หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกเลือดอุรุกวัยของบาร์เซโลน่า ยันตนไม่มีปัญหาหากจะโดนชาวบ้านตราหน้าว่าเป็นพวกจอมกัดหรือพุ่งล้ม แต่รับไม่ได้ที่โดนมองเป็นพวกเหยียดผิว เพราะไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้นเลย ชี้การถูกกล่าวหาแบบนั้นทำให้ตนผิดหวัง และคิดว่าคงเป็นมลทินติดตัวไปตลอดชีวิต

 หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่งของ บาร์เซโลน่า มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกลา ลีกา สเปน เผยตนไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้นหากผู้คนจะเรียกว่าเป็น "จอมกัดหรือพวกชอบพุ่งล้ม" แต่ขออย่างเดียวอย่างเรียกว่าไปพวกเหยียดผิว เพราะไม่ใช่คนแบบนั้นเลย

หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ขึ้นชื่อลือชาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไร้วินัยทั้งการโดนแบนยาว 10 เกมกรณีที่กัด บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังเชลซี เมื่อเดือนเมษายน 2013 และถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับเกมลูกหนัง 4 เดือนหลังจากกัด จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติอิตาลี ในศึกฟุตบอลโลก 2014

แม้ว่าเขาจะมีพฤติกรรมแย่ๆ ก็ตาม แต่ ซัวเรซ ยืนยันเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดีกรณีที่โดนแบน 8 แมตช์ด้วยข้อหาเหยียดผิว ปาทริซ เอวร่า กองหลังชาวฝรั่งเศส สมัยที่เล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด "จะเรียกผมว่าจอมกัดหรือพวกพุ่งล้มก็ได้ แต่ผมไม่ใช่พวกเหยียดผิว ผมโดนแบน 8 เกม และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือผมโดนตราหน้าว่าเป็นพวกเหยียดผิวไปตลอดชีวิต มันแย่มากๆ กับข้อกล่าวหานี้"

"มันน่าเจ็บปวดเพราะมันส่งผลกระทบกับตัวผม แถมยังยิ่งเจ็บปวดเพราะภรรยาของผมก็ต้องพบกับความยากลำบากที่จะต้องได้ยินเรื่องแบบนี้ การที่ต้องมองดูผมโดนกล่าวหาจากใครบางคนโดยที่เธอรู้ว่าผมไม่ใช่คนแบบนั้น และมันยิ่งน่าเศร้าเพราะมันจะแปะเปื้อนไปจนกระทั่งลูกๆ ของผมเติบโตขึ้น"

"ผมพูดคำว่า นิโกร เป็นภาษาสเปนใส่ ปาทริซ เอวร่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม เมื่อปี 2011 ในเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือเปล่า ? ผมตอบได้เลยว่า ใช่ ผมพูดแบบนั้น แต่คำว่า นิโกร ในภาษาสเปน กับภาษาอังกฤษ มันเหมือนกันเหรอ ? มันไม่ใช่เลย"

 "ผมเป็นพวกเหยียดผิวหรือเปล่า ? ไม่ใช่แน่นอน ผมรู้สึกเจ็บปวดเมื่อผมรู้ว่าผมโดนกล่าวหาแบบนั้น ผมยังผิดหวัง และโกรธที่คิดว่าสิ่งนี้มันจะเป็นมลทินติดตัวผมซึ่งบางทีอาจจะตลอดไปเลยก็ได้"  อดีตสตาร์ ลิเวอร์พูล และอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ระบุ