ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » แย่งซีนรูน!เทพเบิ้ลสิงโตขย้ำสโลวีเนีย3-1

แย่งซีนรูน!เทพเบิ้ลสิงโตขย้ำสโลวีเนีย3-1

Posted 16/11/2014 by siamsport

        ขโมยซีนการติดทีมชาติครบ 100 นัดของ เวย์น รูนี่ย์! เมื่อ แดนนี่ เวลเบ็ค ยิงสองประตู ช่วยให้ "สิงโตคำราม" อังกฤษ เปิดบ้านเอาชนะ สโลวีเนีย ไปได้แบบไม่เหนื่อยนัก 3-1 คว้าชัย 4 นัดรวด เก็บ 12 แต้มเต็ม รั้งจ่าฝูงของกลุ่ม ส่วนทีมเยือนมี 6 คะแนนเท่าเดิม แต่หล่นอยู่ที่สาม ศึกฟุตบอลยูโร 2016 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

 

ฟุตบอลยูโร 2016

 (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี)

 วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2557

 อังกฤษ 3-1 สโลวีเนีย


สนาม: เวมบลี่ย์ สเตเดี้ยม, (ลอนดอน, อังกฤษ)

          ก่อนเริ่มเกมได้มีพิธีการมอบรางวัลหมวกเกียรติยศให้กับ เวย์น รูนี่ย์ กองหน้ากัปตันทีมวัย 29 ปี ที่ติดทีมชาติครบ 100 นัด พอดี โดย เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ตำนานของทีมชาติอังกฤษ ชุดแชมป์โลกปี 1966 เป็นคนมอบให้

          สำหรับเกมนี้ อังกฤษ ส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค, เวย์น รูนี่ย์ (กัปตันทีม) และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงล่าตาข่ายพร้อมกัน

          ทางด้าน สโลวีเนีย ส่ง มิลิโวเย่ โนวาโควิช ยืนเป็นหอกเป้า พร้อมได้ ยัสมิน คูร์ติช, อันดราซ เคิร์ม, เควิน คัมเพิล และ อเลส เมอร์เตลจ์ ลงมาปั้นเกม

          ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรกมาได้ 5 นาที สโลวีเนีย ได้โอกาสลุ้นประตูก่อน วอลเตอร์ เบียร์ซ่า โยนบอลเข้าเขตโทษให้ อันดราซ เคิร์ม สอดมาโขกไปติดเซฟ โจ ฮาร์ท นายทวารทีมชาติอังกฤษ ป้องกันเอาไว้ได้

          เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 18 สิงโตคำราม ได้ลุ้นบ้าง เวย์น รูนี่ย์ กองหน้ากัปตันทีมที่ลงเล่นในนามทีมชาตินัดที่ 100 ไหลคืนหลังให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ตั้งป้อมกดด้วยขวาโดนไม่เต็มบอลกลิ้งหลุดกรอบออกไป

          4 นาทีถัดมา ยังเป็นโอกาสลุ้นต่อเนื่องของเจ้าถิ่น แดนนี่ เวลเบ็ค จ่ายให้ รูนี่ย์ ตะบันด้วยขวาเฉี่ยวคานออกไปอีก

          ทีมเยือนมาได้โอกาสลุ้นอีกครั้งในนาที 28 อันดราซ เคิร์ม โยนลูกเตะมุมเข้ามาให้ มิลิโวเย่ โนวาโควิช ทะยานโขกหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น

          สิบนาทีต่อมา ทัพสิงโตได้โอกาส เมื่อ รูนี่ย์ ไหลให้ เวลเบ็ค กดด้วยขวาข้ามคานออกไปอีก หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

          มาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลังได้แค่ 4 นาที เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อน เมื่อ อดัม ลัลลาน่า เปิดลูกเตะมุมให้กับ เวย์น รูนี่ย์ สะบัดโหม่งหลุดเสาไปนิดเดียวเท่านั้น

          อย่างไรก็ตามนาทีที่ 57 กลายเป็นทีมเยือนขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ได้ฟรีคิกทางด้านซ้าย มิลิโวเย่ โนวาโควิช เปิดด้วยขวาเข้ากลางมา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางทีมชาติอังกฤษ โหนตัวขึ้นโหม่งได้ แต่โดนไม่ดีบอลย้อยเสียบใต้คานเข้าประตูตัวเองไป สงเคราะห์ให้ สโลวีเนีย ขึ้นนำก่อน 1-0

          สองนาทีต่อมา สิงโตคำราม มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ทำเกมโต้กลับเร็วขึ้นมาบอลถึง เวย์น รูนี่ย์ กระชากเข้ากรอบเขตโทษด้านขวา ทว่าโดน บอสต์ยัน เซซาร์ กองหลังสโลวีเนีย หวดจากทางด้านหลังคว่ำลงไป ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ พร้อมให้ใบเหลืองกับ เซซ่าร์ ไปด้วย จากลูกจุดโทษ รูนี่ย์ ลุกขึ้นมาสังหารเอง ซัดด้วยขวาเข้าไป แม้ว่า ฮันดาโนวิช จะเหยียดมือปัดได้นิดหนึ่ง แต่บอลยังแรงเข้าตาข่ายไป เป็นการฉลองการติดทีมชาติครบ 100 นัดของ รูนี่ย์ พร้อมกับทำสถิติยิงให้กับทัพสิงโตคำราม 44 ประตูแล้วเทียบเท่ากับ จิมมี่ กรีฟส์ โดยยังตามหลังเซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน เจ้าของสถิติสูงสุดอยู่เพียงแค่ 5 ประตู

          ล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 66 เจ้าถิ่นมาได้ประตูแซงนำ จากจังหวะที่ อดัม ลัลลาน่า ซัดมุมแคบไปแฉลบกองหลัง แต่ ซามีร์ ฮันดาโนวิช นายทวารสโลวีเนีย ใช้ขาเซฟไว้ได้ บอลมาทาง มิโซ่ เบร็คโก้ โหม่งสกัดไม่พ้นอันตรายมาเข้าทางของ แดนนี่ เวลเบ็ค ยิงซ้ำด้วยซ้ายโดนไม่เต็มแต่กลายเป็นดี บอลเข้าประตูไปให้ อังกฤษ นำ 2-1

          ท้ายเกมนาทีที่ 72 สิงโตคำราม มาได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ คีแรน กิ๊บบ์ส ผ่านสั้นๆจากซ้ายให้กับ เวลเบ็ค ไหลต่อให้กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เบิ้ลคืนให้กับ แดนนี่ เวลเบ็ค พักอกแล้วปั่นด้วยขวาเข้าเสาไกลไปอย่างสวยงามให้ อังกฤษ นำห่าง 3-1 เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 5 ของเวลเบ็ค ในการรับใช้ทีมชาติอังกฤษ 4 เกมหลังสุด

          เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม อังกฤษ เปิดบ้านเอาชนะ สโลวีเนีย ไปได้สวยงาม 3-1 เก็บชัย 4 นัดรวด มี 12 คะแนนเต็ม นำจ่าฝูงของกลุ่ม อี. ต่อไป ขณะที่ทีมเยือนมีหกคะแนนเท่าเดิม แต่หล่นไปอยู่ที่สาม เนื่องจากลูกได้เสียเป็นรอง ลิทัวเนีย


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
          อังกฤษ: โจ ฮาร์ท - เนธาเนียล ไคลน์, แกรี่ เคฮิลล์, ฟิล จากีลก้า, คีแรน กิ๊บบ์ส - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แจ็ค วิลเชียร์, อดัม ลัลลาน่า - แดนนี่ เวลเบ็ค, เวย์น รูนี่ย์ (กัปตันทีม), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
          สำรอง: เบน ฟอสเตอร์ (ผู้รักษาประตู) -  เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ (ผู้รักษาประตู) - คริส สมอลลิ่ง, คาลั่ม แชมเบอร์ส, รอสส์ บาร์คลี่ย์, เจมส์ มิลเนอร์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน, ธีโอ วัลค็อตต์, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, ไซโด้ เบราฮิโน่, ริคกี้ แลมเบิร์ต

          สโลวีเนีย: ซามีร์ ฮันดาโนวิช - มิโซ่ เบร็คโก้, บอสต์ยัน เซซาร์, บรังโก้ อิลิช, อันดราซ สตรูน่า - วอลเตอร์ เบียร์ซ่า - ยัสมิน คูร์ติช, อันดราซ เคิร์ม, เควิน คัมเพิล, อเลส เมอร์เตลจ์ - มิลิโวเย่ โนวาโควิช
          สำรอง: วิด เบเล็ช (ผู้รักษาประตู) - ยาน โอบลัค (ผู้รักษาประตู) - เซลจ์โก้ ฟิลิโปวิช, ดาลิบอร์ สเตวาโนวิช, เนจซ์ เพ็คนิค, ซลาตัน ลูบิยานคิช, ซินิซ่า อันเดลโควิช, เดยัน ลาซาเรวิช, ราจโก้ ร็อตมาน, โดมินิค มาโรห์, มาร์ติน มิเล็ค, มิราล ซามาร์ดซิซ


          ผู้ตัดสิน: โอเลการิโอ เบนเกเรนก้า (โปรตุเกส)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »