ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 28

วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม 2558

ควีนส์ปาร์ค 1-2 สเปอร์ส

สนาม : ลอฟตัส โร้ด

          "ลอนดอนดาร์บี้" ที่โรมรันกันทางเวสต์ไซด์ ควีนส์ปาร์ค ปรับสองตำแหน่งจากกลางสัปดาห์ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ  เมาริซิโอ อิสล่า ได้โอกาสลงเป็น 11 ตัวแรกฝั่ง สเปอร์ส ปรับจุดเดียว เบน เดวิส ลงเป็นแบ็กซ้ายตัวจริงในลีกหนแรกนับตั้งแต่ 28 ธันวาคม

          ลูกทีมของ คริส แรมซีย์ เริ่มต้นกดดันตั้งแต่นาทีแรกและเกือบกระทุ้งได้ก่อน คาร์ล เฮนรี่ ยกบอลโด่งเข้าเขตโทษให้ บ็อบบี้ ซาโมร่า โขกย้อยๆ ข้ามมือ อูโก้ โยริส ไปตกสามเหลี่ยมหลังคานออกไป

          "ท็อตแน่ม"ตอบโต้แบบแสบๆนาทีที่ 6 แฮร์รี่ เคน ไหลบอลออกฝั่งขวาให้ ไคล์ วอลเกอร์ เติมเกมรุกทางฝั่งขวาแล้วครอสลึกไปในกรอบหกหลาถึง เคน โดดโขกจ่อๆแต่ โรเบิร์ต กรีน ยืนตำแหน่งได้ดีเซฟไว้ได้ฉิวเฉียด

          เกือบยื่นหอกให้คู่แข่งแทงตัวเองสำหรับ สเปอร์ส นาทีที่ 19 ไคล์ วอลเกอร์ โหม่งคืนหลังไม่ดูตาม้า ชาร์ลี ออสติน เก็บส้มหล่นในเขตโทษยิงแบบดีดกะให้เสียบหน้าต่างแต่ อูโก้ โยริส ยังไวพอปัดทิ้งไปได้

          รูปเกมของ "คิวพีอาร์" ไม่เป็นรองเลยนาทีที่ 29 พลาดโอกาสดีอีกครั้ง แม็ตต์ ฟิลิปส์ ขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายเลี้ยงจี้หาเขตโทษแล้วจ่ายเข้ากลางให้ ซาโมร่า ข้ามหลอกลูกเลยถึง ชาร์ลี ออสติน สอดมาเข่นเน้นด้วยซ้ายบอลพุ่งชนคานเต็มใบ

          แต่เป็นอาคันตุกะที่ได้โอกาสน้อยกว่าเป็นฝ่ายขึ้นนำ1-0 นาทีที่ 34 ฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา อันดรอส ทาวน์เซ่น เปิดโค้งไปกลางประตูนำหนักพอดิบพอดีให้ แฮร์รี่ เคน โหม่งตัดหน้า โรเบิร์ต กรีน ส่งบอลกองก้นตาข่ายเป็นสกอร์ที่ 15 ของเจ้าตัวในลีกซีซั่นนี้

          ช่วงทดเจ็บทั้งสองฝั่งลุ้นประตูทีมละหน สเปอร์ส ลองส่องก่อน ไคล์ วอลเกอร์ รับบอลจาก เคน หน้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วกดเรียดเต็มข้อลูกแฉลบขาหลัง ไรอัน เมสัน ที่วิ่งโฉบตัดพอดีเกือบเปลี่ยนทางเข้าเสาไกลดีที่ โรเบิร์ต กรีน ยังไม่หลงล้มตัวปัดไว้ทัน ฟาก "เดอะ ฮู๊บส์" ได้สับไกจากจังหวะโต้กลับ ชาร์ลี ออสติน หลุดไปเข่นมุมแคบในกรอบ 18 หลาแต่ โยริส เซฟได้เยี่ยมเป็นแอ็กชั่นสุดท้ายก่อนจบที่สกอร์นำ 1 ลูกของ "ท็อตแน่ม"

          กลับมาเล่นต่อไม่ถึงสองนาที "ยิดอาร์มี่" ที่นั่งรถไฟตามมาร่วม1,000 ชีวิตเกือบเฮ คริสเตียน เอริคเซ่น ได้ปั่นโค้งจากหน้าเขตโทษลูกโค้งชนเสาดังสนั่น ลอฟตัส โร้ด แฮร์รี่ เคน พยายามซ้ำแต่ก็อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อน

          สปิริตของ "เดอะ ฮู๊บส์"ยังยอดเยี่ยมบุกสู้ต่อเนื่องนาทีที่ 57 บอลทิ้งยาวมาในเขตโทษฝั่งซ้าย บ็อบบี้ ซาโมร่า เด็กเก่าของอาคันตุกะสปีดตามลูกมาจนได้ซัดมุดแคบสร้างภาระให้ อูโก้ โยริส ทุบทิ้งออกหลังแทบไม่ทัน

          แต่จากนั้นนาทีเดียว "ไก่เดือยทอง"ก็เกือบหนีเป็นสองประตู  ไรอัน เมสัน เลี้ยงตะลุยเข้าเขตโทษโดนแซะทิ้งแต่บอลยังมาเข้าทาง คริสเตียน เอริคเซ่น ตั้งเท้าแปเน้นๆไปทางมุมขวาที่ปากประตูโล่งแต่ ชาร์ลี ออสติน ยังตามมาช่วยเกมรับสไลด์ขวาก่อนลูกตุงตาข่ายเส้นยาแดงผ่าแปด

          อย่างไรก็ตาม สเปอร์ส ก็หนีเป็น 2-0 ในนาทีที่ 68 ไรอัน เมสัน วางบอลลึกจากกลางสนามให้ แฮร์รี่ เคน เอาชนะกับดักล้ำหน้าเลี้ยงจี้หาประตูแล้วแตะหลบ โรเบิร์ต กรีน ก่อนแปง่ายๆเข้าไปไม่เหลือเป็นลูกที่ 7 จากการลงสนาม 5 เกมลีกหลังสุดของเจ้าตัว

           สองเด็กเก่า "ท็อตแน่ม" ทำแสบเมื่อประสานงานตีไข่แตก 1-2 ให้เจ้าถิ่น ชาร์ลี ออสติน ฉีกออกไปรับลูกริมเส้นฝั่งขวา แล้วเปิดเรียดไปกลางประตู ซาโมร่า ที่หันหลังให้ประตูแปคืนกลับไปหน้าเขตโทษ ซานโดร ตัวสำรองวางเท้าแปเสียบเสาขวาอย่างแม่นยำนาทีที่ 75

          ช่วงเวลาที่เหลือแม้ "เดอะ ฮู๊บส์" ลุยหนักแต่กองหลังทีมเยือนยันไว้อยู่จบเกม ควีนส์ปาร์ค แพ้ สเปอร์ส คาบ้าน 1-2 เป็นการปราชัย 3 เกมติดในลีก มี 22 แต้มเท่าเดิม อยู่ที่ 18 ส่วน "ท็อตแน่ม" คว้าสามแต้ม เก็บเพิ่มเป็น 50 คะแนน แซง เซาธ์แฮมป์ตันหนึ่งแต้ม ขยับรั้งอันดับ 6 ตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมในพื้นที่โควตาชปล. 3 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
          ควีนส์ปาร์ค : โรเบิร์ต กรีน - เนดุม โอนูโอฮา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, สตีเว่น คอลเกอร์, ยุน ซุก-ยัง - แม็ตต์ ฟิลิปส์, ซานโดร (ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.90+3), คาร์ล เฮนรี่ (รีเซ่ เกรโก้-ค็อกซ์ น.88), เมาริซิโอ อิสล่า (จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ น.68) - บ็อบบี้ ซาโมร่า, ชาร์ลี ออสติน
          สำรองไม่ได้ใช้ : คลินท์ ฮิลล์, แบรนดอน คอมลี่ย์, อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่, นิโก้ ครานชาร์

          สเปอร์ส : อูโก้ โยริส - ไคล์ วอลเกอร์, เอริก ดายเออร์, แยน แฟร์ต็องเก้น, เบน เดวิส - นาบิล เบนทาเล็บ, ไรอัน เมสัน - อันดรอส ทาวน์ เซ่น (มูซ่า เดมเบเล่ น.64), คริสเตียน เอริคเซ่น (เบนฌาแม็ง สต็อมบูลี่ น.88), นาเซอร์ ชาดลี่ (เอริค ลาเมล่า น.78) - แฮร์รี่ เคน
          สำรองไม่ได้ใช้ : มิเชล ฟอร์ม, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, โรเบร์โต้ โซลดาโด้, แดนนี่ โรส

ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน