องค์กรตรวจสอบทุจริตผลการแข่งขันกีฬายืนยันว่าไม่มีความพยายามที่จะล็อคผลการแข่งกันในเกมซูซูกิ คัพ รอบรองฯ ที่เสือเหลืองพลิกชะตาเข้ารอบอย่างเหลือเชื่อ

สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) แถลงว่า ไม่มีหลักฐานว่ามีการพยายามล็อคผล ในเกมเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รอบรองฯ นัดที่สอง ที่มาเลเซีย บุกไปชนะเวียดนามถึง 4-2 ตามรายงานของสปอร์ตเรดาร์ หน่วยงานตรวจสอบทุจริตผลการแข่งขันกีฬา

ทั้งที่เวียดนามเป็นฝ่ายเอาชนะมาเลเซียมาก่อน 2-1 ในนัดแรกที่ชาห์ อลัม พวกเขากลับเสียประตูให้เสือเหลืองอย่างง่ายดายในเกมเหย้าที่ตัวเองได้เปรียบทุกอย่าง ทั้งสี่ประตูเป็นความผิดพลาดของผู้เล่นแนวรับทั้งหมด จนนายกสมาคมฟุตบอลแห่งเวียดนาม ถึงกับสั่งสอบกรณีนี้เป็นพิเศษ

แต่จากการตรวจสอบของสปอร์ตเรดาร์นั้น พบว่าเกมนี้ไม่มีความผิดปกติที่ชี้ได้ว่ามีการพยายามล็อคผลแต่อย่างใด

"ระบบตรวจจับทุจริตไม่พบทิศทางการพนันทายผลต่าง ๆ ที่น่าสงสัย ทั้งแบบก่อนเกม และทายสดระหว่างเกม" สปอร์ตเรดาร์แถลงผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเอเอฟเอฟ

"ที่จริง ทิศทางการพนันทายผลก่อนเกมนั้นไปในทางว่าเวียดนามจะเป็นฝ่ายชนะเสียมากกว่า อย่างไรก็ดี ทิศทางการวางเดิมพันนี้ไม่มากจนน่าสงสัยว่าจะมีการทุจริต ไม่มีสัญญาณจากตลาดการพนันใด ๆ ว่าเหตุการณ์นี้มีความน่าสงสัย"

"แม้มาเลเซียจะผ่านเข้ารอบชิงฯ มาได้อย่างพลิกล็อค ระบบตรวจจับทุจริตไม่พบหลักฐานจากการพนันใด ๆ ที่ชี้ว่าเกมนี้เป็นเป้าของการล็อคผล"

เอเอฟเอฟได้ทำสัญญากับสปอร์ตเรดาร์ ให้ตรวจสอบการทุจริตล็อคผลเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มเป็นต้นมา และจะไดรับรายงานจากสปอร์ตเรดาร์ในทันทีที่มีความผิดปกติ