ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » แค้นนี้ต้องชำระ...4 ปีที่แล้ว"เสือทำแสบ" ทุบยังไงก็ไม่ยุบ!ไทยร่วง-มาเลเซียแชมป์

แค้นนี้ต้องชำระ...4 ปีที่แล้ว"เสือทำแสบ" ทุบยังไงก็ไม่ยุบ!ไทยร่วง-มาเลเซียแชมป์

Posted 17/12/2014 by siamsport

 

 

      หลายคนคงลืมภาพความเศร้าของทีมลูกหนัง ''ช้างศึก'' ทีมชาติไทยในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 หรือเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่ต้องหยุดเส้นทางไว้เพียงแค่รอบแรกอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมา ก่อน!

        เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 ทีมชาติไทยอยู่ร่วมสายเอกับ อินโดนีเซียเจ้าภาพ รวมถึง มาเลเซีย และ ลาว ฟาดแข้งกันที่ชามอ่างยักษ์ เจโลร่า บังคลาโน่ หรือชื่อเดิมอย่าง''เสนายัน''ในใจกลางกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซียนั่นเอง

        ทีมชาติไทยในครั้งนั้นไปแข่งในฐานะ ''รองแชมป์เก่าปี 2008'' โดยมีโค้ชเมืองผู้ดีอย่าง ''ไบรอัน ร็อบสัน'' อดีตกัปตันทีมแมนฯ ยูไนเต็ดทำหน้าที่เป็นเฮดโค้ช ซึ่งความหวังมีอยู่อย่างเดียวนั้นคือต้องเป็นแชมป์ให้ได้สถานเดียว ซึ่ง ''ผู้เขียน'' รวมถึงช่างภาพแห่งกอง บก.ฟุตบอลสยาม อย่าง ''คะนองเดช สุขกากิจ'' ได้ร่วมเดินทางไปเกาะติดความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยถึงแดนอิเหนา

        ตัวผู้เล่นในทีมชุดนั้นถือว่าไม่ขี้เหร่ ''ร็อบโบ้'' เลือกตัวเก๋ายืนพื้นเป็นแกนหลัก ทั้ง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, สุธี สุขสมกิจ รวมถึง''โจ้ 5 หลา'' ศรายุทธ ชัยคำดี และ ธีรศิลป์ แดงดา เป็นตัวชูโรง

        แต่ฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ แค่นัดแรกก็พลิกล็อกทันควัน ลูกทีมของไบรอัน ร็อบสัน ตกเป็นฝ่ายตามหลังทีมชาติลาวถึง 2 ครั้ง 2 ครา ก่อนที่ ศรายุทธ ชัยคำดี จะตามตีเสมอถึง 2 หน เป็นผลให้สกอร์จบเจ๊า 2-2 แบ่งแต้มกันไป ถือว่าเสียหายกับทีมชาติไทยเป็นอย่างมาก

        เกมนัดที่สอง ช่วงเย็นวันที่ 4 ธ.ค.2553 ทีมชาติไทย ต้องลงสนามนัดที่สองพบกับ ''เสือเหลือง'' มาเลเซีย ซึ่งแพ้อินโดนีเซียเจ้าภาพ 1-5 สถานการณ์หลังชนฝาทั้งคู่ ทั้งไทยและมาเลเซียจะพลาดอีกไม่ได้แล้ว เพราะหากเกิดพลาดอีกก็มีสิทธิ์ตกรอบแรกได้เช่นกัน

        ''ร็อบโบ้'' จัดทัพ 4-4-2 มี สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เป็นผู้รักษาประตู,  กองหลังมี ณัฐพงษ์ สมณะ, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ภานุพงศ์ วงศ์ษา, สุรีย์ สุขะ , กองกลางวาง ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, สุธี สุขสมกิจ, สุเชาว์ นุชนุ่ม ส่วนคู่กองหน้าใช้ ธีรศิลป์ แดงดา กับคู่กับ ศรายุทธ ชัยคำดี

        ฝั่งเสือเหลืองภายใต้การคุมทัพของ ''ราชาล โกปาล'' เฮดโค้ชมาดพ่อค้าโรตีที่มีตัวทีเด็ดอย่าง ซาฟิก บินราฮิม รวมถึงคู่หน้าพระกาฬทั้ง ซาฟี่ ซาลี และ นอร์ชารุล ตาลาฮ่า

        ทีมชาติไทยพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเกม นาทีที่ 4 กรรมการตาถั่วมองไม่เห็นจังหวะที่แนวรับมาเลเซียทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ทำให้ไทยพลาดได้จุดโทษไปอย่างน่าเสียดาย

        เกมรุกส่วนใหญ่เป็นของทีมชาติไทยแทบทั้งหมด แต่ก็ไม่อาจฝ่าด่านเกมรับของ''เสือเหลือง'' ที่เล่นได้อย่างรัดกุมทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะแผงมิดฟิลด์ 4 ราย ซาฟิก บินราฮิม, โรฮิดาน, ซูบรามานเนี่ยม และ เอมิลฮาดิ ต่างก็ช่วยกันรับและเซตสวนกลับได้อยู่หลายชอต

        ดัสกร ทองเหลา, ธีรศิลป์ แดงดา รวมถึงตัวสำรองอย่าง เทิดศักดิ์ ใจมั่น ต่างมุ่งหวังทำประตูให้ช้างศึก แต่จังหวะจบยังกินเสือเหลืองไม่ได้ เรียกได้ว่าเกมนี้ ''เสือเหลือง'' หนังเหนียวจริงๆ ช้างศึกเลยเคี้ยวยาก

        ผลสุดท้ายจบเจ๊า 0-0 ทำให้สถานการณ์ของทีมชาติไทยหลังจบเกมที่ 2 ถือว่าตกอยู่ในที่นั่งลำบาก แม้ว่าจะมี 2 แต้ม เหนือกว่า มาเลเซียที่มี 1 แต้ม แต่เกมสุดท้ายต้องไปเจออิเหนาเจ้าภาพที่ชั่วโมงนั้นเล่นกำลังเข้าฟอร์ม ยิ่งเล่นต่อหน้าแฟนร่วมเรือนแสน ยิ่งดูฮึกเหิมน่ากลัว

        และแล้วเกมนัดสุดท้าย ทีมชาติไทยไม่อาจต้านทานความดุดันของอินโดนีเซียที่เอาชนะไทย 2-1 แม้ว่าจะได้ประตูออกนำไปก่อนจาก สุรีย์ สุขะ น.69 แต่ก็ต้องมาโดนพิษนกหวีดหวานของผู้ตัดสินที่เป่า 2 จุดโทษให้อินโด ในช่วงท้ายเกม บับบัง ปามุงกัส ซัด 2 เม็ดส่งอินโดนีเซียพลิกชนะไทย 2-1 มี 9 แต้มเต็มเข้าเป็นที่ 1 ส่งไทยตกรอบแรกทันทีเนื่องจากมาเลเซียเอาชนะลาว 5-1 มี 4 แต้ม ส่วนไทยมี 2 แต้มจอดป้ายรอบแรก

        เส้นทางสุดท้ายของ มาเลเซีย คือการผงาดคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 โดยรอบชิงโคจรมาเจอกับ อินโดนีเซีย เกมแรก มาเลเซียเปิดบ้านถล่ม 3-0 ส่วนเกมนัดสองบุกแพ้แค่ 1-2 สกอร์รวม 2 นัด เสือเหลืองเข้าวิน ซิวโทรฟี่แชมป์สมัยแรก

        ที่ต้องเล่าย้อนความหลังครั้งเก่าเมื่อ 4 ปีที่แล้วก็เพื่อต้องการสร้างความฮึกเหิมของคนในชาติให้กลับมารวมสมัครสมาน สามัคคีช่วยเชียร์ทีมชาติไทยอย่างพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง

        ถึงเวลาที่ทีมลูกหนังไทยต้องล้างแค้นมาเลเซียในเวทีลูกหนังอา เซียน เพราะต้องไม่ลืมว่า ''เสือเหลือง'' คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ไทยตกรอบแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

        หากไทยไม่เชียร์ไทย แล้วจะให้ใครมาเชียร์เรา!!!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »