หนึ่งในแข้งดาวรุ่งที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นจากทีมชาติไทยชุดแชมป์ "ซูซูกิ คัพ 2014" ที่ผ่านมา อย่าง "เจ้าบาส" พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ถือว่าเป็นหนึ่งแข้งที่น่าสนใจไม่น้อย แม้ความฮอตของเจ้าตัวอาจสู้ สองสตาร์ดังอย่าง ชาริล ชัปปุยส์ กับ "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไม่ได้ แต่ในเรื่องฝีไม้ลายมือของเจ้าตัวถือว่ามีส่วนสำคัญในความสำเร็จของทีมชาติไทยชุดนี้ไม่น้อย

"เจ้าบาส" พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา วิงแบ็กหน้าหล่อเป็นหนึ่งในแข้งดาวรุ่งที่ถูกจับตามองตั้งแต่เยาวชน เพราะเจ้าตัวได้โอกาสติดธงรับใช้ชาติตั้งแต่ทีมเยาวชน 19 ปี ชุดแชมป์อาเซียน ภายใต้การคุมทีมของ "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม ก่อนที่จะถูก บีอีซี เทโรศาสน เซ็นสัญญาเข้าทีมในที่สุด ซึ่งเจ้าตัวก็ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ในระยะเวลาไม่นาน ก่อนที่จะได้รับโอกาสรับใช้ชาติอีกครั้ง เมื่อ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เรียกเด็กหนุ่ม เมืองลิง ติดทีมไปในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่ประเทศเมียนมาร์และก็คว้าเหรียญทองมาฝากแฟนฟุตบอลได้ในช่วงปลายปี 2556 ที่ผ่านมาอีกด้วย

พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา หรือ บาส เจ้าของเสื้อหมายเลข 2 ของทัพช้างศึก เกิดวันที่ 4 กุมภาพัน2536 ที่จังหวัดลพบุรี ด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิตเจ้าบาสต้องสูญเสียบิดาผู้เป็นที่รักไปตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ด้วยความที่ต้องดูแลคุณแม่และครอบครัวตั้งแต่วัยเด็ก จึงทำให้เจ้าบาสได้รับประทานโล่เกียรติยศรางวัลลูกดีเด่น สาขากตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อพ่อแม่ ประจำปี 2556 จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่เจ้าบาสและครอบครัวเป็นอย่างมาก

สำหรับชีวิตบนเส้นทางลูกหนัง "เจ้าบาส" พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา เริ่มหัดฟุตบอลโดยเข้าเรียนที่โรงเรียนกีฬา จ.สุพรรณบุรี ก่อนที่จะย้ายมาเสริมเขี้ยวเล็บที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพฯ ก่อนที่ฝีเท้าจะไปเตะตา เพื่อนตำรวจ และได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของทีมเยาวชนในปี 2554 แต่ยังไม่สามารถแจ้งเกิดได้ ก่อนที่จะมาสร้างชื่อกับทีมเยาวชน 19ปี ทีมาติไทย ที่สามารถคว้าแชมป์อาเซียน และก็ถูกสโมสรบีอีซี เทโรศาสน ดึงเข้าทีมจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในฤดูกาลนี้ก็มีส่วนสำคัญที่พามังกรไฟก้าวไปคว้าแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ 2014 ได้อีกด้วย

ส่วนการรับใช้ทีมชาติชุดใหญ่ของเจ้าบาสถูก "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เรียกใช้งานในการอุ่นเครื่องกับทีมชาติจีน ซึ่งไทยของเราบุกไปเอาชนะได้แบบขาดลอย 5-1 และในการแข่งขันเอเชียน คัพ 2015 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้มีแผนเรียก พีระพัฒน์ มาร่วมทีมชาติแทน ธีราทร บุญมาทัน และ ประทุม ชูทอง ที่ได้รับบาดเจ็บพร้อมกับ อาทิตย์ ดาวสว่าง ก่อนจะมีชื่อติดเป็นผู้เล่นที่ทีมชาติไทยพบกับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ในวันที่ 28 กรกฎาคม และสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่าในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งนั่นก็เป็นการสร้างประสบการณ์ให้ เจ้าบาส ได้เป็นอย่างดีจนสามารถก้าวมาเป็นกำลังสำคัญของทัพช้างศึกใน พ.ศ. นี้

และกับการทำผลงานในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 เจ้าตัวก็ไม่ทำให้สาวกบอลไทยหลายล้านคนต้องผิดหวังเมื่อทำหน้าที่ตรงริมเส้นฝั่งซ้ายได้เป็นอย่างดี และความสำเร็จในครั้งนี้เขาก็ไม่สามารถเก็บน้ำตาแห่งความดีใจไว้ได้ แถมยังบอกอีกว่าจะขออุทิศแชมป์นี้ให้แก่คุณพ่อที่เสียไปเพราะคุณพ่ออยากให้เขาเป็นนักฟุตบอล และยังมีแผนที่จะอุปสมบทในปีหน้าอีกด้วย

ด้วยวัยเพียง 21 ปี ทำให้ "เจ้าบาส"พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ยังมีเวลาพัฒนาฝีเท้าของตัวเองอีกหลายปี ซึ่งในอนาคตวิงแบ็กตัวหลักทีมชาติไทยก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้าบาสอย่างแน่นอน ซึ่งดูจากความสามารถในเพื่อนร่วมรุ่นในทีมชาติชุดนี้ เจ้าบาสก็ถือว่าทำได้ดีไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน