ไม่ได้ดั่งใจเลย! หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ "ปีศาจแดง" ยกมือยอมรับไม่สมควรชนะ "ช่างปั้นหม้อ" หลังยกทีมบุกไปแบ่งแต้มในวันปีใหม่ ชี้ลูกทีมเล่นไม่ออก บอกเจ้าบ้านน่ามีเฮด้วยซ้ำไป ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ สโต๊ค สุดผิดหวังได้แค่เจ๊า โวลั่นเหนือกว่าแท้ๆ แต่ดันส่องประตูชัยไม่ได้เอง

หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บ่นอุบผลงานของลูกทีมที่บุกไปทำได้เพียงแค่เสมอกับ สโต๊ค ซิตี้ 1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดฉลองวันปีใหม่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่สนาม บริทานเนีย สเตเดี้ยม หลังโดน ไรอัน ชอว์ครอสส์ กองหลังเจ้าถิ่น ส่องประตูไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 2 ก่อน ราดาเมล ฟัลเกา จะแผลงฤทธิ์ไล่เจ๊า 1-1 ในนาทีที่ 26

ฟาน กัล ที่นำทีม "ปีศาจแดง" ไม่แพ้ใครมาตลอด 10 นัดหลังสุด กล่าวผ่าน สกาย สปอร์ตส์ สถานีโทรทัศน์ช่องกีฬาดังเมืองผู้ดี ว่า "มันเป็นผลเสมอ และผมไม่คิดว่าเราจะสมควรได้รับอะไรมากไปกว่านั้นอยู่แล้ว พวกเขาใกล้เคียงมากกว่าเราสำหรับการทำประตูชัยด้วยซ้ำไป"

 "เราเห็นแล้วว่ามันยากสำหรับเราที่จะป้องกันลูกโยนยาว และเราก็ยังเคยเห็นอะไรแบบนั้นมาแล้วจากเกมเหย้าที่พบกับ สโต๊ค ซิตี้ (แมนฯ ยูฯ ชนะ 2-1 เมื่อวันอังคารที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา) เรามีเวลาและพื้นที่ว่างมากมายที่จะทำเกม ครึ่งหลังดูดีขึ้นมาหน่อย แต่เราก็ไม่ได้สร้างสรรค์โอกาสได้มากนัก เพราะการเปิดบอลยังทำได้ไม่ดีนัก และตามปกติแล้วพวกเขาทำได้ดีกว่ามาก"

แม้จะมีกระแสลมแรงระหว่างการแข่งขัน แต่นายใหญ่ชาวดัตช์ไม่ขอนำมาใช้แก้ตัวใดๆ โดยระบุว่า "คู่แข่งก็มีปัญหานั้นเหมือนกัน แต่พวกเขาใช้มันให้เป็นประโยชน์ได้มากกว่า และพวกเขายังเล่นบอลยาว ซึ่งทำให้มันง่ายมากขึ้นไปอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เราก็ยังมีพื้นที่และเวลาที่จะเล่นบอล และเราก็น่าจะเล่นได้ดีกว่านี้ในวันนี้"

ขณะที่ จอนนี่ อีแวนส์ ปราการหลัง "เร้ด เดวิลส์" ประสานเสียงเห็นด้วยกับเจ้านาย โดยกล่าวว่า "มีผลเสมอหลายครั้งด้วยกันที่เราสมควรจะเป็นผู้ชนะมากกว่า แต่วันนี้ผมรู้สึกว่า สโต๊ค ทำให้เราตกอยู่ภายใต้ความกดดันมหาศาลในครึ่งหลัง และเราก็อาจจะเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานตามปกติของตัวเองอีกต่างหาก"

 ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ "ช่างปั้นหม้อ" กล่าวว่า "เราผิดหวัง ในแง่ของความกดดัน, ความสมดุลย์, การสร้างโอกาส ผมคิดว่าเราเป็นทีมที่ดูเหมือนว่าน่าจะทำประตูได้มากที่สุด ในแง่แท็กติกแล้วนั้น เราเอาอยู่ และพวกเขาก็ต้องพบว่ามันยากจริงๆ กับการที่นักเตะตัวหลักๆ ของพวกเขาจะครอบครองบอลเอาไว้ได้"