แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ ซัดนอกเขตโทษอย่างเฉียบขาด เป็นประตูช่วยชีวิต พา "สิงโตคำราม" อังกฤษ บุกไปเสมอ "อัซซูรี่" อิตาลี แบบสนุกตื่นเต้น 1-1 ในการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ เมื่อคืนวันอังคารที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ

วันอังคารที่ 31 มีนาคม 2558

อิตาลี 1-1 อังกฤษ

สนาม : ยูเวนตุส สเตเดี้ยม, ตูริน, อิตาลี

          อิตาลี ซึ่งบุกเสมอ บัลแกเรีย 2-2 ในศึกยูโร 2016 รอบคัดเลือกได้ จานลุยจิ บุฟฟ่อน หายป่วยกลับมาเฝ้าเสา และสลับให้กราเซียโน่ เปลเล่ กองหน้าเซาธ์แฮมป์ตัน ยืนเป็นหัวหอกตัวจริงร่วมกับ เอแดร์

          ด้าน อังกฤษ ซึ่งเฝ้าบ้านยำลิทัวเนีย 4-0 ในรายการเดียวกันปล่อย แฮร์รี่ เคน ลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรก แต่ขาดนักเตะที่เดี้ยงจนต้องถอนตัวหลายรายรวมถึงบางรายที่ได้พัก

          เริ่มเกม อิตาลี เป็นฝ่ายบุกใส่ กระทั่งนาทีที่ 10 เจ้าบ้านก็ได้เสียวเมื่อ มัตเตโอ ดาร์เมียน จ่ายบอลจากกราบซ้ายเข้ามาตรงกลางให้มาร์โก ปาโรโล่ ตะบันจาก 25 หลา โจ ฮาร์ท ต้องกระโดดปัดข้ามคาน

          นาทีที่ 21 ทีมเมืองผู้ดีหวิดนำหน้าจากการสาดบอลยาวจากฝั่งซ้ายของ ฟาเบียน เดลฟ์ ให้ รูนี่ย์ ได้เก็บตกกระทุ้งจากหน้าเขตโทษด้านขวาเต็มข้อแต่บอลชนคานอย่างน่าเสียดาย

          กระทั่งนาทีที่ 29 แฟนบอลมะกะโรนีก็ได้เริงร่าเมื่อ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เติมเกมรุกขึ้นทางซ้ายแล้วโยกหนี ฟิล โจนส์ ก่อนโยนบอลเข้าเสาแรกให้ กราเซียโน่ เปลเล่โขกสะบัดระยะ 12 หลาเสียบเสาสองเปลี่ยนสกอร์เป็น 1-0

          หลังโดนนำ อังกฤษ เริ่มเดินหน้าแลก และถึงนาทีที่ 32 เกมก็ต้องหยุดชั่วคราวเมื่อ โจนส์ ดวลลูกโด่งกับ เอแดร์ จนรายหลังล้มเจ็บ แต่ไม่นานก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้โดยผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้ดาวเตะสิงโตคำรามด้วย จบครึ่งแรก อิตาลี นำ 1-0

          กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังเกมเปิดแล้ว เพราะ อังกฤษ ลงมาแลก และก็เกือบเจอดีทันที 5 นาทีหลังเขี่ยบอลเมื่อ ดาเมียน ขึ้นมาทางซ้ายปาดให้ เอแดร์ เข้าชาร์จติดเซฟ ฮาร์ท กอนมี จากีลก้า มาเคลียร์ไม่ดีเข้าทาง เปลเล่ หวดโล่งๆ ออกข้างเหลือเชื่อ

          ยิ่งเล่นเกมยิ่งสนุก นาที 72 "สิงโตคำราม" พลาดโอกาสทองเมื่อ กิ๊บบ์ส วางบอลยาวจากแดนหลังลึกมา คิเอลลินี่ กะจังหวะบอลผิดข้ามหัว รูนี่ย์ เกี่ยวบอลลงก่อนัดเต็มเท้าขวาที่ระยะ 18 หลา แต่ บุฟฟ่อน โชว์ซูเปอร์เซฟทุบออกมา

          2 นาทีต่อมาเด็กๆ ของ รอย ฮ็อดจ์สัน เกือบตามตีเสมออีกครั้งจากจังหวะที่ เคน วิ่งฉีกออกมารับบอลที่กราบขวาก่อนกระชากมาเปิดเข้าจุดนัดพบ รูนี่ย์ โฉบเข้ามาสะกิดบอลผ่านมือ บุฟฟ่อน แล้ว แต่หลุดออกเสาสองหวุดหวิด

          ในที่สุดความพยายามของทัพเลือดผู้ดีก็สัมฤทธิ์ผลนาที 79 เมื่อ โจนส์ หนุนขึ้นมาจ่ายบอลให้ แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ เลื้อยหนีแนวรับ อัซซูรี่ ก่อนตวัดยิงด้วยขวาจากหน้าเขตโทษเลี้ยวเสียบเสาสองสุดสวยเป็น 1-1

          จากนั้นทั้งสองฝ่ายเปิดเกมแลกหมักกันสนุก มีโอกาสทำประตูทั้งคู่แต่ก็ไม่มีสกอร์เพิ่มจบเกม อังกฤษ บุกเสมอ อิตาลี สุดมันส์ 1-1

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
          อิตาลี : จานลุยจิ บุฟฟ่อน, อันเดรีย ราน็อคเคีย, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ (เอมิลิอาโน่ โมเร็ตติ น.73, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ (อินยาซิโอ อบาเต้น.60), มาร์โก ปาโรโล่, เมียร์โก วัลดิฟิโอรี่ (มาร์โก แวร์รัตติ น.68), โรแบร์โต้ โซเรียโน่, มัตเตโอ ดาร์เมียน (ลูก้า อันโตเนลลี่ น.73), เอแดร์ (ฟรังโก้  วาซเกซ น.60), กราเซียโน่ เปลเล่ (ชิโร่ อิมโมบิเล่ น.60)

          อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, เนธาเนี่ยล ไคล์ (ไคล์ วอล์คเกอร์ น.46), คริส สมอลลิ่ง (ไมเคิ่ล คาร์ริค น.43), ฟิล จากิลก้า, คีแรนส์ กิ๊บบ์ส (ไรอัน เบอร์ทรานด์ น.88),จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ไรอัน เมสัน น.75), ฟิล โจนส์, ฟาเบียน เดลฟ์ (แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ น.70), เวย์น รูนี่ย์, ธีโอ วัลค็อตต์ (รอสส์ บาร์คลีย์ น.55), แฮร์รี่ เคน

ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ บริช (เยอรมัน)