กองทัพ ''เดอะ แร็บบิต'' บางกอกกล๊าส เอฟซี ได้ข่าวดีเมื่อ เลอันโดร โอลิเวียร่า หายจากอาการบาดเจ็บเตรียมลงสนามช่วยทีมได้แล้ว โดย ริคาร์โด้ โรดริเกซ กุนซือของทีมยังไม่ตัดสินใจว่าจะส่งลงเป็นตัวจริงเลยหรือไม่แต่จะได้เห็น เจ้าตัวลงสนามอย่างแน่นอน ขณะที่ทางฝั่ง ''ปราสาทสายฟ้า'' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ขาด จักรพันธ์ แก้วพรม ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ส่วนตัวหลักคนอื่นๆ ก็อยู่กันครบ โดยเฉพาะ อเล็กซานเดอร์ กาม่า จะส่ง 2 ดาวยิงชาวบราซิลอย่าง ดิเอโก้ หลุยส์ ซานโต และ กิลแบร์โต มาเซน่า ลงล่าตาข่าย ในศึกฟุตบอล ถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ''โค้กแชริตี้ คัพ 2015''

        ความเคลื่อนก่อนศึกชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ประจำปี 2558 "โค้กแชริตี้ คัพ 2015" ปีที่ 99 ระหว่าง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2014 พบกับ "เดอะ แร็บบิต" บางกอกกล๊าส เอฟซี แชมป์มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2014 ที่จะคิกออฟในที่ 24 ม.ค. 58 (วันนี้) ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 18.00 น. โดยทาง โมเดิร์นไนน์ทีวี, ทรูสปอร์ต 2 และ ทรูสปอร์ต เอชดี 2 ถ่ายทอดสด 

            ความพร้อมของทั้งสองทีม ทางฝั่ง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทางด้าน อเล็กซานเดอร์ กาม่า กุนซือของทีมก็จะหมดสิทธิ์ใช้งาน จักรพันธ์ แก้วพรม กองกลางตัวเก่งที่ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ โดยเกมนี้ก็จะมาในระบบ 3-5-2 มี ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสา กองหลังมี ชิติพัทธ์ แทนกลาง, อันเดรส ตูนเญซ และ สุรีย์ สุขะ

            กองกลาง 3 รายมี สุเชาว์ นุชนุ่ม, โก จุล กิ, ประกิต ดีพร้อม วิงแบ็กซ้ายใช้ ธีราทร บุญมาทัน ฝั่งขวาเป็น นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ที่เพิ่งย้ายเข้ามาร่วมทัพในฤดูกาลนี้ ส่วนกองหน้าเป็นการจับคู่ของ "คอลเลกชั่นบราซิล" อย่าง ดิเอโก้ หลุยส์ ซานโต และ กิลแบร์โต มาเชน่า ลงกะซวกตาข่าย

            โดยทาง อเล็กซานเดอร์ กาม่า ก็เผยว่า "ต้องยอมรับว่าในปีนี้เรามีการเสริมนักเตะเข้ามาเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ปีที่ผ่านมาเรามีปัญหาเรื่องผู้เล่นที่น้อยเกินไป การเสริมเข้ามาเยอะก็ต้องใช้เวลาปรับนักเตะใหม่ให้เข้ากับทีม แต่ในช่วงที่ผ่านมาในเกมอุ่นเครื่องก็ยังไม่น่าพอใจสักเท่าไร แต่ผมก็ยังเชื่อว่าเกมนัดนี้ เราจะเป็นผู้ชนะ" 

                        บีจี เฮ เลอันโดร พร้อมล่าตาข่าย

            ขณะที่ทางฝั่ง บางกอกกล๊าส เอฟซี ได้ข่าวดีเมื่อทีมได้ เลอันโดร โอลิเวียร่า สลัดหายจากอาการบาดเจ็บหลับมาเตรียมลงสนามช่วยทีมได้แล้ว หลังจากที่เมื่อช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา ทัพนักเตะบางกอกกล๊าส เอฟซี ได้เดินทางมาฝึกซ้อมที่สนามศุภชลาศัย ที่จะใช้แข่งขัน โดย เลอันโดร โอลิเวียร่า ก็ลงสนามฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างสบาย 

            ทำให้เกมนี้ ริคาร์โด้ โรดริเกซ มีอาวุธที่จะใช้งานเพิ่มอีกหนึ่งรายแต่ก็ต้องตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายว่าจะ ส่ง เลอันโดร โอลิเวียร่า ลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงเลยหรือไม่ โดย 11 ผู้เล่นของบางกอกกล๊าสที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้ มาในระบบ 4-4-2 โดยมี นริศ ทวีกุล ลงเฝ้าเสาแบ็กซ้ายเป็น ศุภชัย คมศิลป์ ขวาใช้ วสันต์ ฮมแสน เซนเตอร์ฮาล์ฟเป็นการจับคู่กันของ ประวีณวัช บุญยงค์ กับ แม็ตต์ สมิธ แดนกลางใช้ ดาร์โก ทาเซฟสกี้ ทำเกมร่วมกับ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ปีกซ้ายใช้ ณงค์ จันทร์เสวก ขวาเป็น สุรเดช ธงชัย

            ขณะที่กองหน้าก็จะมี ลาซารัส คาอิมบี้ ยืนเป็นล่าตาข่ายร่วมกับ เลอันโดร โอลิเวียร่า ซึ่งหาก เลอันโดร โอลิเวียร่า ยังไม่ฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย ก็จะส่ง ชาตรี ฉิมทะเล ลงมาแทนก่อน โดยให้กองหน้าชาวบราซิลเป็นทีเด็ดในซุ้มมานั่งสำรอง 

            ทางด้าน ริคาร์โด้ โรดริเกซ เผยถึงเกมนี้ว่า "เราเตรียมทีมมาดีสำหรับเกมนัดนี้ที่เราต้องการเป็นผู้ชนะให้ได้ แม้ว่าเราจะเป็นรอง แต่ฟุตบอลนัดเดียวอะไรก็เกิดขั้นได้หมด และแผนที่ผมเตรียมมาก็คิดว่าน่าจะเอาชนะได้ ส่วนนักเตะก็พร้อม และข่าวดีเราก็ได้เลอันโดรฟิตทันลงสนาม แม้ว่าสภาพจะไม่เต็มร้อย ก็ต้องดูอีกครั้งว่าจะส่งเข้าลงตัวจริงเลยหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ พรุ่งนี้จะมีชื่อเขาร่วมทีม ไม่ว่าจะตัวจริงหรือสำรองก็ตาม"

                        บัตร 100, 200, 300

            สำหรับบัตรเข้าชมศึกชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ประจำปี 2558 "โค้กแชริตี้ คัพ 2015" ปีที่ 99 จะมีทั้งหมด 3 ราคา คือ 100 บาท ฝั่งหลังประตูทั้ง 2 ฝั่ง, 200 บาท บริเวณฝั่งคบเพลิง และ 300 บาท บริเวณอัฒจันทร์ฝั่งประธาน ซึ่งหาซื้อหรือจองได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือแฟนบอลที่ยังไม่มีบัตร ฝ่ายจัดจะทำการจำหน่ายบัตรวันที่ 24 ม.ค. หรือก่อนเกมตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
    

                        บุรีรัมย์สถิติข่มแต่ปี 57 โดน "บีจี" เขี่ยร่วงไทยคม

            ส่วนสถิติที่ บุรีรัมย์ กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี เคยพบกันมานั้น ทั้งคู่จะเจอกันในนัดชิงถ้วย ก หนนี้เป็นครั้งแรก โดยภาพรวมของการพบกันมานั้น "ปราสาทสายฟ้า" มีสถิติที่ดีกว่าชัดเจนในทุกรายการที่พบกัน โดยการเจอกันในไทยลีกนั้นมีสถิติดังนี้ ไทยลีก ครั้งที่ 14 เลกแรก บุรีรัมย์ ชนะ 3-1 (ห) , เลกสอง บุรีรัมย์ ชนะ 3-0 (ย) ,ไทยลีกครั้งที่ 15 เลกแรก บุรีรัมย์ ชนะ 2-0 (ย), เลกสอง บุรีรัมย์ ชนะ 2-1 (ห), ไทยลีก ครั้งที่ 16 เลกแรก บุรีรัมย์ ชนะ 2-1 (ย), เลกสอง บุรีรัมย์ ชนะ 3-2 (ห), ไทยลีก ครั้งที่ 17 เลกแรก บุรีรัมย์ ชนะ 2-0 (ห), เลกสอง เสมอ 0-0 (ย), ไทยลีก ครั้งที่ 18 เลกแรก บุรีรัมย์ แพ้ 0-3 (ย), เลกสอง บุรีรัมย์ ชนะ 3-1 (ห) สรุปสถิติที่พบกันมาในไทยลีก พบกัน 10 ครั้ง บุรีรัมย์ ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 20 เสีย 9 

            ขณะที่สถิติที่พบกันมาในรายการอื่นๆ นั้นมีดังนี้ โตโยต้า ลีก คัพ ครั้งที่ 3 ปี 55 รอบรองฯ นัดแรก บุรีรัมย์ ชนะ 3-2 (ย), รอบรองฯ นัดสอง บุรีรัมย์ ชนะ 1-0 (ห) รวมผล 2 นัด บุรีรัมย์ชนะสกอร์รวม 4-2, มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ครั้งที่ 4 ปี 55 รอบรองฯ บุรีรัมย์ ชนะ 2-0 สนามราชมังฯ, มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ครั้งที่ 5 ปี 56 รอบชิงฯ บุรีรัมย์ ชนะ 3-1 สนาม มธ.รังสิต, มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ครั้งที่ 6 ปี 57 รอบ 16 ทีม บุรีรัมย์ แพ้ ดวลจุดโทษ บางกอกกล๊าส 5-7 เสมอในเวลา 120 นาที 2-2 ทำให้สรุปสถิติที่พบกันในรายการอื่นๆ พบกัน 5 ครั้ง บุรีรัมย์ ชนะ 4 แพ้ 1 ได้ 11 เสีย 5 

            จะเห็นว่าเมื่อปี 57 ที่ผ่านมานั้นบางกอกกล๊าสทำผลงานได้เหนือกว่าบุรีรัมย์ เพราะเจอกันในไทยลีก 2 หน ผลัดกันแพ้-ชนะ แถมยังเป็นการชนะบุรีรัมย์ได้ในการพบกันมาในศึกไทยลีกเป็นหนแรกอีกด้วย ขณะที่ในไทยคม เอฟเอ คัพ นั้น บางกอกกล๊าสก็เขี่ยแชมป์เก่าอย่างบุรีรัมย์ร่วงตกไปแค่รอบ 16 ทีมเท่านั้น