"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ประกาศก้อง ให้ความสำคัญเต็มที่กับ 3 รายการ ทั้ง โอลิมปิค รอบคัดเลือก, ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ และฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จะต้องฟันฝ่าไปให้ถึงดวงดาวทุกถ้วย และเตรียมหารือกับ "บังยี"วรวีร์ มะกูดี ประมุขบอลไทย เพื่อดูทิศทางของทัพ "ช้างศึก"ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ ขณะเดียวกันยังเชื่อว่า บางกอกกล๊าส เอฟซี และ ชลบุรี เอหซี จะช่วยกันสร้างผลงานในโทรฟี่ใหญ่เอเชีย ด้วยการผ่านเข้าไปสู่รอบแบ่งกลุ่มได้แน่ เพื่อเป็นการรับคะแนนที่จะมีผลต่อการจัดอันดับแรงกิ้งโลก

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ในการเตรียมทีมเพื่อสู้ศึกทั้ง 3 รายการที่กำลังรออยู่ในปีนี้ ทั้ง โอลิมปิค รอบคัดเลือก, ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ และฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย โดย "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทัพ "ช้างศึก" เตรียมที่จะเข้าหารือกับ "บังยี"วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ มนตรี ไชยพันธ์ รักษาการผู้ว่า กกท. เรื่องของสนามฝึกซ้อมและทิศทางการทำทีมทั้ง 3 ชุด ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ เวลา 9.00 น. ที่สมาคมฟุตบอลฯ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถาม "ซิโก้"เกียรติศักด์ เสนาเมือง แม่ทัพทีมชาติไทย เกี่ยวกับประเด็นที่หลายคนคิดกันว่าในช่วงกลางปี ที่จะมีทั้ง ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ และฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เจ้าตัวอาจจะทิ้งมหกรรมกีฬาของอาเซีย เพื่อตั้งเป้าไปที่เวิลด์ คัพ หรือไม่

โดยเจ้าตัวบอกว่า "ผมขอยืนยันว่าทั้ง 3 รายการ ที่ทีมชาติไทยจะลงทำการแข่งขันนั้น เราจะให้ความสำคัญอย่างแน่นอน เริ่มจาก โอลิมปิค ที่เราต้องผ่านเข้าไปเล่นในรอบคัดเลือก รอบสอง ให้ได้ จากนั้นในช่วงกลางปี การไปเล่นซีเกมส์ เราจำเป็นต้องรักษาแชมป์ไว้ให้ได้"

"และใน ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เราจะต้องผ่านเข้าไปในรอบที่ลึกที่สุด แม้ว่าเราจะได้เข้าไปอยู่ในรอบสอง ที่อาจจะต้องพบกับทีมจากตะวันออกกลาง, เอเชียกลาง รวมถึงเอเชียตะวันออก แต่เราจำเป็นที่จะต้องมุ่งมั่นกับรายการนี้ เพราะจะเป็นการต่อยอดเพื่อไปเล่นใน เอเชียน คัพ ปี 2019 ให้ได้"

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามความมั่นใจของเจ้าตัว เกี่ยวกับ 2 สโมสรตังแทนจากไทย ไม่ว่าจะเป็น บางกอกกล๊าส เอฟซี และ ชลบุรี เอฟซี ที่จะต้องไปเล่นในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2015 รอบเพลย์ออฟ รอบสาม ในวันที่ 17 ก.พ.นี้

หากว่าทั้ง 2 ทีม สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มได้ จะส่งผลโดยตรงต่อค่าสัมประสิทธิ์ของทีมชาติไทย ในการจัดอันดับแรงกิ้งของโลก โดยแม่ทัพที่มีถิ่นกำเนิดใน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้แสดงทรรศนะอย่างมั่นใจว่า

"ผมเชื่อว่าทั้ง บางกอกกล๊าส เอฟซี และ ชลบุรี เอฟซี ต่างมีศักยภาพที่จะต่อกรสโมสรของจีนและญี่ปุ่นได้ รวมถึงผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2015 อย่างแน่นอน เพราะศักยภาพพวกเขาพัฒนาขึ้นมาจากหลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามนักเตะไทยต้องดึงศักยภาพออกมาช่วยทีมอย่างเต็มที่ เนื่องจากจะเป็นผลดีต่อสโมสร ไปจนถึงทีมชาติไทย ที่จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วยกัน โดยเฉพาะกับการสร้างแรงกิ้งของโลกให้ก้าวไปร่วมกัน"