูอาร์โด วาร์กัส ลุยบอลไปเปิดเข้าไปหน้าประตู บอลเลยไปถึง ชาร์ลี ออสติน ที่เสาสองโหม่งชงย้อนกลับมาที่หน้าประตู เป็นจังหวะพอดีที่ เอดูอาร์โด วาร์กัส สอดขึ้นมาแปเผาขนไม่เหลือ คิวพีอาร์ ตามเสมอ 1-1

        แต่แล้วนาทีที่90 หงส์แดง ได้เฮกันอีกครั้ง เมื่อใช้จังหวะสวนกลับของ ราฮีม สเตอร์ลิง จากแดนตัวเอง บอลมาถึง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ไหลเข้ากรอบให้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แต่งยิงเป็นประตู ให้ ลิเวอร์พูล นำ 2-1

        ช่วงทดเจ็บ คิวพีอาร์ ตามเจ๊าเหลือเชื่อ เมื่อ ได้ลูกเตะมุม และเป็น เอดูอาร์โด วาร์กัส เจ้าเก่าโฉบโหม่งเสาแรก บอลเข้าเสาแรก และประตูเสมอให้เจ้าถิ่น 2-2

        แต่ก็มีดราม่าท้ายเกมจนได้ เมื่อ ลิเวอร์พูล สวนมาอีกครั้ง แล้วก็เป็น ราฮีม สเตอร์ลิง เปิดมาไหลบอลเข้ากลาง และก็เป็น สตีเว่น คอลเกอร์ กองหลังเจ้าบ้าน สกัดเข้าประตูตัวเอง เป็นประตูให้ ลิเวอร์พูล นำ 3-2

        หมดเวลา หงส์แดง บุกเฉือนชนะไม่น่าเชื่อ 3-2 เก็บสามคะแนน พร้อมแซง แมนฯยูฯ ขึ้นมาอยู่ที่5

 

รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม


ควีนส์ปาร์ค (4-2-3-1) : อเล็กซ์ แมคคาร์ธี, เนดุม โอนูโอฮา, สตีเว่น คอลเกอร์,ริชาร์ด ดันน์,หยุน ซุคยอง, คาร์ล เฮนรี่, ซานโดร,เมาริซิโอ อิสล่า,ลีรอย เฟอร์,ชาร์ลี ออสติน,บ๊อบบี้ ซาโมร่า

 

สำรอง:ริโอ เฟอร์ดินานด์, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่,จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์,นิโก้ ครานชาร์,แมตต์ ฟิลลิปส์,ไบรอัน เมอร์ฟี่,เอดูอาร์โด วาร์กัส

 

ลิเวอร์พูล (4-3-1-2) : ซิมง มิโญเลต์,เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, โฆเซ่ เอ็นริเก้,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด ,ราฮีม สเตอร์ลิง,เอ็มเร่ ชาน, อดัม ลัลลาน่า, มาริโอ บาโลเตลลี่

 

สำรอง:ฆาเบียร์ มานกีโย่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่,แบร็ด โจนส์,โคโล ตูเร่,ริกกี้ แลมเบิร์ต,โจ อัลเลน ลาซาร์ มาร์โควิช

 

ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • คิวพีอาร์รอรับ15 ล้านหากราฮีมซบชุดขาว
    ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส อาจได้ส้มหล่นตกใส่มือ 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 768 ล้านบาท) หาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกตัวเก่งทีมชาติอังกฤษ ตัดสินใจย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,075 ล้านบาท)
  • เชสเชื่อสิงห์ทำแบบปืนยุคไร้พ่ายไม่ได้
    เชส ฟาเบรกาส ห้องเครื่อง เชลซี รับไม่มีทางเป็นไปได้ที่ "สิงห์บลูส์" จะทำได้เหมือน อาร์เซน่อล ในยุคที่คว้าแชมป์แบบไร้พ่ายเมื่อทศวรรษที่แล้ว ถึงแม้ทีมจะเพิ่งคว้าชัยเหนือ คริสตัล พาเลซ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และยังไม่แพ้ใครเลยในฤดูกาลนี้
  • บีร็อดยกบาโลมุ่งมั่นซ้อมพิสูจน์คุณค่าตัวเอง
    เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล ออกโรงยก มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าอิตาลี ทำผลงานได้ดีในการฝึกซ้อมตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้ลูกทีมเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเองอย่างยิ่ง
  • หงส์ขอเฮต่อ!จัดบาโลซัด,คิวพีอาร์เต็มสูบหนีบ๊วย
    "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมส่ง มาริโอ บาโลเตลลี่ เป็นศูนย์หน้าตัวล่าตาข่ายหวังเก็บชัยต่อเนื่อง เกมบุกถิ่น "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค ที่จะสู้แบบไม่มีถอยเพื่อหวังเก็บแต้มขยับอันดับที่รั้งอยู่ท้ายตาราง ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 19 ต.ค. ศกนี้

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »