ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2558

ลิเวอร์พูล 2-1 แมนฯ ซิตี้
 

สนาม : แอนฟิลด์

         "ซูเปอร์ ซันเดย์" ลิเวอร์พูล ที่ผิดดหวังจากตกรอบ ยูโรปา ลีก ดร็อปสองกองหน้าอย่าง สเตอร์ริดจ์ และ บาโลเตลลี่ ไว้ที่ม้านั่งสำรองสลับให้ อดัม ลัลลาน่า เล่นแทน

         ฟาก แมนฯ ซิตี้ พ่ายคารังในเกมยุโรปมาเช่นกันได้ตัว ยาย่า ตูเร่ ที่ติดแบนมิดวีกกลับลงบัญชากลางสนาม เซร์คิโอ อเกวโร่ จับคู่ เอดิน เชโก้ ในแดนหน้า

         เรียกความคึกคึกจาก เดอะ ค็อป เมื่อ "หงส์แดง" ได้ลุ้นประตูก่อนนาทีที่ 8 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แทงบอลจากกลางสนามเข้าช่องเซนเตอร์ฮาล์ฟ "ซิตี้"ถึง อดัม ลัลลาน่า ได้เข่นแต่ก็เบาไป

ลูกทีมของ ร็อดเจอร์ส ขึ้นนำจนได้นาทีที่ 11 แว็งซ็องต์ ก็องปานี โดน คูตินโญ่ตัดบอลจากกลางสนามจ่ายต่อ ราฮีม สเตอร์ลิง แล้วป้ายลูกถึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ปั่นด้วยขวาจากระยะ 20 หลาโค้งเสียบสามเหลี่ยม "หงส์แดง"ตีปีกนำ  1-0

         ทีมสีฟ้าเกือบตีเสมอจากนั้นแค่ 2 นาทีจังหวะสวนกลับเร็ว ดาบิด ซิลบา หยอดจากกลางสนามให้ "กุน"เอาชนะกับดักล้ำหน้าสปีดตามบอล มิโญเล่ต์ จะออกมาปิดมุมแต่กั๊กๆเลยถูกหอกอาร์เจนไตน์แปสวนเล็งไปที่เสาไกลชนเสาเหลี่ยมนอกอย่างน่าเสียดาย

         อย่างไรก็ดีรองจ่าฝูงตีเสมอสำเร็จนาทีที่ 25 การเซตบอลแบบรู้ใจ ซิลบา แปะต่อให้ อเกวโร่ หน้าเขตโทษเลี้ยงเลาะรอจังหวะก่อนแทงทะลุดงผู้เล่นเจ้าถิ่น 5-6 คนให้ เอดิน เชโก้ ฉีกรับลูกในกรอบแล้วซัดลอดตัวไม่เหลือซากสกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

         นาทีที่ 35 "เมอร์ซีย์ไซด์ เร้ดส์" ได้ลุ้นประตูขึ้นนำอีกครั้ง บอลขึ้นทางขวาบ้าง มาร์โควิช ยกบอลข้ามหัวกองหลังถึง ลัลลาน่า หลุดเข้ายิงในกรอบ 18 หลาด้วยขวาข้างไม่ถนัดผ่านหน้าปากประตูเฉี่ยวเสาซ้ายออกไป

         แอ็กชั่นสุดท้ายในครึ่งเวลาแรกเป็น ลิเวอร์พูล ได้จบสกอร์จากการยิงไกลของ คูตินโญ่ ลูกพุ่งแรงแต่ยังไปตรงตัว โจ ฮาร์ท พร้อมหมด 45 นาทีที่สกอร์ 1-1

         ลูกทีมของ เปเยกรินี่ กลับลงมาได้คึกคักแค่นาทีแรกของครึ่งหลังก็ลุ้นก่อน ซาบาเลต้า สอดเติมเกมรุกที่สุดเส้นแล้วตักไปหน้าปากประตู "กุน"ได้โขกคนเดียวระยะ 6 หลาข้ามคานแบบได้ลุ้น

         แม้ครองบอลน้อยกว่าแต่แข้ง "หงส์แดง"สร้างโอกาสจบสกอร์ได้ต่อเนื่องนาทีที่ 52 คูตินโญ่ เลี้ยงบอลป่วนหน้าเขตโทษแล้วแทงบอลขึ้นหน้าให้ ลัลลาน่า ทางฝั่งขวามิดฟิลด์ชาวอังกฤษครอสไปที่เสาไกลให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ซัดแต่ ยิงไม่ดีหลุดกรอบอีกหน

         จากนั้นสองนาที ลิเวอร์พูล ส่งบอลไปกองก้นตาข่ายอีกหน จาก ลัลลาน่าแต่ล้ำหน้า ไปก่อน

         จากนั้นกองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่น เมื่อทีมขึ้นนำเป็น 2-1 นาทีที่ 75 การขึ้นเกมทางซ้าย สเตอร์ลิง จ่ายขึ้นหน้าให้ คูตินโญ่ เลี้ยงตัดเข้าขวาแล้ววางเท้ายิงโค้งแบบสุดเน้นเสียบหน้าต่างเสาไกลงามหยด

         เกือบโดนฝังสำหรับ "ซิตี้"ก่อนหมดเวลาสามนาทีความผิดพลาดของ ยาย่า ตูเร่ จ่ายบอลคืนหลังไม่ดูตาม้าตาเรือถูก  แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ฉกเข้าล่อเป้าในเขตโทษฝั่งซ้ายแต่จบไม่ดีลูกผ่านหน้าประตูไปอีก

             ช่วงเวลาที่เหลือ "เร้ดส์"ประคองสถานการณ์ไว้ได้หมดจบเกม ลิเวอร์พูล เฉือนเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ สุดระทึก 2-1 เป็นชัยชนะในลีก 4 เกมติดต่อกันจ่อพื้นที่ชปล.แบบหายใจรดต้นคอ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ - เอ็มเร่ ชาน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน - ลาซาร์ มาร์โควิช(แดเนียล สเตอร์ริดจ์ น.76) , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ( โคโล ตูเร่ น.83)- อดัม ลัลลาน่า, ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

สำรองไม่ได้ใช้ : ดาเนี่ยล วาร์ด, ริคกี้ แลมเบิร์ต, ฟาบิโอ บอรินี่, มาริโอ บาโลเตลลี่, จอร์แดน วิลเลี่ยมส์

แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เอเลียควิม ม็องกาล่า, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ  - ซามีร์ นาสรี่(แฟร้งค์ แลมพาร์ด น.83), ยาย่า ตูเร่, แฟร์นันดินโญ่(วิลฟรีด โบนี่ น.78), ดาบิด ซิลบา - เอดิน เชโก้ (เจมส์ มิลเนอร์ น.58), เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน''

 สำรองไม่ได้ใช้ : วิลลี่ กาบาเยโร่, เฟร์นานโด, กาแอล กลิชี่, มาร์ติน เดมิเชลิส
 

ผู้ตัดสิน : มาร์ค เคล็ทเท่นเบิร์ก

 ติดตามรายละเอียดเกมและสถิติได้ที่นี่