ชั่วโมงนี้เชื่อเหลือเกินว่า ดัชนีแห่งความสุขของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน หลังจากที่ขุนพล "ช้างศึกทีมชาติไทย" ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วย รายการใหญ่ที่สุดของอาเซียนอย่าง "ซูซูกิ คัพ" 2014 หลังจากที่ทีมชาติไทย ห่างหายจากความสำเร็จของทัวนาเมนต์นี้มานาน 12 ปีเต็มๆ ด้วยการคว้ำคู่ปรับ ''เสือเหลือง'' มาเลเซียด้วยสกอร์รวมสองนัด 4-3 กลับมาครองความเป็นเบอร์หนึ่ง ได้อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง แต่กระนั้นก็ตามความสำเร็จครั้งนี้ ก็เล่นเอาคนไทยทั้งประเทศต้องลุ้นไปๆ ตามกันเพราะกว่าที่จะได้มานั้น ก็ยากเย็นแสนเข็ญไม่น้อย

ย้อนกลับไปรอบแรกทีมชาติไทย ถูกจับให้อยู่ในสายเดียวกับ สิงค์โปร, มาเลเซีย, และ เมียนมาร์ ซึ่งนัดแรกเราบุกไปเยือนสิงคโปร ที่เป็นเจ้าภาพในรอบแรก และเอาชนะมาได้ด้วยสกอร์ 2-1 ต่อด้วยการเอาชนะมาเลเซีย 3-2 และ นัดสุดท้ายของรอบแรก เอาชนะเมียนมาร์ 2-0 ผ่านเข้ารอบเป็นอันดับหนึ่งของสาย

ส่วนรอบรองชนะเลิศ ที่เล่นในระบบเหย้าเยือน โคจรมาพบกับฟิลิปปินส์เกมแรก "ช้างศึกไทย" เป็นฝ่ายบุกไปเยือนก่อนที่จะได้สกอร์ 0-0 กลับมาและเกมที่สองได้เล่นในบ้าน ก็ไม่ทำให้แฟนบอลชาวไทยต้องผิดหวัง เมื่อจัดการสอนบอลขุนพล "ตากาล็อก" ไปด้วยสกอร์ 2-0 ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศไปอย่างฉลุย

กระทั่งมาถึงรอบชิงชนะเลิศ เป็นการรีแมตช์มาพบกันระหว่าง "เสือเหลือง" มาเลเซียอีกครั้ง โดยเกมแรกทีมชาติไทยเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ก่อน 2 -0 ซึ่งก็เป็นสกอร์ที่น่าพอใจ และโอกาสที่พลพรรค "ช้างศึกไทย" จะผงาดกลับมาคว้าแชมป์ก็มีสูงมาก

แต่นัดที่สอง ที่จะต้องกลับมาเล่นที่ สนาม บูกิต จารีล รังเหย้าของทีมเจ้าบ้าน ที่ใครมีโอกาสได้ไปเยือน ต่างก็ทราบถึงความหฤโหดเป็นอย่างดี เนื่องจากสนามแห่งนี้สามารถจุผู้ชมได้เรือนแสน นั้นทำให้แฟนบอลชาวไทยต้องส่งกำลังใจกันต่อ บางคนบินไปให้กำลังใจถึงสนามแข่งขัน ในขณะที่หลายคนเฝ้าหน้าจอเชียร์อยู่กับบ้าน

เช่นเดียวกันกับครอบครัว "สรงกระสินธ์" ที่มีคุณพ่อก้องภพ และคุณแม่พรสวรรค์ ที่ได้ยึดมุมหนึ่งของ อ.สามพราน พร้อมกับแฟนบอลจำนวนหนึ่ง ปักหลักเชียร์ลูกชายสุดที่รักอย่าง "เจ้าเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เป็นหนึ่งในขุนแข้งที่เข้าร่วมรายการนี้ อย่างใจจดใจจ่อตลอด 90 นาทีเต็มของการแข่งขัน ซึ่งสุดท้ายแล้วทีมชาติไทยก็ประสบความสำเร็จ สามารถคว้าแชมป์กลับประเทศได้อย่างสวยสดงดงาม และที่น่าปลาบปลื้มอีกประการ หนึ่งในผู้ที่สามารถยิงประตูได้ในเกมนี้ และคว้าตำแหน่งผู้เล่นทรงครุณค่าในทัวนาเมนต์นี้ ก็คือลูกชายของครอบครัวสรงกระสินธ์นั่นเอง

''ครอบครัวของเราและเพื่อนๆ ชาว อ.สามพรานจำนวนหนึ่ง ได้รวมตัวกันติดตามชมการแข่งขัน ผ่านจอโปรเจกเตอร์ ซึ่งตลอดการแข่งขันนั้นต้องบอกว่าตื่นเต้นมาก เรามาโดนประตูออกนำเร็วจากจุดโทษ ซึ่งในมุมมองผมมองว่า มันเป็นการตัดสินที่ผิดพลาด และเมื่อเราโดนประตูที่สองและสาม ดูเหมือนว่าตรงนี้ทีมชาติไทยจะสะดุดไป ต้องยอมรับว่าแฟนบอลมาเลเซีย กดดันนักเตะเราได้ดีมาก แต่ต้องชมนักเตะทีมชาติไทยทุกคนที่ยังสู้เต็มที่ ซึ่งหากถามใจผม ณ ตอนนั้นก็ยังคงมั่นใจว่า ทีมชาติไทยยังมีความหวัง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ในใจนึกอยู่ตลอดว่าปีนี้แชมป์จะเป็นของชาติไทย กระทั่งช่วงท้ายเกมชัปปุยส์มายิงประตูสำคัญ ทำให้ทีมชาติไทยกลับมาได้เปรียบ ก่อนที่ลูกชายผมจะมายิงอีกหนึ่งประตู ตอนนั้นผมกับแม่น้องเจ กระโดดดีใจกันตัวลอยเลยทีเดียว สุดท้ายทีมชาติไทยก็ทำสำเร็จ และแน่นอนว่าทุกคนในครอบครัว รู้สึกภาคภูมิใจกับลูกชายคนนี้มาก ที่เขาเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สร้างความสุข ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และผมเองในฐานะผู้เป็นพ่อก็มีความสุขเช่นเดียวกัน'' ก้องภพ สรงกระสินธ์ ผู้ให้กำเนิด ''เมสซี่เจ'' เผยความในใจ