ก่อนจะถึงนัดตัดสินแชมป์อาเซียน โกล ขอพาไปเจาะลึกสถิติทุกซอกทุกมุมของคู่ชิงทั้ง ช้างศึก และ เสือเหลือง

ทีมชาติไทยเริ่มต้นแบบค่อนข้างมีปัญหาในเกมรับสำหรับทัวร์นาเม้นท์นี้แต่ ซิโก้ ก็ค่อยๆปรับแผงหลังจนลงตัวขึ้นเรื่อยๆทำให้กลายเป็นทีมที่มีแนวป้องกันดีที่สุด โดยทัพช้างศึกเพิ่งเสียไปเพียง 3 ประตู ขณะที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นนายทวารที่เก็บคลีนชีทได้มากที่สุด 2 ครั้ง ส่วนกองหลังของไทยมีเปอร์เซ็นต์การเอาชนะแบบตัวต่อตัวเกินกว่า 50% และ เข้าสกัดบอลได้มากถึง 79.3 % ขณะที่ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เป็นนักเตะที่สกัดบอลได้มากที่สุดด้วยจำนวน 43 ครั้ง เป็นอันดับสองของรายการนี้น้อยกว่าเพียง อมานี อกินัลโด ของฟิลิปปินส์

เกมรับดูเหมือนจะเป็นปัญหาเดียวที่ ดอลลอห์ ซาเลห์ แก้ไม่ตกในทีมเสือเหลือง พวกเขาเสียไปแล้วถึง 8 ประตูน้อยกว่าลาวเพียงทีมเดียวเท่านั้น และมีนัดเดียวที่ไม่เสียประตูคือเกมเสมอเมียนมาร์ 0-0 โดยแผงหลังเสือเหลืองมีอัตราการสกัดบอลได้ 76.3% ต่ำกว่ากว่าไทยเล็กน้อยเช่นเดียวกับการเอาชนะแบบตัวต่อตัว 46.8% โดย ฟัดลี ชาส เซนเตอร์คนสำคัญเป็นนักเตะที่สกัดบอลได้มากสุดของทีม 36 ครั้ง ส่วน คอยรุล ฟะห์มี เจ๊ะมะ เป็นผู้รักษาประตูที่เซฟมากครั้งที่สุดในทัวร์นาเม้นทื 19 ครั้ง มากกว่ากวินทร์ 8 ครั้ง

 ทัวร์นาเม้นท์นี้ทีมชาติไทยและทีมชาติมาเลเซียทำได้ 10 ประตูเท่ากันตั้งแต่นัดแรกจนถึงเกมรอบรองชนะเลิศ โดยอยู่อันดับสองเป็นรองเวียดนามที่ทำได้ 12 ประตู

ช้างศึกเป็นทีมที่มีโอกาสยิงประตู 73 ครั้งมากที่สุดเป็นอันดับสองเพียงแต่อัตราการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูอยู่ที่ 16.9 % โดย ชนาธิป สรงกระสินธุ์ คือหัวใจสำคัญในแนวรุกอย่างแท้จริงเมื่อเป็นทั้งผู้ที่มีโอกาสยิงมากที่สุด 10 ครั้ง และสร้างสรรค์โอกาสได้มากที่สุด 9 ครั้ง ส่วน อดิศักดิ์ ไกรษร เป็นนักเตะที่สามารถเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูได้ดีที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยถึง 66.7 % โดยทำไปแล้ว 2 ประตูเท่ากับ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และ ชาริล ชัปปุยส์

จังหวะการจบสกอร์เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของทัพเสือเหลืองในรายการนี้แม้ว่าพวกเขาจะมีโอกาสยิงประตูทั้งหมดเพียง 40 ครั้งน้อยกว่าช้างศึกถึง 33 ครั้งแต่เปลี่ยนเป็นประตูได้เท่ากัน โดยคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูถึง 35.7 % มากกว่าไทยพอสมควร และมีความแม่นยำในการยิงเข้ากรอบถึง 53.6 % ขณะที่ไทย 35.6 % โดย อัมรี ยะห์ยาห์ ปีกซ้ายที่มีโอกาสยิงประตูมากที่สุด 8 ครั้งและแอสซิสต์ให้เพื่อนทำได้ 2 ประตู ขณะที่ นูรชะห์รุล อิดลัน ตะละฮา ศูนย์หน้าตัวเป็นกลับเป็นผู้ที่สร้างโอกาสให้เพื่อนได้มากที่สุด 3 ครั้งเท่ากับ มาฮาลี ญาซูลิ แบ็กจอมบุก