ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2558

โตริโน่ 2-1 ยูเวนตุส

สนาม : โอลิมปิโก

         เกมดาร์บี้ เดลลา โมล่า เจ้าถิ่น โตริโน่ มีข่าวดีที่ โอมาร์ เอล คัดดูรี่ พ้นโทษแบน แนวรุกส่ง ฟาบิโอ กวายาเรลล่า จับคู่ล่าตาข่ายกับ มักซี่ โลเปซ ส่วนทีมเยือน ยูเวนตุส ต้องปราศจาก เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ที่ติดพักแข้ง แต่ยังได้ อันเจโล่ อ็อกบอนน่า พ้นแบน พร้อมหมุนเวียนบางตำแหน่ง คู่หน้าเลือก อเลสซานโดร มาตรี และ อัลบาโร่ โมราต้า

         เริ่มมา "ม้าลาย" บุกใส่ทันที อันเดรีย ปีร์โล่ วางเข้าเขตโทษให้ มาตรี พักอกแล้ววอลเลย์ข้ามคานออกหลังไป

         โอกาสเป็นของผู้มาเยือนอีกครั้ง นาทีที่ 17 จากความผิดพลาดของ อเลสซานโดร กัซซี่ ทำให้ โรแบร์โต้ เปเรียร่า ฉกได้ ก่อนปาดจากขวาจะให้ มาตรี ทว่า คามิล กลิค แหย่ขาสกัดได้หวุดหวิด

         "กระทิงหิน" ตอบโต้บ้าง กวายาเรลล่า ตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลยังไม่เข้าเป้า

         นาทีที่ 35 ยูเว่ มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย และเป็น ปีร์โล่ รับหน้าที่ปั่นด้วยขวา บอลพุ่งเช็ดเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม ขึ้นนำ 1-0

         อย่างไรก็ตาม เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียว เมื่อ กวายาเรลล่า ฉกบอลได้จาก เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ก่อนปาดจากขวาเข้ากลางให้ มัตเตโอ ดาร์เมียน แตะห่างตัว แต่กลายเป็นดีตามซัดตุงตาข่าย จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเจ๊ากันไปก่อน 1-1

         ครึ่งหลังเปิดฉากมา 7 นาที ทีมเยือนมาได้ฟรีคิกอีกครั้ง หนนี้ ปีร์โล่ ปั่นไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

         เป็น "อิล โตโร่" ที่แซงนำ 2-1 ในนาทีที่ 57 จากจังหวะที่ เอล คัดดูรี่ ไหลออกซ้ายให้ ดาร์เมียน ปาดกลับเข้ากลาง และเป็น กวายาเรลล่า ชาร์จที่เสาแรกไม่เหลือ

         โดนแบบนี้ทีมเยือนอยู่เฉยไม่ได้แล้ว เปเรียร่า ครอสจากขวาให้ อาร์ตูโร่ วิดาล โหม่งหลุดเสาไปนิดเดียว

         นาทีที่ 75 สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ กระชากขึ้นทางขวา ก่อนโยนเข้ากลางให้ มาตรี เทกตัวโขกไม่เข้าเป้าเหมือนเดิม

         ช่วงเวลาที่เหลือพลพรรค "เบียงโคเนรี่" ยังรุกหนัก มาตรี กึ่งยิงกึ่งผ่านจากด้านซ้าย บอลชนเสา วิดาล ตามซ้ำก็ยังไปติดเซฟ ดานิเอเล่ ปาเดลลี่ จบเกม โตริโน่ แซงชนะ ยูเว่ ได้อย่างยอดเยี่ยม 2-1 พร้อมหยุดสถิติไม่คว้าชัยในเกมดาร์บี้ไว้ที่ 20 ปีลงจนได้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

โตริโน่ : ดานิเอเล่ ปาเดลลี่; นิโคล่า มัคซิโมวิช, คามิล กลิค, เอมิเลียโน่ โมเร็ตติ; บรูโน่ เปเรส, มาร์โก เบนัสซี่ (จูเซ็ปเป้ วิเวส น.72), อเลสซานโดร กัซซี่, โอมาร์ เอล คัดดูรี่, มัตเตโอ ดาร์เมียน (คริสเตียน โมลินาโร่ น.82); ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, มักซี่ โลเปซ (โจเซฟ มาร์ติเนซ น.61)

ยูเวนตุส : จานลุยจิ บุฟฟ่อน; สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, ซิโมเน่ ปาโดอิน (เฟร์นานโด ยอเรนเต้ น.86); อาร์ตูโร่ วิดาล, อันเดรีย ปีร์โล่, สเตฟาโน่ สตูราโร่; โรแบร์โต้ เปเรียร่า (ซิโมเน่ เปเป้ น.78); อเลสซานโดร มาตรี, อัลบาโร่ โมราต้า (คาร์ลอส เตเวซ น.65)

ลาซิโอ 1-1 คิเอโว่ เวโรน่า

 สนาม : โอลิมปิโก

         อินทรีฟ้าขาว รองจ่าฝูง ต้องขาด ดานิโล่ คาตัลดี้ โดนแบน แต่ได้ ดีเอโก้ โนวาเร็ตติ พ้นโทษพักแข้งกลับมาคุมเกมรับ
 ฝั่ง คิเอโว่ ก่อนเกมอยู่ห่างจากโซนตกชั้นถึง 13 คะแนน เกมนี้ไร้ วอลเตอร์ เบียร์ซ่า และ ริคคาร์โด้ เมจจอรินี่ ติดแบน

          ครึ่งแรก ลาซิโอ มีลุ้นในนาทีที่ 13 ดูซาน บาสต้า เปิดจากด้านขวาให้ อันโตนิโอ คันเดรว่า พลิกยิงเท้าซ้ายไม่ผ่าน บิซซาร์รี่

          นาที 37 เจ้าบ้านได้ลูกเตะมุม คันเดรว่า เปิดไปเข้าเท้า มิโรสลาฟ โคลเซ่ แปด้วยขวาโด่งข้ามคาน

          ช่วงทดเวลาครึ่งแรกออกไป 1 นาที ลาซิโอ ก็ขึ้นนำ 1-0 สเตฟาน ราดู เปิดขึ้นหน้าให้ โคลเซ่ กระชากหนี ดาอิเนลลี่ เข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วชิพข้าม บิซซาร์รี่ เข้าไป เป็นประตูเดียวในครึ่งแรก

          ครึ่งหลัง อินทรีฟ้าขาว น่าได้ประตูที่สองสุดๆ นาที 68 โอเกนยี่ โอนาซี่ พลิกบอลในเขตโทษแล้วผ่านให้ คันเดรว่า ล้มตัวยิงไม่ดีแฉลบออกหลัง

          กระทั่งนาที 75 คิเอโว่ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกเปิดฝั่งซ้ายแล้ว เมาริซิโอ โหม่งสกัดไม่ดี กลายเป็นตั้งให้ อัลแบร์โต้ ปาลอสคี่ วอลเล่ย์ไม่เหลือ

          ท้ายเกม เจ้าถิ่นรุกหนักหวังทำประตูชัย นาที 86 คันเดรว่า เปิดเตะมุมให้ เอแดร์สัน ตัวสำรองโหม่งหลุดกรอบไปอีก
 จบเกม ลาซิโอ เสมอ คิเอโว่ 1-1 แบ่งแต้มกันไป

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลาซิโอ : เฟเดริโก้ มาร์เค็ตติ, ดูซาน บาสต้า, เมาริซิโอ, ดีเอโก้ โนวาเร็ตติ, สเตฟาน ราดู, เซนาด ลูลิช (เอแดร์สัน น.82), คริสเตียน เลเดสม่า, โอเกนยี่ โอนาซี่ (บรายัน เปเรีย น.86), อันโตนิโอ คันเดรว่า, เฟลิเป้ อันแดร์สัน, มิโรสลาฟ โคลเซ่ (เกต้า บัลเด้ น.60)

คิเอโว : อัลบาโน่ บิซซาร์รี่, นิโกล่าส์ เฟรย์, ดาริโอ ดาอิเนลลี่ (เจนนาโร่ ซาร์โด้ น.64), บอสต์ยาน เซซาร์, เออร์วิน ซูคาโนวิช (รูเบน บ็อตต้า น.46) เอเซเกล สเคล็อตโต้, อิวาน ราโดวาโนวิช, มาเรียโน่ อิซโก้, เปอร์ปาริม เฮเตมาย, อัลแบร์โต้ ปาลอสคี่, แซร์โจ้ เปลลิสซิเย่ร์ (ยอนนิส เฟตฟัตซิดิส น.75)