ไทยพรีเมียร์ลีกเปิดเผย 4 สโมสรในไทยพรีเมียร์ลีกที่ได้รับคลับไลเซนซิ่งเรียบร้อย ทำให้พร้อมที่จะลงเล่นในฟุตบอลถ้วยเอเชียในปีหน้าทันทีหากได้สิทธิ์

ไพฤทธิ์ ต้านไพรี ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เปิดเผยว่า ทีพีแอลได้ส่งรายชื่อของสโมสรไทยพรีเมียร์ลีกที่ได้รับคลับไลเซนซิ่งซึ่งออก โดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในปีนี้ไปให้กับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอ ฟซี) แล้วประกอบด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ,ชลบุรี เอฟซี ,เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บางกอกกล๊าส เอฟซี

เอเอฟซีกำหนดให้สโมสรที่จะเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลสโมสรเอเชียในฤดูกาล 2015 ต้องได้รับคลับไลเซนซิ่งหรือระบบใบอนุญาตสโมสรอาชีพซึ่งปัญหาสำคัญของทีมใน ไทยพรีเมียร์ลีกเรื่องสนามแข่งขันที่มีเพียง 5 แห่งที่ผ่านเกณฑ์หรือที่เรียกว่าสนาม “A Clas”s คือ ไอโมบาย สเตเดี้ยม (บุรีรัมย์) ,ชลบุรี สเตเดียม (ชลบุรี) ,เอสซีจี สเตเดียม (เมืองทอง) ,ลีโอ สเตเดียม (บางกอกกล๊าส) และ ม.ธรรมศาสตร์ (เพื่อนตำรวจ)

“ทั้ง 4 สโมสรคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ,ชลบุรี เอฟซี ,เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บางกอกกล๊าส เอฟซี ได้รับคลับไลเซนซิ่งเรียบร้อยแล้ว โดยหาก 4 สโมสรนี้ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ก็สามารถลงเล่นได้ทันที" ไพฤทธิ์ เปิดเผยก่อนกำหนดเดดไลน์ที่เอเอฟซีให้สมาคมฟุตบอลแต่ละประเทศส่งชื่อสโมสรที่ได้รับคลับไลเซนซิ่งภายในวันที่ 31 ตุลาคม

ส่วน บีอีซี เทโรศาสน ซึ่งคว้าอันดับ 3 ไทยพรีเมียร์ลีก ในปีนี้ มีโอกาสได้สิทธิ์ไปเพลย์ออฟเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก กรณีที่ประเทศไทยได้ โควต้าอย่างน้อย 3 ทีมเท่ากับฤดูกาลที่แล้ว และ ชลบุรี เอฟซี สามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพมาครองได้
ผู้จัดการทั่วไปของทีพีแอลกล่าวว่า "หากบีอีซีเทโรศาสนได้สิทธิ์พวก เขายังสามารถแจ้งมายังสมาคมฟุตบอลฯ ว่าจะดำเนินการปรับปรุงสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐาน A Class เพื่อให้เอเอฟซีมาตรวจอีกครั้งและหากผ่านสมาคมก็จะออกคลับไลเซนซิ่งให้ ซึ่งเป็นทางเดียวที่จะทำให้ทีมได้ไปเล่นฟุตบอลถ้วยเอเชีย"

ทั้งนี้ 4 สโมสรที่ได้รับคลับไลเซนซิ่งไปแล้วไม่ได้หมายความว่าจะได้ไปแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าทั้งหมด เพราะต้องรอเอเอฟซีประกาศโควต้าของแต่ละประเทศในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้เสีย ก่อน โดยปีที่แล้ว โควต้าของประเทศไทย คือ 1+2 หมายความว่าได้เข้ารอบแบ่งกลุ่มอัตโนมัติ 1 ทีมและ เพลย์ออฟ 2 ทีม

สำหรับการจัดอันดับทีมที่จะได้ไปเล่นในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก นั้น เอเอฟซี ก็กำหนดมาแล้วเช่นกัน โดยไล่อันดับจาก 1.แชมป์ลีกสูงสุด 2.แชมป์บอลถ้วย 3.อันดับ 2 ในลีก 4.อันดับ 3 ในลีก ซึ่งหากสโมสรที่ได้รับสิทธิ์ไม่มีคลับไลเซนซิ่ง สิทธิ์จะตกไปยังสโมสรที่อยู่ในลำดับถัดไป แต่ต้องไม่เกินครึ่งของตารางแข่งขัน ซึ่งไทยพรีเมียร์ลีกคืออันดับ 10 เป็นทีมสุดท้าย