จุดเริ่มต้นที่ทำให้มาร้องเพลง?
''จุดเริ่มต้นมีหลายสาเหตุด้วยกันนะคะ อันดับแรกคือเปิ้ลเข้าวงการมาด้วยการเล่นละครเรื่องสาวน้อยคาเฟ่ ซึ่งเรื่องนั้นเรารับบทเป็นนักร้องลูกทุ่ง แล้วพอร้องจบละครจบปุ๊บ ปรากฏว่าเรามีงานโชว์ตัวเป็นนักร้องร้องเพลงลูกทุ่งตลอด เราก็เลยต้องหัดร้องเพลงลูกทุ่ง พอหัดร้องไปร้องมาแล้วรู้สึกว่าเพลงลูกทุ่งมีเสน่ห์และตรงกับตัวเรา เพลงลูกทุ่งซื่อๆ และค่อนข้างตรงๆ มีอะไรก็พูดออกมาเลย เราก็เลยหลงรักเพลงลูกทุ่ง เลยฝันไว้ว่าอยากเป็นนักร้องลูกทุ่ง บวกกับคุณแม่เป็นนักร้อง และคุณแม่อยากจะให้เราเป็นนักร้องมาตั้งนานแล้ว เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนท่านจะเสีย ท่านก็เลยบอกเราว่าอยากให้เราเป็นนักร้องนะ อยากเห็นเราเป็นนักร้องจังเลยก่อนที่เขาจะไป เราก็เลยทำเพลง แต่เราทำเพลงขึ้นมาเพื่อให้แม่เห็นจริงๆ ตอนนั้นพูดตรงๆ จากใจว่าตอนนั้นที่ทำไม่ได้คิดอะไรเลย ทำเช้ากลางวันเสร็จคือไม่ได้คิดว่าจะดังหรือใครสนใจเลย ครั้งแรกที่ทำไปให้แม่ดู แม่เห็นปุ๊บแม่ดีใจมาก จากที่เขาไม่มีแรงเดิน เขาวิ่งเอาไปให้ข้างบ้านดูเลย เขาดีใจมาก ไม่รู้ทำไมเขาถึงอยากให้เปิ้ลเป็นนักร้องมาตลอด แต่ตอนนี้พอแม่เสียไปแล้วเปิ้ลรู้ตัวเลยว่านี่มรดกแม่เลยจริงๆ''

    
จาก ''เบนซ์สปอร์ต'' มาถึงซิงเกิลใหม่ทิ้งช่วงนานพอสมควร?
''ใช่ค่ะ อย่างที่บอกคือตัวเปิ้ลเองไม่ได้วางตัวเองว่าจะต้องเป็นนักร้องตลอด และอีกอย่างหนึ่งคืองานในวงการเปิ้ลค่อนข้างหลากหลาย เปิ้ลก็มีทำงานเป็นพิธีกรบ้าง เดินแบบบ้าง ถ่ายแบบบ้าง งานเราค่อนข้างหลากหลาย แต่นักร้องเนื่องจากเราทำเอง เพราะฉะนั้นบุคลากรที่จะมาช่วยทำให้เพลงสำเร็จ มันก็ค่อนข้างจะมีน้อย เพลงเลยเสร็จช้ากว่าคนอื่นเขา''

    
ทำไมถึงตัดสินใจที่จะทำเอง?
''จริงๆ ก็มีค่ายติดต่อมานะคะ แต่ว่าเราเห็นว่ารูปแบบของการทำงานบวกกับภาพที่จะออกมามันขัดกับความเป็นตัวเราเกินไป และเราเองรู้สึกว่าเราเองน่าจะพอทำได้ ก็สั่งสมประสบการณ์จากในวงการมาบ่มเพาะแล้วก็มาลองทำดู พอลองทำไปปุ๊บ อุ๊ยสนุกอ่ะ มันท้าทายความสามารถ เวลาเราเห็นงานเราสำเร็จแล้วก็มีคนดู และมีฟีดแบ็กกลับมาที่ดีเราก็รู้สึกแฮปปี้ มันทำให้เรารู้สึกว่าเราสนุกกว่าการที่เราไปมีค่าย ถ้าทำกับค่ายเพลง เขาจะเป็นคนคิดทุกอย่างให้ ในเพลงนั้นแต่งตัวแบบนี้ คือเปิ้ลว่ามันขาดความเป็นศิลปินเต็มรูปแบบ ซึ่งเปิ้ลเองอาจจะไม่ได้เก่งและมีความสามารถมากขนาดนั้นที่จะเป็นศิลปินลูกทุ่งได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เปิ้ลก็เชื่อว่าเราสามารถนำความสามารถในด้านๆ อื่นที่เปิ้ลถนัดมารวมกัน ทำให้มันเป็นมิวสิกวิดีโอที่มันสมบูรณ์แบบได้ในจุดหนึ่ง''

    
รูปแบบการทำงานและแนวเพลงเป็นอย่างไร?
''แนวเพลงเปิ้ลก็จะเป็นคนดีไซน์แนวเพลง ครีเอตแนวเพลงแล้วก็ส่งไปให้กับคนแต่งเพลงว่าอยากได้แนวนี้นะ แล้วดนตรีอยากจะได้เป็นแนวป็อปแนวนี้ แล้วก็เลือกดนตรีเอง แล้วก็วางเส้นเรื่องเอง รวมทั้งเสื้อผ้าหน้าผมก็ออกแบบเองทุกๆ อย่าง รู้สึกมีความสุขมาก มันเป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าพลังสร้างสรรค์จากภายในเรา และพอมันสำเร็จมาเป็นรูปร่างเราก็รู้สึกว่านี่แหละ มันคือเป้าหมายของการเป็นศิลปินแล้ว''

    
ไม่มีค่ายอาจจะมีความเสี่ยงทำไมถึงกล้าที่จะทำ?
''ฟีดแบ็กเปิ้ลไม่ได้อยู่ที่ตัวเงิน เปิ้ลแค่อยากผลิตผลงานออกมาให้หลายๆ คนได้เห็นความสามารถอีกด้านหนึ่งของเรา ได้เห็นพัฒนาการในการทำงาน จริงๆ แค่นั้นเปิ้ลก็โอเคแล้ว พอใจแล้วค่ะ ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่จะตามมาค่ะ เปิ้ลเป็นคนที่ทำงานไม่ได้มองตัวเงินเป็นเรื่องสำคัญ และอีกอย่างหนึ่งก็คือเราก็ได้อะไรมามากพอ ในวงการบันเทิงเยอะแล้วในเรื่องของตัวเงินก็ไม่เป็นไรถ้าวันหนึ่งเราจะใช้ตัวเงินของเราคืนกลับความสุขไปบ้าง''

    
คอนเซปต์เพลงมีที่มาที่ไปอย่างไร?
''ก็รักหมดโปร (ลา ลา ลา) ก็จะพูดถึงผู้ชายที่เคยรัก เวลารักหวานชื่น แต่พอรักไปก็เปลี่ยนเป็นรักขม เป็นอีกคนหนึ่งค่ะ แล้วก็สอดแทรกความสนุกสนานเข้าไปในเพลง เนื้อเพลงก็จะมีกระทบกระทั่งผู้ชายเล็กๆ น้อยๆ แต่ว่าที่ใส่เข้าไปที่สำคัญที่สุดอย่างที่บอกช่วงกลางเพลงก็จะมีทั้งกลองยาว มีทั้งฉิ่ง ระนาด ซึ่งเราใส่ความเป็นไทยเอาไว้กลางเพลง ซึ่งเรียกว่าสร้างความสนุกสนานบันเทิงได้ครบรูปแบบจริงๆ''

    
ที่ว่ากระทบผู้ชายมีเนื้อหาส่วนหนึ่งมาจากชีวิตจริงบ้างไหม?
''ก็ใช่นะ เพราะเรามีความรู้สึกว่า ตอนนี้เปิ้ลยังไม่ได้โฟกัสความรักเลย เป็นคนที่อยู่คนเดียวมีความสุข เพราะมีความคิดว่าความรักมันเหมือนอนิจจังนะ คบกันแรกๆ มันรักหวานชื่น แต่พอคบต่อไปมันก็ต้องเปลี่ยนแบบนี้ค่ะ เปิ้ลเป็นคนที่เวลารักใครรักจริงพอสมควร พอเจอการเปลี่ยนแปลงเราก็ไม่ค่อยอยากจะให้เกิดในชีวิตแบบนี้ค่ะ ก็เลยหยิบยกมาเป็นงานเพลงด้วย มีส่วนมาจากชีวิตจริงเราเหมือนกัน''

    
มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากเดิมบ้าง?
''เปิ้ลคิดว่าแตกต่างโดยสิ้นเชิง หลายๆ อย่างเลยนะคะ อันดับแรกอย่างที่บอกค่ะทักษะการร้องเพลง ก็ดูเป็นนักร้องลูกทุ่งมากขึ้น รวมไปถึงมิวสิกวิดีโอที่เปิ้ลใส่ความอนุรักษ์ความเป็นไทยเข้าไปในเพลงมากขึ้น อย่างตรงกลางเพลงเปิ้ลขอให้มีดนตรีไทยและรำไทยเข้าไป ซึ่งตรงนั้นเปิ้ลก็ดีไซน์ท่ารำเอง เราอยากจะนำความทันสมัยของเพลงสมัยใหม่มาผนวกกันกับเพลงลูกทุ่งที่อนุรักษ์อยู่ค่ะ ท่าเต้นทั้งหมดก็ออกแบบเอง คือจริงๆ แล้วท่าเต้นก็มีโคโรกราฟเขาออกแบบมาให้ แต่เราเอามาปรับแล้วก็เปลี่ยนเอง หรือเราอยากจะได้อะไรที่มันดูแล้วน่ารัก ดูแล้วมีความเป็นตัวเองมากขึ้น และที่สำคัญก็คือหลายๆ คน เห็นแล้วสามารถเต้นตามได้ ไม่ยากเกินไปด้วยค่ะ''

    
ยังคงขายความเซ็กซี่?
''ความเซ็กซี่นี่ไม่ได้ตั้งใจขาย เรียกว่าเป็นสีสันมากกว่า เพราะว่ามันเหมือนเป็นซิมโบลของเราไปแล้ว ทุกคนมองเราเป็นในด้านนี้อยู่แล้ว แต่เราไม่ได้ตั้งใจขายด้านนี้ เพราะว่าเปิ้ลก็จะมีเสื้อผ้าหน้าผมหรือการทำงานที่เหมาะสมกับกาลเทศะ อย่างงานนี้เป็นงานที่วัดนะ อยากให้เรียบร้อย งานนี้ขอเซ็กซี่นิดนึง หรือว่าเป็นงานที่ผับหรืองานอะไร และคือเซ็กซี่ตามที่เจ้าภาพสั่งมากกว่า''

    
มีการเอาเพลงเก่ามารวมออกมาเป็นอัลบั้ม?
''ตอนนี้มีครบ 6 เพลงแล้วค่ะ ก็มีรักหมดโปร (ลา ลา ลา) รวมเป็นอัลบั้มเบนซ์สปอร์ต มีเพลง เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ บรรยากาศพาไป มารวมกัน แล้วก็มีเพลงช้าอีกเพลงที่ทำใหม่คือ คืนนี้ขอให้คุ้มค่ะ ซึ่งเป็นเพลงที่ร้องยากมาก เป็นเพลงช้าที่เปิ้ลต้องใช้ทักษะในการร้องเพลงลูกทุ่งและลูกคอทั้งหมดที่มีมากๆ แล้วก็ใช้เวลาในการร้องเพลงนี้เกือบ 3 เดือน แก้แล้วแก้อีก กว่าจะได้เพลงนี้ค่ะ เพราะจริงๆ เป็นคนที่ถนัดเพลงเร็วมากกว่า โดยอุปนิสัยแล้วเป็นคนสนุกสนาน เฮฮา ร่าเริงอยู่แล้วค่ะ เพลงเร็วรู้สึกจะเหมาะกับความเป็นตัวเราที่สุด เพลงช้าเนื้อเพลงมันค่อนข้างเศร้า ค่อนข้างออดอ้อน คือเปิ้ลเป็นคนไม่ค่อยมีจริตหรือมารยาอะไรเท่าไหร่ ก็เลยค่อนข้างยาก''

    
มีความคาดหวังกับเพลงใหม่นี้มากแค่ไหน?
''เพลงใหม่ก็มีความคาดหวังขึ้นบ้างจากตอนที่ทำ ''เบนซ์สปอร์ต'' แทบจะไม่คาดหวังเลย แต่ชุดนี้เนื่องจากว่าเปิ้ลใช้เวลาทำเกือบ 1 ปี แล้วทุบกระปุกไปรวมๆ ก็เกือบครึ่งล้านนะ เพราะฉะนั้นเปิ้ลก็เริ่มมีความคาดหวัง ขอแค่ให้เป็นที่ยอมรับว่าเรามีพัฒนาการ เราตั้งใจอยากยืนอยู่ในวงการลูกทุ่งอย่างสวยงามเท่านั้นเอง จริงๆ แล้วต้องบอกว่าถ้าให้เปิ้ลเลือกก็คงอยากอยู่ในวงการจนสามารถที่จะร้องเพลงเป็นคุณย่าคุณยายได้เลย เพราะเรารักวงการบันเทิงจริงๆ ถึงได้ยืนหยัดมา 21 ปี แต่ตัวเปิ้ลเองคงอยู่ไม่ได้ ถ้าประชาชนทุกคนไม่ได้ให้การตอบรับหรืออยากให้เปิ้ลยืนอยู่ตรงนี้ค่ะ''

    
โดนแซวว่าร้องเพลงคร่อมคีย์, เต้นผิดจังหวะรู้สึกอย่างไรบ้าง?
''ก็รู้สึกยินดีรับนะคะ เพราะปกติเป็นคนรับทั้งคำติและคำชม เวลาใครติเราก็ไปดูว่าเราเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า แล้วกลับมาพิจารณาตัวเอง และเปิ้ลเองก็กลับไปฝึกทักษะหลายๆ อย่างเพิ่มเติมขึ้น เช่นเปิ้ลไปเรียนร้อง เรียนเต้นเพิ่มขึ้น เราก็พยายามที่จะฝึกฝนความสามารถ เพิ่มสกิลต่างๆ มากขึ้น''

    
หันมาร้องเพลงไม่เล่นละครหรือหนังแล้วเหรอ?
''งานแสดงตอนนี้ก็มีภาพยนตร์บุญเพ็งหีบเหล็ก ส่วนงานแสดงอื่นๆ จะเห็นหลังจากที่งานเพลงเสร็จสิ้นสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์นะคะ เพราะว่าที่ผ่านมาเปิ้ลยุ่งอยู่กับการทำเพลง เดินสายโปรโมต มีคอนเสิร์ตด้วย เพราะฉะนั้นตอนนี้วอนผู้จัดแล้วกันว่า ตอนนี้เปิ้ลเองก็อยากจะหันมาเล่นละครแล้ว เพราะแฟนๆ หลายๆ คนก็บ่นคิดถึงอยากเห็น ซึ่งปีหน้าอาจจะได้เห็นเปิ้ลในบทบาทหลายๆ บทบาทด้วยค่ะ''

    
เรื่องความรักเป็นยังไงบ้าง?
''มันก็มีคุยบ้างค่ะ แต่ว่าเป็นแฟน เป็นตัวเป็นตน หรือฟันธงว่าคนนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์มันยังไม่ใช่ เพราะว่าตัวเองอย่างที่บอกเราก็ค่อนข้างปิดเรื่องความรักเหมือนกัน เราเป็นคนค่อนข้างเลือกมาก เพราะจริงจังเวลาจะเลิกกับใครหรือคบใครก็จะนาน ซึ่งเราก็เป็นผู้หญิงจะมานั่งเปิดกว้าง 100 เปอร์เซ็นต์ก็คงไม่ดี เพราะฉะนั้นค่อยๆ ดู อย่างฝรั่งคนที่เป็นข่าว ก็คือดูๆ อยู่ แต่ยังไม่ใช่หรือฟันธงว่าคนนี้เป็นแฟน เราเจอกันในเว็บหาคู่ คุยกันไปเรื่อยๆ ของแบบนี้ต้องใช้เวลาค่ะ สเปกเปิ้ลก็ไม่ได้เอนไปทางฝรั่งหรือทางไหนเป็นพิเศษนะคะ ก็เป็นคนที่คบคนได้หลากหลายประเภท แต่เปิ้ลคิดว่าความคิดของฝรั่งบางครั้ง อาจจะบาลานซ์กับเราพอดี เพราะเราเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีความเป็นผู้นำสูง แล้วก็บางครั้งเป็นคนที่ไม่ยอมคน เลยน่าจะเหมาะมากกว่า''

    
ด้วยความที่ภาพลักษณ์เป็นคนแรงๆ เซ็กซี่ คิดว่าเราเหมาะกับเพลงลูกทุ่งมั้ย?
''เปิ้ลว่าคนมองแค่ภาพลักษณ์ภายนอก แต่ถ้าได้สัมผัสกับเปิ้ลจริง ได้มาดูมิวสิกวิดีโอ ได้รู้จักเปิ้ล ได้เดินเข้ามาคุยกับเปิ้ลจะเปลี่ยนความคิดนี้นะคะ ซึ่งจริงๆ เปิ้ลก็มีหลากหลายบุคลิก หลากหลายอารมณ์ที่อยากจะแนะนำตัวให้มากกว่านี้ อยากจะให้ติดตามและรู้จักเปิ้ลให้มากกว่านี้แล้วกันค่ะ''

    
ฝากอะไรถึงแฟนๆ ที่ติดตามผลงานหน่อย?
''ก็ฝากผลงานเพลงรักหมดโปร (ลา ลา ลา) ไว้ในอ้อมกอดด้วย เพราะว่าเพลงนี้เปิ้ลตั้งใจสุดความสามารถเลยนะคะ 1 สมอง 2 มือ ทุ่มทุนด้วยตัวเองด้วย และเราก็ตั้งใจทำผลงานมาเกือบ 1 ปีเต็มๆ อยากจะให้เห็นพัฒนาการในการทำงานให้รู้ว่าเปิ้ลทำงานออกมาเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับทุกๆ คนมากแค่ไหน ยังไงก็ฝากทุกคนด้วยนะคะ''

    
นี่คืออีกหนึ่งบทบาทความสามารถของผู้หญิงคนนี้ ''เปิ้ล'' ไอริณ ศรีแกล้ว นักร้องไร้สังกัด ที่ตั้งใจมอบความสุขให้กับคอเพลง