ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ชิงแคปปิตอลฯ!สิงห์ฟัดไก่,จัดคอสต้าวัดเคน

ชิงแคปปิตอลฯ!สิงห์ฟัดไก่,จัดคอสต้าวัดเคน

Posted 01/03/2015 by siamsport


 "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึก โดยจะส่ง ดีเอโก้ คอสต้า ลงปิดสกอร์ เกมปะทะเดือน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่มี แฮร์รี่ เคน คือตัวทีเด็ดล่าประตู ในศึกฟุตบอล แคปปิตอล วัน คัพ (รอบชิงชนะเลิศ) คืนวันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค. ศกนี้

ปรีวิวฟุตบอล แคปปิตอล วัน คัพ

(รอบชิงชนะเลิศ)

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2558

เชลซี (พรีเมียร์ลีก)  -  สเปอร์ส (พรีเมียร์ลีก)

ถ่ายทอดสด ช่อง :
จีเอ็มเอ็ม ฟุตบอล พลัส, PPTV HD, Astro SuperSport 2 (ดาวเทียม), เวลา : 23.00 น.


สนาม : เวมบลีย์

        เชลซี ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ฟอร์มเริ่มไม่ร้อนแรงเหมือนเดิมหลังเสมอ 3 จาก 5 เกมที่ผ่านมา โดยล่าสุดโดน เบิร์นลี่ย์ บุกยันเสมอ 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว

        ส่วนในรายการนี้ "สิงห์บลูส์" ผ่านรอบตัดเชือกมาได้ด้วยการเชือด ลิเวอร์พูล 1-0 ด้วยประตูชัยจาก บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยจะเปิดศึกลอนดอนดาร์บี้กับ สเปอร์ส ในนัดชิงชนะเลิศที่ เวมบลีย์ ซึ่งคู่นี้เคยดวลกันในนัดชิงดำรายการนี้มาแล้วเมื่อปี 2008 โดย "ไก่เดือยทอง" เป็นฝ่ายกำชัยด้วยสกอร์ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

        ความพร้อมล่าสุด เชลซี แม้ได้รับข่าวดีบ้างเมื่อ เนมันย่า มาติช ได้รับการลดโทษแบนจาก 3 เหลือ 2 นัดจากการไปผลัก แอชลี่ย์ บาร์นส์ ในเกมล่าสุด ทว่าเจ้าตัวยังหมดสิทธิ์เล่นเกมนี้อยู่ดี

        ส่วนแข้งเดี้ยงยังเป็น จอห์น โอบี มิเกล (เข่า) ที่ยังอยู่ในช่วงพักรักษาตัวต่อเนื่อง

        ติโบต์ กูร์กตัวส์ ประจำการหน้าปากประตู แนวรับเลือก แกรี่ เคฮิลล์ ก่อน คูร์ท ซูม่า ในการประสานงานกับ จอห์น เทอร์รี่ แดนกลางเป็นโอกาสของ รามิเรส จับคู่กับ เชส ฟาเบรกาส แผงรุกนำโดย เอแด็น อาซาร์ โดยมี วิลเลี่ยน คืนตัวจริง ขณะที่หอกเป้าเป็นโควตาของ ดีเอโก้ คอสต้า

        สเปอร์ส ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เพิ่งโดนเขี่ยตกรอบ ยูโรปา ลีก หลังออกไปพ่าย ฟิออเรนติน่า ทีมแกร่งจาก กัลโช่ เซเรีย อา 0-2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

        สำหรับรายการนี้ "ไก่เดือยทอง" ออกแรงเหนื่อยกว่าจะฝ่าด่าน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมระดับลีก วัน มาได้ด้วยผลประตูรวม 2 นัด 3-2

        สภาพทีมล่าสุด "พอช" ไม่มีปัญหานักเตะติดโทษแบนหรือได้รับบาดเจ็บเหมือนเดิม ทำให้เลือกจัดชุดใหญ่ได้ตามปกติ โดยเตรียมเรียกตัวหลักที่ได้พักในเกมล่าสุดอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์, แดนนี่ โรส, ไรอัน เมสัน และ แฮร์รี่ เคน กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง

        อูโก้ โยริส น่าจะรับหน้าที่ผู้รักษาประตูแม้ มิเชล ฟอร์ม นายด่านมือสอง เฝ้าเสาในรายการนี้มาตลอด แยน แฟร์ต็องเก้น คุมแดนหลังกับ เฟเดริโก้ ฟาซิโอ แดนกลางให้ นาบิล เบนตาเล็บ เชื่อมเกมกับ ไรอัน เมสัน โดยแนวรุกฝากความหวังไว้กับ คริสเตียน เอริคเซ่น ปั้นเกมป้อน แฮร์รี่ เคน


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม                        

        เชลซี (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า - เชส ฟาเบรกาส, รามิเรส - วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - ดีเอโก้ คอสต้า

        สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - ไคล์ วอล์คเกอร์, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, ยาน แฟร์ต็องเกน, แดนนี่ โรส - นาบิล เบนตาเล็บ, ไรอัน เมสัน - เอริค ลาเมล่า, คริสเตียน เอริคเซ่น, นาเซอร์ ชาดลี่ - แฮร์รี่ เคน

        ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์
    


ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- นี่คือเกมชิงดำถ้วยนี้ครั้งที่ 2 ระหว่าง เชลซี กับ สเปอร์ส หลังทีมไก่เดือยทองเคยชนะช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 เมื่อปี 2008
- ทั้ง 2 ทีมต่างลุ้นซิวโทรฟี่รายการนี้เป็นสมัยที่ 5 โดยมีเพียง 2 ทีมที่ทำได้มากกว่าหรือเทียบเท่าคือ ลิเวอร์พูล (8) และ แอสตัน วิลล่า (5)
- แชมป์ปี 2008 คิอความสำเร็จครั้งล่าสุดของสเปอร์สในรายการนี้ ก่อนแพ้ดวลจุดโทษแมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่นถัดมา ทำให้ทีมไก่เดือยทองชนะสลับแพ้ตลอด 5 ครั้งหลังที่เข้าชิงชนะเลิศ
- เชลซี ได้แชมป์รายการนี้ 2 หนหลังภายใต้บังเหียน โชเซ่ มูรินโญ่ ในปี 2005 และ 2007 นับรวมโทรฟี่เอฟเอ คัพ 2007 เท่ากับว่า มูรินโญ่ พาสิงห์บลูส์ซิวถ้วยในประเทศได้ทั้ง 3 ครั้งที่เข้าชิง
- ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่ และ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ล้วนลงเล่นในทีมเชลซีชุดแชมป์ปี 2005 และ 2007 โดย ดร็อกบา ยิงได้ทั้ง 2 นัดชิงฯ (1 ลูกปี 2005 และ 2 ลูกปี 2007) นอกจากนั้น หอกไอวอรี่โคสต์ยังพังสกอร์ได้ในปีที่แพ้สเปอร์สอีกต่างหาก
- ยูเนส กาบูล คือนักเตะสเปอร์สคนเดียวที่หลงเหลือจากชุดแชมป์ 2008 หลังจากลงเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ (อารอน เลนน่อน ลงตัวจริง แต่ตอนนี้ยืมตัวไปเอฟเวอร์ตัน)
- มีเพียงหนเดียวจากนัดชิงชนะเลิศรอบ 11 ปีหลังที่ยิงประตูรวมกันน้อยกว่า 3 ลูก (แมนฯ ยูไนเต็ด - สเปอร์ส ในปี 2009)
- นี่เป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ลีก คัพ ที่ทีมลอนดอนชิงชัยกันเอง โดย 2 หนก่อนนั้นเกิดขึ้นในปี 2007 (เชลซี - อาร์เซน่อล) และ 2008 (เชลซี - สเปอร์ส)
- ทีมสิงห์บลูส์ ทำสกอร์นำได้ทุกนัดจนเข้าชิงฯ ฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม มีแค่เกมตัดเชือกนัด 2 กับลิเวอร์พูล ที่ไม่เสียประตู
- มีเพียง 2 จากทั้งหมด 12 ประตูที่สเปอร์สทำได้ในลีก คัพ ซีซั่นนี้ เกิดขึ้นในครึ่งแรก
- เชลซี แพ้ถึง 2 จาก 3 หนก่อนที่เจอสเปอร์สในเวมบลีย์ โดยพ่ายในสกอร์ 1-2 ทั้ง 2 นัด (ชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ 1967 และชิงชนะเลิศ ลีก คัพ 2008) ก่อนถล่ม 5-1 ในรอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ 2012
- แฮร์รี่ เคน ดาวยิงสเปอร์ส มีส่วนร่วมทำสกอร์ให้ทีมในรายการนี้มากกว่าผู้เล่นทุกคน (ยิง 3 จ่าย 1)
- ชัยชนะ 5-3 เมื่อเดือนมกราคม ทำให้สเปอร์สยุติสถิติไม่ชนะเชลซีมานาน 10 เกมติดต่อกัน (เสมอ 5 แพ้ 5)
- ฟิลิเป้ ลุยส์ แบ็กซ้ายเชลซี ลงสนามให้ทีมมากที่สุดในรายการนี้ (438 นาที) และยังเป็นแข้งสิงห์บลูส์คนเดียวที่ลงตัวจริงตลอด 5 นัดสู่นัดชิงชนะเลิศ
- ยาน แฟร์ตองเก้น กองหลังเบลเยียม และ มิเชล ฟอร์ม นายทวารดัตช์ ลงเล่นทุกนาทีให้สเปอร์สในลีก คัพ ฤดูกาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »