หลายครั้งเรามักจะคิดว่านักฟุตบอลที่ตัวเล็กโอกาสประสบความสำเร็จยาก แต่ในเมืองไทยตอนนี้ข้ออ้างหรือเหตุผลดังกล่าวได้โดนทำลายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยเด็กผู้ชายที่มีส่วนสูงเพียง 158 ซม. ผู้ที่ได้รับสมญานามจากสื่อมวลชนว่า "เมสซี่เจ" ถูกต้องแล้วครับเขาผู้นั้นคือ "เจ้าเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางพรสวรรค์สูง ร่างจิ๋ว สังกัดค่าย "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน และนักเตะทีมชาติไทย

"เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เด็กน้อยชาว จ.นครปฐม ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2536 เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และเริ่มเล่นอย่างจริงจังตอนเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร จากนั้นย้ายมาศึกษาต่อที่โรงเรียนเพ็ญสมิทธ์ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังจบชั้นประถม "เจ" กลับนครปฐม เพื่อเข้ารับการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนสามพรานวิทยา และต่อมาย้ายมาศึกษาต่อที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราชดำเนิน

แม้จะมีจุดด้อยในเรื่องร่างกายที่ตัวเล็ก แต่ด้วยความพยายามและมุ่งมั่น "เมสซี่เจ" ก็เริ่มฉายแววการเป็นอัจฉริยะลูกหนังให้เห็นมาตั้งแต่ในระดับเยาวชน โดยเฉพาะในช่วงที่ศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราชดำเนิน จนกระทั่งฝีเท้าไปเข้าตาแมวมองของสโมสร "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ยอดทีมในลีกสูงสุดของเมืองไทย สโมสรดังกล่าวจึงจัดการเซ็นสัญญาคว้าตัว "เมสซี่เจ" เข้ามาสู่ทีมในปี 2554 จากนั้นเป็นต้นมา "เมสซี่เจ" ก็ได้รับการขัดเกลาฝีเท้าจากทีมงานผู้ฝึกสอนที่มีคุณภาพของสโมสร "มังกรไฟ" จนเจ้าตัวสามารถก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไล่มาตั้งแต่ระดับเยาวชน ยู-19, ยู-23 และทีมชาติชุดใหญ่ ในท้ายที่สุด

ในเรื่องของผลงาน "เมสซี่เจ" ก็ถือว่าทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2013 ยาวมาจนกระทั่งปลายปี 2014 ถือว่าเป็นช่วงปีทองของ "เมสซี่เจ" ก็ว่าได้ เริ่มจากในช่วงระหว่าง วันที่ 7-21 ธันวาคม ปี 2013 "เมสซี่เจ" ถือเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมชาติไทยกลับมาผงาดคว้าเหรียญทองซีเกมส์ ที่เมียนมาร์ อีกครั้ง หลังจากที่สองครั้งก่อนหน้านั้นทีมชาติไทยพลาดเหรียญมาตลอด แต่หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจกีฬาซีเกมส์ ที่เมียนมาร์ "เมสซี่เจ" โชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่หลายเดือน แต่หลังจากหายเจ็บ "เมสซี่เจ" ก็กลับมาช่วยสโมสร "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน และถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการพาสโมสรต้นสังกัดคว้าแชมป์ โตโยต้า ลีก คัพ ซึ่งถือเป็นแชมป์แรกในรอบ 12 ปี ของทัพ "มังกรไฟ" ที่สำคัญ "เมสซี่เจ" ยังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมในรายการนี้ไปครองได้อีกด้วย ก่อนที่ปลายปี 2014 "เมสซี่เจ" ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ โดยเฉพาะการซัดประตูสุดสวยในนัดชิงชนะเลิศนัดที่สองที่สนาม บูกิต จาลิล ถือเป็นประตูที่ยังติดตาตรึงใจแฟนบอลชาวไทยทั้งประเทศ พร้อมกันนั้นเจ้าตัวยังคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำรายการนี้มาได้อีกหนึ่งรางวัล

ต้องยอมรับครับว่าปีนี้ถือเป็นปีทองของ "เมสซี่เจ" จริงๆ ด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปี แต่เจ้าตัวก็ผงาดก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในย่านอาเซียนชั่วโมงนี้ก็ว่าได้ เชื่อแน่ว่าถ้าหากเจ้าตัวสามารถรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ไว้ได้ และสามารถพัฒนาฝีเท้าของตัวเองขึ้นไปได้อีกในอนาคตอีกไม่ใกล้ไม่ไกลต่อจากนี้แฟนบอลชาวไทยอาจจะได้เห็น "เมสซี่เจ" เดินทางไปวาดลวดลายกับสโมสรชั้นนำในยุโรปหรือในเอเชีย ก็เป็นได้...