"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โอกาสในการคว้าโควตาไปเตะฟุตบอล ยูฟ่า ชปล. เหลือน้อยเต็มที หลังทำได้แค่บุกไปเสมอกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี 1-1 เก็บเพิ่มได้เพียงหนึ่งแต้ม มีแต้มตามหลัง แมนฯยูไนเต็ด 6 แต้ม ขณะเหลือการแข่งขันอีกสองนัด ในการแข่งขัน ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2558

เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

          เชลซี ที่คว้าแชมป์ลีกเรียบร้อยให้โอกาส รูเบน ลอฟตัส-ชีค ออกสตาร์ตตัวจริงในลีกนัดแรก ควร์ท ซูม่า, จอห์น โอบี มิเกล และโลอิก เรมี่ ก็ได้ลง 11 คนแรก ส่วน ลิเวอร์พูล ยังไม่เปลี่ยนแปลงทีมจากเกมชนะ ควีนส์ปาร์ค มี ริคกี้ แลมเบิร์ต ยืนหอกตัวเป้า

          เริ่มเกมแค่เพียง 5 นาที เชลซี ออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว เชส ฟาเบรกาส เปิดลูกเตะมุมด้านขวาเข้ากลาง จอห์น เทอร์รี่ เทคตัวขึ้นสูงกว่า ริคกี้ แลมเบิร์ต โหม่งบอลย้อนศรกลับไปเสียบเสาแรก

          นาทีที่ 7 ลิเวอร์พูล พยายามเปิดเกมหวังทวงประตูคืนทันที สตีเว่น เจอร์ราร์ด โยนลูกเตะมุมด้านขวา ข้ามไปเสาไกลถึง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ยิงทีแรกติด ควร์ท ซูม่า เด้งกลับเข้าทางจอมทัพแซมบ้าปั่นโค้งด้วยขวาแฉลบ ฟิลิเป้ หลุยส์ ถากเสาขวา

          นาทีที่ 18 ทีมเยือนเริ่มครองบอลได้มากขึ้น เอ็มเร่ ชาน ตัดบอลตรงกลางสนามก่อนไหลขึ้นหน้าไปที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ลากจี้หากรอบโทษก่อนซัดเรียด 25 หลาบดเกินไปหลุดเสาซ้ายมือออกหลัง

          นาทีที่ 27 สิงห์บลูส์ เกือบบวกประตูที่สอง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ทุ่มบอลฝั่งขวาให้ วิลเลี่ยน ตอกส้นต่อมาที่ เชส ฟาเบรกาส หลุดเข้ากรอบโทษขวาก่อนตะบันมุมแคบ 8 หลาติดเซฟ ซิมง มิโญเล่ต์ ปลิ้นเฉี่ยวเสาไกลออกไปนิดเดียว

          ก่อนพักครึ่งนาทีเดียว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดฟรีคิกใกล้มุมธงฝั่งซ้ายข้ามไปเสาสอง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งยืนอยู่คนเดียวโล่งๆ โขกกดลงพื้นระยะแค่ 3 หลาเสียบโคนเสาเข้าไปตีเสมอเป็น 1-1

          กลับลงเล่นครึ่งหลัง นาทีที่ 47 ลิเวอร์พูล เริ่มได้ดี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทำชิ่งกับ ริคกี้ แลมเบิร์ต หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อน เฮนเดอร์สัน ป้ายสั้นๆ ให้ อดัม ลัลลาน่า ตะบันเรียด 15 หลาหลุดเสาสอง

          นาทีที่ 49 หงส์แดง ทำเกมวูบวาบ ราฮีม สเตอร์ลิง พาบอลหนี ฟิลิเป้ หลุยส์ จากในเขตโทษด้านขวาข้ามไปฝั่งซ้ายบรรจงไหลให้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ วิ่งเข้าแปเน้นๆ ด้วยขวา 8 หลาเบียดเสาซ้ายสะกิดข้างตาข่าย

          นาทีที่ 55 แชมป์พรีเมียร์ซีซั่นนี้น่าได้ประตูเหมือนกัน เอแด็น อาซาร์ ไหลเรียดเข้าเขตโทษขวา วิลเลี่ยน ดึงหลอกให้ เกล็น จอห์นสัน ขาตายตะบันเต็มข้อติดปลายนิ้ว ซิมง มิโญเล่ต์ เฉี่ยวเสาไกลแค่ไม่กี่คืบ

          นาทีที่ 73 สิงโตน้ำเงินคราม มีลุ้นอีกครั้ง เชส ฟาเบรกาส พาบอลเลี้ยงจี้หาเขตโทษแตะเข้าซ้ายก่อนตะบันเรียดระยะ 20 หลาบอลไปเข้ามือ ซิมง มิโญเล่ต์ ช่วงที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มครบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม ทำให้โอกาสได้เล่นฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้าของ ลิเวอร์พูล เหลือน้อยเต็มที หลังมีแต้มตามหลัง แมนฯยูไนเต็ด 6 แต้ม ขณะเหลือการแข่งขันอีกสองนัด

          รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
          เชลซี : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ควร์ท ซูม่า, จอห์น เทอร์รี่, ฟิลิเป้ หลุยส์ - จอห์น โอบี มิเกล, รูเบน ลอฟตัส-ชีค - วิลเลี่ยน, เชส ฟาเบรกาส, เอแด็น อาซาร์ - โลอิก เรมี่
          สำรอง : มิตเชลล์ บีนี่ย์, เนธาน อาเค่, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, เนมานย่า มาติช, ฮวน กวาดราโด้, แกรี่ เคฮิลล์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า
          ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ - เอ็มเร่ ชาน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, เกล็น จอห์นสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - ราฮีม สเตอร์ลิง, ริคกี้ แลมเบิร์ต, อดัม ลัลลาน่า 
          สำรอง : แดนนี่ วอร์ด, โคโล่ ตูเร่, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, ลูคัส เลวา, โจ อัลเลน, จอร์แดน ไอบ์, เจอโรม ซินแคลร์
          ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์