ฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ
 (รอบ 4 ฤดูกาล 2014-15)
 วันศุกร์ที่ 23 มกราคม 2558
 เคมบริดจ์ (ลีก ทู) 0-0 แมนฯยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

สนาม: แอ็บบีย์ สเตเดี้ยม

          เคมบริดจ์ ทีมจากลีก ทู ได้ ลุค แชดวิค ปีกวัย 34 ปี ซึ่งเป็นอดีตผู้เล่นของแมนฯยูไนเต็ด ฟิตทันกลับมามีชื่อเป็นสำรอง ส่วนคู่หน้าส่ง ซัลเลย์ ไคไค ลงล่าตาข่ายกับ ทอม เอลเลียตต์

          ทางด้าน "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด ยอดทีมพรีเมียร์ ลีก ทำการพัก เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวเก่งเอาไว้ พร้อมให้ เจมส์ วิลสัน ลงล่าตาข่ายกับ ราดาเมล ฟัลเกา โดยมี อัดนาน ยานาไซ กับ อังเคล ดิ มาเรีย ลงมาทำเกมรุกตามริมเส้น ส่วน บิคตอร์ บัลเดส นายทวารคนใหม่ที่มีข่าวว่าจะได้สตาร์ตตัวจริงทำได้แค่นั่งชมเกมในซุ้มม้านั่งสำรอง

          ออกสตาร์ทครึ่งแรกไปได้ 9 นาที อัดนาน ยานาไซ โหม่งตั้งให้ ดาเล่ย์ บลินด์ หลุดขึ้นเติมเกมรุกเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายหลอกเปิดจังหวะแรก แต่เปลี่ยนลากตัดเข้าซัดในเขตโทษ แต่ไม่ผ่าน คริส ดันน์ นายทวารเคมบริดจ์ ปิดเสาแรกได้ดีเสียแค่ลูกเตะมุม

          สองนาทีต่อมา เคมบริดจ์ ได้ลุ้นบ้าง ไรอัน โดนัลด์สัน เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายโด่งมากลางประตู ไมเคิล เนลสัน โหม่งเต็มหัวจังหวะแรกติด จอช คูลสันพวกเดียวกันเองที่ขวางหน้าประตู มาร์กอส โรโฮ ล้มตัวสกัดแต่ลูกกระดอนกลับมาเข้าหัว คูลสัน ยืนโขกจ่อๆไม่ถึง 6 หลาข้ามคานเหลือเชื่อ

          ผ่านมา 15 นาที ทีมเยือนตอบโต้ทันควัน อังเคล ดิ มาเรีย หยอดถึง ราดาเมล ฟัลเกา ได้โหม่งในเขตโทษฝั่งซ้ายก็หลุดเสาไปอีก ต่อด้วยโอกาสยิงไกลของมิดฟิลด์อาร์เจนไตน์ ทว่าตรงตัว คริส ดันน์ นายทวารเคมบริดจ์

          นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ปีศาจแดง ได้ลุ้นอีกหนฟรีคิกจากระยะราว 30 หลา ของ อังเคล ดิ มาเรีย ลูกพุ่งโค้งเฉี่ยวเสาขวามือแบบได้ลุ้น หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

          เข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที อันโตนิโอ วาเลนเซีย ของทีมเยือนโยนไปเสาสองให้กับ อัดนาน ยานาไซ ซัดยิงตรงตัว คริส ดันน์ นายทวารเคมบริดจ์

          กระเถิบมานาทีที่ 59 เคมบริดจ์ ลุยขึ้นมาทาง แคเมร่อน แม็คกีแฮน โยนโค้งเสาไกลให้ ทอม เอลเลียตต์ แต่โดน วาเลนเซีย แซะล้มลงในเขตโทษ ทว่าผู้ตัดสินไม่ให้เป็นจุดโทษ

          สองนาทีต่อมา โอกาสของปีศาจแดง บ้าง ไมเคิล แคร์ริค จ่ายให้กับ ราดาเมล ฟัลเกา ซัดทันที แต่ คริส ดันน์ นายทวารของเคมบริดจ์ ใช้ขาช่วยเซฟบอลข้ามคานไปอย่างหวุดหวิด

          ข้ามมานาทีที่ 66 แมนฯยูไนเต็ด ส่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ อันเดร เอร์เรร่า ลงมาเล่นแทน เจมส์ วิลสัน และ เฟลไลนี่

          4 นาทีต่อมา อังเคล ดิ มาเรีย ปีกชาวอาร์เจนไตน์ของแมนฯยูไนเต็ด เก็บบอลได้แล้วจ่ายให้กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซัดจากระยะ 8 หลาบอลข้ามคานไป
 
          ท้ายเกมนาทีที่ 75 เคมบริดจ์ ถอด เลียม ฮิวจ์ส ออกแล้วส่ง ลุค แชดวิค อดีตผู้เล่นของแมนฯยูไนเต็ด ลงมาเจอกับทีมเก่า

          เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มน่าผิดหวังทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ เคมบริดจ์ 0-0 ต้องกลับไปรีเพลย์ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
          เคมบริดจ์: คริส ดันน์ - ริชาร์ด เทต, ไมเคิล เนลสัน, จอช โคลสัน, เกร็ก เทย์เลอร์ - เลียม ฮิวจ์ส (ลุค แชดวิค น.75), ทอม แชมเปี้ยน, ไรอัน โดนัลด์สัน,แคเมร่อน แม็คกีแฮน - ซัลเลย์ ไคไค (แฮร์ริสัน ดั๊งค์ น.53), ทอม เอลเลียตต์
          สำรอง: วิลล์ นอร์ริส (ผู้รักษาประตู) - โดมินิค บอลล์, เอียน มิลเลอร์, ร็อบบี้ ซิมป์สัน, ไรอัน เบิร์ด

          แมนฯยูไนเต็ด: ดาบิด เด เคอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ฟิล โจนส์, มาร์กอส โรโฮ, ดาเล่ย์ บลินด์ (ลุค ชอว์ น.85) - มารูยาน เฟลไลนี่ (อันเดร์ เอร์เรร่า น.66), ไมเคิล คาร์ริค, อัดนาน ยานาไซ - อังเคล ดิ มาเรีย - ราดาเมล ฟัลเกา, เจมส์ วิลสัน (โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.66) 
          สำรอง: บิคตอร์ บัลเดส (ผู้รักษาประตู) - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, แพ็ดดี้ แม็คแนร์

         ผู้ตัดสิน: คริส ฟอย