คณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง กรอตัดสินบทลงโทษ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี กับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่เกิดเรื่องราวหลังเกมขึ้น ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ หลังจากได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากฝั่ง ''ราชันมังกร'' โดย คุณแม่บุญยิ่ง นิติกาญจนา ประธานสโมสร ยัน ลูกชายไม่ได้ตบหน้าแต่อย่างใด แต่กลับโดนสต๊าฟ ''สวาทแคท'' บีบคอ และเผยสาเหตุที่ว่า ''ที่นี่ราชบุรี'' เนื่องจากกลัวจะมีเหตุการณ์ชลมุนจนบานปลาย ขณะที่ ''เสี่ยฟลุ๊ค'' ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผจก.ทีม ขอโทษสาธารณชนที่มีภาพออกไปไม่ดี พร้อมกับให้ทีพีแอลเป็นผู้ลงโทษคนที่บีบคอตัวเอง ขณะเดียวกันก็พร้อมรับคำตัดสินจากคณะอนุกรรมการเช่นกัน

        สืบเนื่องคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง ได้คำการเรียก คุณแม่บุญยิ่ง นิติกาญจนา ประธานสโมสร พร้อมด้วย "เสี่ยฟลุ๊ค"ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผจก.ทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในวันที่ 12 พ.ค. จากกรณีควันหลังหลังเกมที่มีปัญหากับ คัมเบะ ซูกาโอะ กุนซือนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่เสมอไป 1-1 เมื่อวันที่ 29 เม.ย.

        ซึ่ง "สวาทแคท" นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทำหนังสือร้องเรียนว่าทาง คัมเบะ ซูกาโอะ กุนซือของทีมถูกธนวัชร์ นิติกาญจนา ผจก.ทีมราชบุรี มิตรผล เอฟซี ตบหน้าหลังจบการแข่งขัน ซึ่งได้มีการเรียกทั้งสองฝั่งเข้ามาชี้แจง เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา

        ทว่า "เสี่ยฟลุ๊ค" ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผจก.ทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ได้ขอเข้ามาหารือก่อนวันที่ 12 พ.ค. เนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ และล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา "เสี่ยฟลุ๊ค" ได้เดินทางเข้ามาให้คำชี้แจงเพิ่มเติมกับทีพีแอลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯโดยมี ประดิษฐ์ นิธิยานันท์ อนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง พร้อมด้วย กฤตเมต เอ่งฉ้วนธาดา  อนุกรรมการ, เอกชัย ถนัดเดินข่าว อนุกรรมการ, ดนัย มงคลศิริ อนุกรรมการ และ ไพริช ต้านไพรี ผจก.บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ร่วมรับฟังคำชี้แจง ซึ่งใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง

        อย่างไรก็ตามคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง ยังไม่สามารถสรุปเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นเพียงแค่ได้การรับข้อมูลเบื้องต้นจากฝั่ง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และต้องรอคำชี้แจงจากฝ่าย นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่จะเดินทางเข้ามาในวันที่ 12 พ.ค.นี้ โดยคาดว่าจะมีการตัดสินเรื่องนี้ในวันดังกล่าวทันที

        ปธ.ราชบุรีเผยสาเหตุที่พูด "ที่นี่ราชบุรี"
                               

        ด้าน คุณแม่บุญยิ่ง นิติกาญจนา ประธานสโมสร ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ได้ออกมาพูดถึงกรณีที่ คณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง ได้เรียกเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม จากกรณีที่มีคนบอกว่าเจ้าตัวได้พูดออกมาหลังจบเกมว่า "ที่นี่ราชบุรี"

        "ก่อนจบเกมที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เสมอกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 1-1 เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ประมาณ 15 นาที ดิฉันได้ลงไปนั่งที่ซุ้มม้านั่งสำรอง และเมื่อจบเกมเป็นเหตุการณ์ที่ชุลมุนมาก และดิฉันเชื่อว่าฟลุ๊ค (ธนวัชร์ นิติกาญจนา) ลูกชายของดิฉัน คงจะไม่มีทางตบหน้าโค้ชของนครราชสีมาฯ แน่นอน เพราะถ้าหากกระทำเช่นนั้นจริง คงจะต้องใช้มือขวาที่มีการเอี้ยวตัวที่แรงกว่ามาก"

        "แต่หลังจากนั้นภาพที่ดิฉันได้เห็นสต๊าฟโค้ชของนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ปรี่เข้ามาบีบีคอลูกชาย ทำให้ดิฉันไม่พอใจอย่างมาก จึงเดินเข้าไปพูดว่า “ที่นี่ราชบุรีนะคะ” เหตุการณ์ทุกอย่างเลยจบ ทว่าถ้าวันนั้นดิฉันไม่ได้พูดอะไรออกไป ทุกอย่างคงจะบานปลายแน่นอน"

        ประธานสโมสร "ราชันมังกร" ยังบอกอีกว่า "จากนั้นดิฉันเดินเข้าไปคุยกับ คุณประเสริฐ บุญชัยสุข ประธานสโมสร นครราชรสีมา มาสด้า เอฟซี ซึ่งเขาได้ออกมาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่า ผจก.ทีมนครราชสีมาฯ กลับมายืนชี้หน้าต่อว่าลูกชายดิฉันว่า "ทำแบบนี้ไม่ถูก" อยู่หลายรอบ ทำให้ด้วยความเป็นแม่จึงเดินไปถามเขาว่าคุณเป็นใครมายืนชี้หน้า ก่อนที่จะเงียบลงและเหตุการณ์ได้คลี่คลาย"

        "ซึ่งทุกอย่างที่ดิฉันได้เข้าชี้แจงกับ คณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง ไม่ได้ต้องการที่จะเอาคลิปอะไรมาให้ดู แต่ดิฉันต้องการชี้แจงสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ว่าบทลงโทษจะออกมาเช่นไร ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ก็พร้อมที่จะรับบทลงโทษเช่นกัน"

        "เสี่ยฟลุ๊ค" ขอโทษกับเหตุการณ์ต่อหน้าสื่อ

        ขณะที่ "เสี่ยฟลุ๊ค" ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผจก.ทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าว ที่ยิงประเด็นว่า พร้อมที่จะขอโทษนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี หรือไม่ หลังจากทีมงานโคราชต้องการให้เจ้าตัวขอโทษ และต้องการฟ้องร้องต่อสต๊าฟโค้ช "สวาทแคท" ที่เข้ามาบีบลำคอตัวเองหลังจบเกมหรือไม่

        "เสี่ยฟลุ๊ค" บอกว่า "ในฐานะ ผจก.ทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และบุคคลสาธารณะ ทุกคนคงจะได้เห็นแล้วว่า ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาหลังจากจบเกมวันดังกล่าว ผมไม่ได้ทำร้ายร่างกาย หรือตบหน้าใครอย่างที่ถูกกล่าวหา แม้ว่าจะมีหลักฐานออกมาแล้วว่าผมเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ตาม"

        "ซึ่งผมต้องขอโทษทุกคนผ่านสื่อมวลชนว่า การกระทำของผมน่าจะเหมาะกับโค้ชบางประเภท ทว่าอาจจะไม่เหมาะกับโค้ชบางคนที่ทำอะไรไม่ได้เลย ขณะที่เรื่องผมโดนบีบคอนั้น ผมจะไม่มีการฟ้องร้อง ทว่าคงจะให้คณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง เป็นผู้ตัดสิน"

        "เสี่ยฟลุ๊ค"ยังบอกอีกว่า "หากคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง ทำการตัดสินออกมาแล้ว ผมเองก็พร้อมจะน้อมรับบทลงโทษ ผมคิดว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ผมเองไม่เคยเจอมาก่อน เนื่องจากผมเข้ามาทำฟุตบอลไทยโดยที่ไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อนหน้านี้อยู่ แล้ว"