ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » ฉายาคนกีฬาปี57ชัปปุยส์"เทพบุตรAECสามีล้านเมีย"

ฉายาคนกีฬาปี57ชัปปุยส์"เทพบุตรAECสามีล้านเมีย"

Posted 01/01/2015 by siamsport

 
สมาคมนักข่าวช่างภาพ กีฬาแห่งประเทศไทย ตั้งฉายาคนกีฬาเจ็บๆ คันๆ มันในอารมณ์ ''ชัปปุยส์'' นักเตะสุดหล่อได้รับฉายา ''เทพบุตร AEC สามีล้านเมีย'' ส่วน ''เมสซี่เจ'' ด้วยลีลาการลากเลื้อยในสนามที่เร้าใจแฟนบอล จึงได้ฉายา ''ซูเปอร์จิ๋ว พลิ้วกระชากใจ'' ขณะที่ ''บังยี'' ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทีมชาติไทย ได้รับฉายาว่า ''เบื้องหลัง พลังศรัทธา'' ฝ่าย อะแมนด้า คาร์ นักปั่นเหรียญทองเอเชียนเกมส์ เหมาะกับฉายา ''หยองพลังปลาร้า ปั่นเหินฟ้าคว้าทอง'' สำหรับ ''โค้ชเช'' ได้ฉายา ''ตบเดียวเสียวทั้งชาติ''

 


            ''บิ๊กเหม็น'' ไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เป็นธรรมเนียมในแต่ละปีที่สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ จะตั้งฉายาให้กับบุคคลในวงการกีฬา ซึ่งมีข่าวโดดเด่นในสายตาของสื่อมวลชนสายกีฬาในรอบปีที่ผ่านมา สำหรับฉายาคนกีฬาประจำปี พ.ศ. 2557 มีจำนวน 12 ฉายา ดังนี้


            ชาริล ชัปปุยส์ - ''เทพบุตร AEC สามีล้านเมีย'' ด้วยความหล่อเหลาและฝีเท้าที่ไม่ธรรมดาทำให้กองกลางหนุ่มลูกครึ่งไทย-สวิส ของทีม ''ช้างศึก'' กลายเป็นขวัญใจของสาวไทยทั่วประเทศ จนยอดฟอลโลว์อินสตาแกรมเพิ่มขึ้นแบบถล่มทลายในช่วงการแข่งขัน ''เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ'' เท่านั้นไม่พอ เสน่ห์ของชัปปุยส์ยังไปถูกตาต้องใจสาวๆ ทั่วภูมิภาคอาเซียนจนเผลอเอาใจช่วยไปโดยไม่รู้ตัว และเพราะความหล่อของแข้งหนุ่มรายนี้ ทำให้สาวๆ นับแสนนับล้านใน AEC อ้างเป็นแฟนหรือภรรยาโดยพร้อมเพรียงกัน


            ''เมสซี่เจ'' ชนาธิป สรงกระสินธ์ - ''ซูเปอร์จิ๋ว พลิ้วกระชากใจ'' แข้งหนุ่มวัย 21 ปี จากจังหวัดนครปฐม ถือเป็นห้องเครื่องคนสำคัญของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน แม้จะมีรูปร่างเล็ก ด้วยส่วนสูงเพียง 158 เซนติเมตร แต่มีฝีเท้าจัดจ้าน คิดเร็ว ทำเร็ว เลี้ยงบอลหลอกล่อหลบหลีกแนวรับของคู่ต่อสู้จนปั่นป่วน เป็นกุญแจสำคัญที่พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์อาเซียน โดยมีรางวัลเอ็มวีพีเป็นเครื่องการันตี และกลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลชาวไทย รวมถึงได้รับการยอมรับจากสื่อต่างชาติด้วย


            ''ซิโก้'' เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง - ''กุนซือ คสทช. (คืนสุขให้คนทั้งชาติ)'' นับเป็นพระเอกนอกสนามตัวจริงเสียงจริงสำหรับ ''ซิโก้'' อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกาของทีมชาติไทย ซึ่งเข้ามากุมบังเหียนทีมชาติไทยชุดเล็กในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า เมื่อปลายปีที่แล้ว และพาทีมคว้าเหรียญทองครั้งแรกในรอบ 6 ปีได้สำเร็จ ต่อเนื่องมาปีนี้ก็พาทีมทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ซึ่งเทียบเท่าผลงานดีที่สุดของทีมช้างศึกในอดีต ก่อนปิดท้ายด้วยการพาทีมคว้าแชมป์อาเซียน เป็นการกู้ศรัทธาแฟนบอลครั้งใหญ่ และคืนความสุขให้คนไทยส่งท้ายปี


            ''ไอ้หยอง'' อะแมนด้า คาร์ - ''หยองพลังปลาร้า ปั่นเหินฟ้าคว้าทอง'' สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน กลายเป็นขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ หลังคว้าเหรียญทองจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ โดยทิ้งคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น แต่สิ่งที่ชนะใจคนไทยมากกว่าฝีมือคือรอยยิ้มพิมพ์ใจและการให้สัมภาษณ์ด้วย ภาษาถิ่นอีสาน เนื่องจากอะแมนด้าหรือ ''หยอง'' แม้จะเกิดและโตที่ฟลอริดา แต่คุณแม่ซึ่งเป็นคนอุดรธานีไม่ต้องการให้ลูกลืมแผ่นดินแม่ จึงมักพาไปเยี่ยมญาติและสอนให้เว้าอีสานมาตั้งแต่เด็กๆ นั่นเอง


            ''บังยี'' วรวีร์ มะกูดี- ''เบื้องหลัง พลังศรัทธา'' หลังจากที่ ''ช้างศึก'' ทีมชาติไทย ผลงานตกต่ำในช่วงระยะเวลาหนึ่ง กระทั่งก่อนเข่งซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่เมียนมาร์ ''บังยี'' วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศจะทวงเหรียญทองคืน โดยมอบให้ ''ซิโก้'' เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ทำหน้าที่กุนซือใหญ่ พร้อมกับควบทำทีมชาติชุดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ไปด้วย ท่ามกลางเสียงคัดค้านและเสียงก่นด่า ดูถูกเหยียดหยามจากแฟนบอลส่วนใหญ่ เพราะผลงานของ ''โค้ชซิโก้'' ในระดับสโมสรไม่ดีนัก แต่ ''บังยี'' ก็เชื่อมั่นในตัวของ ''ซิโก้'' สุดท้ายกุนซือจอมตีลังกาสามารถนำพาทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองซีเกมส์กลับมาได้ อีกครั้ง, พาทีม ''ช้างศึก'' เข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายเอเชียนเกมส์ และคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 มาได้สำเร็จ สามารถเรียกศรัทธาจากแฟนบอลกลับคืนมาได้ภาคภูมิ และเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการลูกหนังไทย ซึ่งหากในวันนั้น ''วรวีร์'' ไม่กล้าเลือก ''ซิโก้'' มาทำหน้าที่โค้ช ก็อาจไม่มีพลังศรัทธาจากแฟนบอลในวันนี้ จึงถือว่า ''วรวีร์'' เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของพลังศรัทธาตัวจริง


            ''โค้ชเช'' เช ยอง ซอก - ''ตบเดียวเสียวทั้งชาติ'' กลายเป็นประเด็นฮือฮาระดับวาระแห่งชาติหลังจาก ''น้องก้อย'' รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทย บ่นผ่านเฟซบุ๊กเรื่องโดน ''โค้ชเช'' เช ยอง ซอก โค้ชเทควันโดชาวเกาหลีใต้ของทีมชาติไทย ทำโทษด้วยการตบหน้า เพราะปัญหาเรื่องระเบียบวินัย เรื่องราวลุกลามใหญ่โตเมื่อเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์แตกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งบอกว่าโค้ชลงโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ ไม่ควรลงไม้ลงมือกับนักกีฬา ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าโค้ชทำไปเพราะรักและหวังดี ไม่ได้มีเจตนาทำร้าย โค้ชเชซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เต็มๆ จึงเดินทางกลับบ้านเกิดและขอเวลาพักทำใจ จนบรรดานักกีฬาทีมชาติทั้งศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบัน รวมถึงแฟนกีฬาชาวไทยส่วนใหญ่เกรงว่าโค้ชจะไม่กลับมาไทยอีก ถึงขั้นล่าชื่อเรียกร้องให้โค้ชเชกลับมา แต่สุดท้ายสองฝ่ายก็เคลียร์ใจและเรื่องจบลงด้วยดี


            ''มาดามแป้ง'' นวลพรรณ ล่ำซำ - ''มาดามดัน ฝันเป็นจริง'' สำหรับ ''คุณแป้ง'' ไฮโซสาวผู้บริหารบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยมานานถึง 6 ปี ซึ่งมักเป็นที่รู้กันในหมู่สื่อและแฟนๆ ว่า มาดามแป้งมักจะทุ่มเทให้ทีมเต็มที่ เพื่อให้แข้งสาวไทยทำผลงานดีที่สุดในทุกรายการ ทั้งร่วมทุกข์ตอนผิดหวัง และร่วมสุขเวลาประสบความสำเร็จ ซึ่งมาดามแป้งถือเป็นเบื้องหลังคนสำคัญที่พาทีมแม่เนื้ออ่อนไทยคว้าโควตาลุย ศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์


            สมรักษ์ คำสิงห์ - ''ลูกเบี้ยวเที่ยวสุดท้าย ?'' อดีตนักชกฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ปี 1996 เจ้าของวลี ''ไม่ได้โม้'' ตกเป็นข่าวครึกโครมเมื่อปลายเดือนตุลาคม หลังจากเบี้ยวไม่ยอมขึ้นชกในการแข่งขันมวยไทยมาราธอน โตโยต้า วีโก้ รอบแชมป์ชนแชมป์ ที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โดยไม่ชี้แจงใดๆ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น สมรักษ์รับเงินมัดจำไปแล้วล่วงหน้า 1 แสนบาท และผ่านการชั่งน้ำหนักแล้ว ซึ่งในเวลาต่อมา สมรักษ์ได้ออกมาขอโทษผ่านสื่อ และให้เหตุผลว่า เมื่อได้เห็นคู่ชกชาวฝรั่งเศสซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ ก็หวั่นว่าถ้าชกไปอาจจะบาดเจ็บหรือถึงขั้นพิการได้ เพราะอายุมากแล้วและไม่มีเวลาฝึกซ้อม โดยยินดีคืนเงินมัดจำและยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก อย่างไรก็ตาม จากประวัติความกะล่อนที่ผ่านมา ทำให้หลายคนไม่แน่ใจว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่สมรักษ์สร้างปัญหาหรือไม่


            บัวขาว บัญชาเมฆ - ''สามยกชิ่ง วิ่งไปไหน ?'' ยอดมวยไทยชื่อดังทำให้แฟนๆ งงกันทั้งประเทศ เมื่อจู่ๆ ก็หายตัวลึกลับในการแข่งขัน ''เค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ ไฟนัล (ประเทศไทย) ที่พัทยา เมื่อกลางเดือนตุลาคม โดยหลังชกกับ เอ็นริโก้ เคห์ล นักชกชาวเยอรมัน ผ่านไป 3 ยก กรรมการให้สองฝ่ายคะแนนเสมอกัน ต้องตัดสินกันในยกที่ 4 แต่ ''ดำดอทคอม'' ก็ไม่ได้ปรากฏตัวบนเวทีโดยไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทราบภายหลังว่าเจ้าตัวขึ้นรถตู้กลับไปตั้งแต่จบยก 3 แล้ว แม้บัวขาวจะแถลงชี้แจงว่า ทำเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีมวยไทยเพราะมีเรื่องการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ทั้งเหตุผลและพยานหลักฐานก็ดูจะคลุมเครือไม่ชัดเจนมาจนทุกวันนี้


            ทีมวิ่งผลัด 4x100 เมตร หญิง - ''นึกว่าไต้ฝุ่น ที่แท้แค่ลมบ้าหมู'' ก่อนหน้าการแข่งขัน ''อินชอนเกมส์'' ที่เกาหลีใต้ สมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าว่า ทีมไต้ฝุ่นสาวไทยจะสามารถป้องกันแชมป์วิ่งผลัด 4x100 เมตร หญิง เอาไว้ได้ แต่เมื่อถึงเวลาแข่งขันจริง ทีมไต้ฝุ่นสาวไทย ''แผ่ว'' จนแทบไม่เหลือแรงลม เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 4 ไม่ติดเหรียญรางวัลแม้แต่เหรียญเดียว แถมยังมีข่าวลือเรื่องปัญหาไม่ลงรอยกันในทีมระหว่างผู้เล่นชุดเก่ากับชุด ใหม่ แม้ทางสมาคมจะออกมาปฏิเสธเรื่องเกาเหลา แต่ก็ยอมรับว่าถึงเวลาต่อเปลี่ยนถ่ายผลัดใบตัวนักกีฬาแล้ว


            คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) - ''Must Have แสบถึงทรวง'' มหากาพย์การดูฟุตบอลโลก 2014 ของคนไทยยาวนานต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือนเต็ม เนื่องด้วย กสทช.ออกประกาศ ''มัสต์ แฮฟ'' (Must Have) การแข่งขันกีฬา 7 รายการที่คนไทยต้องได้ดูฟรี ซึ่งมีฟุตบอลโลกเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ปัญหาคือประกาศมัสต์แฮฟผ่านร่างในปี 2013 แต่บริษัทอาร์เอส ผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดเวิลด์ คัพ ซื้อลิขสิทธิ์รวบ 2 ครั้งมาตั้งแต่ปี 2006 แล้ว จึงเกิดการต่อสู้กันทางกฎหมาย ผ่านไปหลายศาล สุดท้าย คสช.ต้องเข้ามาช่วยเจรจา จึงสามารถออกอากาศบอลโลกทางฟรีทีวีได้ แต่ กสทช.ก็ต้องจ่ายเงินชดเชยให้อาร์เอสเป็นเงินถึง 369 ล้านบาท


            วาเนสซ่า เม - ''สกีแถ แหลทะลุโลก'' นักไวโอลินสาวลูกครึ่งไทย-จีนซึ่งถือสัญชาติสหราชอาณาจักร เรียกเสียงฮือฮาตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังประกาศว่า จะเล่นสกีในนามตัวแทนทีมชาติไทยโดยใช้นามสกุล ''วนากร'' ของคุณพ่อ และมีเป้าหมายอยู่ที่การคว้าโควตาร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาว 2014 ที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย ในเดือนกุมภาพันธ์ ปรากฏว่า วาเนสซ่าทำได้จริง จากที่คะแนนไม่ถึงมาตลอดก็มาไล่เก็บคะแนนเอาใน 4 สนามสุดท้ายที่สโลวีเนีย ก่อนหน้าจะตัดโควตาเพียงไม่กี่วัน สุดท้ายจึงได้ไปแข่งขันและกลายเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของโซชิเกมส์ที่สื่อทั่วโลก จับตามอง แต่แล้วในเดือนพฤศจิกายน สหพันธ์สกีนานาชาติก็ออกแถลงการณ์ว่าการแข่งขันที่สโลวีเนียเป็นการจัดฉาก เพื่อให้วาเนสซ่าได้ไปแข่งขัน เป็นมหกรรมแหกตาระดับโลกเพราะแม้แต่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ก็ยังโดนหลอก จึงลงโทษผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมถึงวาเนสซ่าที่ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการแข่งขันใดๆ เป็นเวลา 4 ปี ซึ่งเธอได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »