พบกับบทสัมภาษณ์สุด Exclusive ของสามแข้งยังบลัดบางกอกกล๊าส กับประสบการณ์การบินลัดฟ้าไปฝึกซ้อมกับจิ้งจอกแห่งโอซากาเป็นระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์

หากพูดถึงลีกอาชีพที่มีมาตรฐานเป็นอันดับต้นๆของเอเชีย ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจลีก ลีกอาชีพแห่งแดนซามูไร น่าจะเป็นชื่อแรกที่หลายคนต้องนึกถึง จากจำนวนผู้ชมเฉลี่ยสูงกว่า 17,000 คน การบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม และการส่งนักเตะออกไปค้าแข้งในลีกยุโรปได้เป็นประจำทุกปี
 
ทำให้ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทีมจากไทยพรีเมียร์ลีก ได้ประกาศเป็นพันธมิตรทางลูกหนังกับทีมในเจลีกอย่างมากมาย เพื่อยึดเป็นโมเดลในการเรียนรู้วิธีการสร้างทีมแบบมืออาชีพ เช่นเดียวกันกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ได้ตกลงเซ็นสัญญาจับมือกับ เซเรโซ โอซากา เมื่อปี 2012
 
โดยหลังการเซ็นสัญญาดังกล่าว ทั้งสองทีมก็ได้แลกเปลี่ยนความช่วยเหลือที่ดีต่อกันเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นการที่ เซเรโซ บินลัดฟ้ามาเก็บตัวเข้าค่ายฝึกซ้อมที่ลีโอ สเตเดียม รังเหย้าของทีมกระต่ายแก้ว เมื่อปี 2013 หรือการที่ บางกอกกล๊าส  ได้ตัว เทรุยูกิ โมนิวะ อดีตปราการหลังสุดแกร่งของเซเรโซ มาช่วยคุมแนวรับเมื่อฤดูกาลก่อน
 
และล่าสุดคือการที่เซเรโซ เชิญ วสันต์ ฮมแสน ,บดินทร์ ผาลา และ ปิยะชนก ดาฤทธิ์  3 นักเตะดาวรุ่งของบางกอกกล๊าส ไปร่วมฝึกซ้อมถึงประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลาถึงสองสัปดาห์ ในช่วงวันที่ 19 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม และพวกเขาก็จะมาเล่าประสบการณ์ในช่วงเวลานั้นให้เราได้ฟัง

"การฝึกซ้อมกับเซเรโซต่างจากการฝึกซ้อมที่ไทยมากเลยครับ" วสันต์เริ่มต้นกล่าวกับโกล "ที่นี่เขาเล่นบอลกันเร็วและเน้นสมรรถภาพเป็นหลัก จะให้วิ่งเยอะมากกว่าที่ไทย สปีดบอลอะไรก็เร็วกว่าครับ"

เช่นเดียวกันกับปิยะชนกที่เห็นด้วยในจุดนี้ "การเล่นบอลของเขาจะเร็วกว่าบ้านเรา และก็เน้นทีมเวิร์คเป็นหลัก"
 
นอกจากการได้เรียนรู้รูปแบบการซ้อมของญี่ปุ่น สิ่งที่พิเศษยิ่งกว่านั้นก็คือการที่พวกเขาได้ลงซ้อมในสนามเดียวกับ ดิเอโก ฟอร์ลัน กองหน้าระดับโลกชาวอุรุกวัยอย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกคนล้วนจะรู้สึกเป็นปลื้มกับโอกาสในครั้งนี้
 
"ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ลงซ้อมกับเขา" บดินทร์บอกความรู้สึก "เขาเป็นนักเตะระดับโลก และให้บอลตามช่องเก่งมาก"
 
จากนั้นจึงเป็นปิยะชนกที่พูดว่า "ผมรู้สึกดีใจเลยมากที่ได้ซ้อมกับฟอร์ลันครับ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากเขามากมาย และจะเอามาปรับใช้ครับ"
 
 "เขาเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์เยอะ เขาคิดมาก่อนเวลาที่จะให้บอล และเล่นบอลน้อยจังหวะ" วสันต์ปิดท้าย

ทีมฟุตบอลในลีกของญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องของทีมเวิร์ค ดังนั้นเมื่อเราถามถึงนักเตะที่เก่งที่สุดของเซเรโซ บดินทร์ และ ปิยะชนก ต่างบอกตรงกันว่าไม่มี ในขณะที่วสันต์ดูจะปลื้ม ทาคุมิ มินามิโนะ กองหน้าดาวรุ่งของจิ้งจอกโอซากาเป็นพิเศษ
 
"ผมชอบเบอร์ 13 มากที่สุดครับ เขาอายุยังน้อยแต่กล้าเล่นกล้าลุย" วสันต์ให้เหตุผล
 
"เซเรโซเก่งทุกคนครับ ไม่มีซูเปอร์สตาร์ เขาเน้นทีมเวิร์คเป็นหลัก" ปิยะชนกบอกความเห็น ก่อนที่ บดินทร์จะกล่าวเสริมว่า "ผมคิดว่าไม่มีใครเด่นไปกว่าใครเลยครับ เขาเล่นกันเป็นทีม เด่นกันทั้งทีมครับ"
 
อย่างไรก็ดี แม้จะบินลัดฟ้ามาฝึกซ้อมถึงญี่ปุ่น แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึง เทรุยูกิ โมนิวะ อดีตกองหลังของเซเรโซ ที่มาเล่นให้กับบางกอกกล๊าสในฤดูกาลก่อน
 
"โมนิวะเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นตลอด 90 นาที เขาเป็นมืออาชีพมาก เขาคอยบอกคอนสอนเรื่องแทคติกผมอยู่เสมอ" วสันต์เริ่มต้นเป็นคนแรก ก่อนที่บดินทร์จะพูดต่อว่า  "เขาเป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพสูง เขาเป็นกองหลังที่ดีมากเลยครับ"
 
"โมนิ (โมริวะ) เป็นผู้เล่นที่ดีมากครับ เขาคอยบอกคอยสอนผมอยู่เสมอ และระเบียบวินัยดีมาก" ปิยะชยกให้ความเห็น

จากนั้นเราได้เปลี่ยนบรรยากาศมาคุยกันในเรื่องนอกสนาม โดยทั้งสามคนที่เพิ่งจะเคยมาเหยียบแดนอาทิตย์อุทัยเป็นครั้งแรก ต่างถูกความมีระเบียบวินัยและบ้านเมืองที่สะอาดสะอ้านของญี่ปุ่นกุมหัวใจไว้ อยู่หมัด
 
"ผมชอบระเบียบวินัยคนญี่ปุ่น อย่างเวลาไฟเขียวไฟแดง แม้จะเป็นไฟแดงของคนข้ามถนน ถึงจะไม่มีรถ ถนนโล่ง คนญี่ปุ่นก็จะไม่ยอมข้ามจนกว่าจะเปลี่ยนเป็นไฟเขียว" บดินทร์กล่าวชื่นชม เช่นเดียวกันกับ ปิยะชนกที่พูดว่า "ผมชอบระเบียบวินัยเหมือนกันครับ บ้านเมืองก็น่าอยู่ และสำคัญคงจะเป็นเรื่องไฟเขียวไฟแดง"
 
ส่วนวสันต์นอกจากระเบียบวินัยแล้วเขายังมีสิ่งที่ประทับใจมากกว่านั้นคือ "บ้านเมืองเขาสงบดีครับ อากาศดีมากครับ"

อย่างไรก็ดี แม้จะถูกอกถูกใจประเทศญี่ปุ่น แต่ถ้าหากพูดถึงอาการการกินแล้ว พวกเขาต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารไทยอร่อยที่สุดในโลก
 
"ผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารญี่ปุ่นเท่าไรครับ แต่ก็พอกินได้" วสันต์กล่าว ก่อนที่บดินทร์จะเสริมว่า "อาหารญี่ปุ่นไม่ค่อยถูกปากเท่าไรครับ มันจืดไปหน่อย" เช่นเดียวกันกับปิยะชนกที่สารภาพว่า "คิดถึงอาหารไทยแล้วครับ(หัวเราะ) อาหารค่อนข้างจืดและซ้ำๆไปหน่อยครับ"

ก่อนจะจากกัน พวกเขาได้ให้คำแนะนำแก่เหล่านักเตะไทย ที่อาจจะมีโอกาสมาฝึกฝีเท้ากับทีมในญี่ปุ่นในอนาคต ในเรื่องของการเตรียมตัวก่อนเดินทางมาที่นี่
 
"ผมว่าสิ่งสำคัญที่สุดในเรื่องนี้คือสภาพร่างกายครับ  ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม ต้องฟิตร่างกายมาก่อนเลย" วสันต์และบดินทร์กล่าวตรงกัน
 
"ต้องมีระเบียบวินัยในตัวเอง ปรับทัศนคติในแง่บวก เพราะที่นี่ซ้อมหนักมาก และต้องมีความอดทนสูงครับผม" ปิยชนกทิ้งท้าย