ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558

แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 1-2 บาร์เซโลน่า (สเปน)

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
 
　　แมนฯ ซิตี้ ยังขาด ยาย่า ตูเร่ กองกลางคนสำคัญที่ติดโทษแบนเป็นเกมสุดท้าย โดยเกมนี้ใช้ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" กับ เอดิน เชโก้ กองหน้าที่กำลังฟอร์มแรงล่าตาข่าย ด้น บาร์เซโลน่า เกมนี้ส่ง จอร์ดี้ อัลบา แบ็คซ้ายฟิตลงเป็นตัวจริง ส่วนแนวรุกลงครบทั้ง ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และ เนย์มาร์
 
　　นาทีที่ 12 เริ่มเกมมา บาร์เซโลน่า ได้โอกาสจากจังหวะที่ แฟร์นานโด จ่ายคืนหลังไม่ดีโดน หลุยส์ ซัวเรซ กระชากเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนดึงจังหวะเปิดติดบอลเด้งมาเข้าทางหอกอุรุกวัยกระชากเข้าซ้ายก่อนสับไกบอลไม่เข้ากรอบ

　　นาทีที่ 16 เป็นทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำ ลิโอเนล เมสซี่ เปิดบอลจากทางขวามาที่เสาแรก หลุยส์ ซัวเรซ โฉบมาไม่ถึงบอลแต่ แว็งซ็องต์ กอมปานี โหม่งสกัดบอลไม่ดีตกอยู่หน้า ซัวเรซ กดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบเสาสองเป็น 1-0

　　นาทีที่ 30 เจ้าบุญทุ่มเกมนี้กว่าชัดเจนและมาได้ประตูหนีเป็น 2-0 ลิโอเนล เมสซี่ พาบอลแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่นก่อนไหลออกทางซ้าย จอร์ดี้ อัลบา เติมมาก่อนรอจังหวะเปิดมาที่หน้าประตู หลุยส์ ซัวเรซ สอดมาแหย่ขาส่งบอลสู่นกน้ตาข่ายอีกเม็ด เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้แล้ว

　　นาทีที่ 43 บาร์เซโลน่า ยังได้ลุ้นข้างเดียวและเกือบได้ประตูจังหวะเปิดบอลของเจ้าถิ่นบอลไปโดน เจมส์ มิลเนอร์ กลายเป็นตั้งให้ ดาเนียล อัลเวส กระชากเข้าเขตโทษด้านขวาจังหวะจัเปิดเข้ากลางมี กาแอล กลิชี่ สปีดมากระแทกกลายเป็นบอลข้ามมือ โจ ฮาร์ท ลอยไปชนคานออกหลังไปหวุดหวิด จบครึ่งแรกทีมเยือนนำ 2-0

　　นาทีที่ 49 เข้าครึ่งหลังเจ้าบ้านน่าได้ประตูจากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมทางซ้ายมาที่เสาแรก แว็งซ็องต์ กอมปานี โหม่งเช็ดบอลมาที่หน้าประตู เอดิน เชโก้ ยืนอยู่คนเดียวได้โขกเหน่งๆแต่ดันโหม่งไปตรง แทร์ ชเตเก้น

　　นาทีที่ 54 ทีมเรือใบโหมบุกต่อและน่าได้อีกหน เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" กระชากบอลขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษก่อนปั่นด้วยขวาบอลหลุดเสาไปนิดเดียว โดยจากนั้น แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนเอา แฟร์นานดินโญ่ กับ วิลฟรีด โบนี่ ลงมาแทน ซามีร์ นาสรี่ และ เอดิน เชโก้

　　นาทีที่ 69 ซิตี้โหมบุกแหลกจนมาพังประตูสำเร็จจากการเข้าทำที่สวยงาม แฟร์นานดินโญ่ จ่ายบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษ ดาบิด ซิลบา วิ่งมาตอกส้นให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" สอดมารับก่อนกดด้วยขวาเข้าไปให้ทีมไล่เป็น 1-2

　　นาทีที่ 74 แต่เกมที่กำลังจะดีของเจ้าถิ่นก็มาสะดุดเมื่อต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนจังหวะที่ กาแอล กลิชี่ ไปเตะสูงใส่ ดาเนียล อัลเวส โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไป

　　ช่วงทดเวลาบาดเจ็บทีมเยือนมาได้โอกาสทอง เมื่อปาโบล ซาบาเลต้า เสียบสกัด ลิโอเนล เมสซี่ ล้มลงในเขตโทษ เฟลิกซ์ บริช ชี้มือไปที่จุดโทษ แต่ เมสซี่ ยิงไปติดเซฟ โจ ฮาร์ท แถมจังหวะซ้ำโหม่งคนเดียวโล่งๆ กลางประตูดันโขกออกข้าง ชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย จบเกม บาร์เซโลน่า บุกชนะ แมนฯ ซิตี้ สุดมันส์ 2-1 กุมความได้เปรียบก่อน โดยเกมที่สองจะไปเล่นกันที่คัมป์ นูในวันพุธที่ 18 มีนาคมนี้


รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม
　　แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ กอมปานี, มาร์ติน เดมิเคลิส, กาแอล กลิชี่, แฟร์นานโด, เจมส์ มิลเนอร์, ซามีร์ นาสรี่ (แฟร์นานดินโญ่ น.61), ดาบิด ซิลบา (บาการี่ ซาญ่า น.78), เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", เอดิน เชโก้ (วิลฟรีด โบนี่ น.68)
　　สำรองไม่ได้ใช้ : วิลลี่ กาบาเยโร่, เอเลียควิม ม็องกาล่า, เฆซุส นาบาส, แฟร้ง แลมพาร์ด

　　บาร์เซโลน่า : มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น, ดาเนียล อัลเวส (อาเดรียโน่ น.75), เคราร์ด ปีเก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, จอร์ดี้ อัลบา, อีวาน ราคิติช (เฌเรมี่ มาติเยอ น.72), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อีเนียสต้า, ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, เนย์มาร์ (เปโดร น.80)
　　สำรองไม่ได้ใช้ : เคลาดิโอ บราโว, ชาบี เอร์นานเดซ, ราฟาเอล อัลกันตาร่า ราฟินญ่า, เซร์จี้ โรเบร์โต้

　　ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ บริช (เยอรมัน)