หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือชาวดัตช์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวสุนทรพจน์ปิดฉากงานเลี้ยงใหญ่ประจำปีของทีม "ปีศาจแดง" อย่างมีสไตล์ เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง สรุปภาพรวมผลงานปีแรกในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อย่างมันส์ในอารมณ์ มองเห็นภาพ แถมตบท้ายด้วยการขอเสียงปรบมือให้นักดนตรีสาวด้วย!

 หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมชาวดัตช์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปิดฉากงานประกาศรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของทีม "ปีศาจแดง" ได้อย่างสุดมันส์ และมีสไตล์ เมื่อสรุปภาพรวมผลงานของทีมในฤดูกาลนี้แบบร่ายยาวเป็นฉากๆ อย่างละเอียดมองเห็นภาพ แถมวาดลีลาประกอบอย่างเมาส์มัน ถูกอกถูกใจคนที่มาร่วมงาน ก่อนลงท้ายด้วยการประกาศทวงความยิ่งใหญ่กลับมาในซีซั่นหน้า

 ฟาน กัล แม้ดูเงียบๆ ขรึม แต่ก็ถูกเผยว่ามีมุมบ้าๆ และชอบงานเลี้ยงฉลองมาก ซึ่งเขาพิสูจน์ให้เห็นด้วยการร่ายสุนทรพจน์ปิดฉากงานเลี้ยงใหญ่ประจำปีของทีมในแบบที่ไม่มีโค้ชคนไหนทำ เมื่อ จิม โรเซนธาล พิธีกรประจำงาน ขอให้เขาสรุปการทำงานปีแรกในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจากเขามอบรางวัล "เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ เพลย์เยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์" ให้ ดาบิด เด เคอา รับไปนอนกอด

 "การจะสรุปภาพรวมซีซั่นเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อคุณเปิดฉากฤดูกาลด้วยผลงาน 10 นัด 13 แต้ม และคุณเป็นผู้จัดการทีมของทีมที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก แล้วคุณมีเกมในบ้าน ผมก็เป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง มีประสบการณ์กับทีมอื่นๆ มาบ้าง เมื่อคุณมีผลงานอย่างที่บอก คุณคงไม่ใช่สุดที่รักของแฟนบอล แต่ผมเดินเข้ามาในสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 10 นัด 13 คะแนน ผมเดินเข้ามา และคิดกับตัวเองว่า - จะทำตัวยังไงดี ? - แล้วจากนั้นแฟนบอลก็ปรบมือ ลุกขึ้นยืน ความคิดผมคือ - เป็นไปได้ยังไงที่แฟนบอลยังหนุนหลังเราอยู่ ?"

 "แต่ต้องขอบคุณ เราเดินหน้าต่อไปได้ แน่นอน ไม่ใช่แค่ผม ทีมงานของผม และโดยเฉพาะนักเตะด้วย เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อคุณเล่นให้ทีมที่ยิ่งใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และคุณเล่น 10 นัด มี 13 คะแนน และมีผู้จัดการทีมคนใหม่ที่อยากทำอะไรแบบที่ผู้จัดการทีมคนอื่นไม่ทำ มันยากลำบากมาก และด้วยปัญหาบาดเจ็บ ปัญหาบาดเจ็บในครึ่งซีซั่นแรก เราลุยกันไปด้วยสปิริตในทีม ไม่น่าเชื่อ ต้องยกเครดิตให้ทีมนี้ สปิริตของทีม"

 "เราไต่จาก ถ้าผมจำไม่ผิด จากอันดับ 13 มาอยู่ที่ 3 ของลีก เป็นอันดับที่สูงที่สุด อันดับสามหลังจากการออกตัวที่ย่ำแย่ ตอนนั้นเราต้องมีความเชื่อ ทั้งนักเตะและสตาฟฟ์ ว่าเราจบด้วยอันดับสองได้ ผมจำตอนประชุมทีมกับนักเตะได้ กัปตันของเรา เวย์น รูนี่ย์ บอกว่าเราจะเอาที่สอง และผมบอกว่า - ได้เลย! (ชูกำปั้นไปด้วย) ไปเอาที่สองกัน!" แต่ว่า โอเค ช่วงคริสต์มาส อาร์เซน่อล เอฟเอ คัพ เราแพ้ จำเกมเอฟเอ คัพ กับ อาร์เซน่อล ได้มั้ย ? เราเล่นดีกว่า และนักเตะที่เล่นดีที่สุดตามความเห็นของผมทำพลาด และเราแพ้ หลังจากนั้น การประชุมทีมที่ผมเพิ่งพูดถึงก็เป็นอดีต"

 "แต่จากนั้น คุณต้องไม่ลืมว่าเราชนะ 6 นัดรวด และเรายกขบวนไปเชลซี จำเกมเยือนเชลซีได้มั้ย ? (มีเสียงคุยกันดัง) นี่ๆๆๆ ฟังหน่อยๆ ตอนนั้น เรามี 50 คะแนน และ เวย์น รูนี่ย์ นั่งอยู่ในห้องแต่งตัว และบอกว่า - ต้องเอาที่สองให้ได้ - เขาพูดถึงการอันดับสองในลีก เราชนะมา 6 นัดรวด และต้องเจอเชลซี ใครเล่นดีกว่าเกมนั้น ? ตอนนี้ก็พูดได้ง่ายๆ ยิ่งในห้องนี้ด้วย ผมเชื่อได้ มันเป็นความจริง แต่เราแพ้ เราแพ้ และคุณนึกภาพนะ เมื่อคุณครองเกม 80 เปอร์เซ็นต์ มีโอกาสงามๆ 10 ครั้ง พวกเขามีแค่สาม สามครั้งเอง และพวกเขาชนะ"

 "ถ้าเราชนะเกมนั้น และนับแต้มในเกมที่เราน่าจะชนะได้ เพราะหลังจากนั้นเราอีก 2 นัด แพ้ 3 นัดรวด แต่หากคุณคิดว่าเรามีอีก 13 แต้ม และ เชลซี มี 83 แต้ม เรามีสิทธิคว้าแชมป์ได้เลย สิ่งที่ผมอยากบอกพวกคุณก็คือ เราเกือบแล้ว (ตะโกน)  แต่ในฐานะผู้จัดการทีม ผมรู้ว่าคำว่า - ถ้า - ไม่มีประโยชน์ เราต้องทำให้ดีกว่านี้ และเชื่อผม นักเตะ สตาฟฟ์ และทุกคนใน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะทำอย่างดีที่สุด ทำไมนะเหรอ ? เพราะเรามีแฟนบอลที่ดีที่สุดในโลก ขอบคุณมาก เจอกันฤดูกาลหน้า" ฟาน กัล กล่าว

 หลังจากนั้น ฟาน กัล กลับขึ้นมาบนเวทีอีกรอบ เพื่อขอบคุณนักแซ็กโซโฟนสาวที่เล่นดนตรีในงานวันนี้ โดยบอกว่า "ผมอยากพูดอะไรสักหน่อย ฮัลโหล ฮัลโหล ฮัลโหล! ฟังผู้จัดการทีมหน่อย ไรอัน กิ๊กส์ บอกผม และเขาพูดถูก เขาถูกเสมอ แต่เฉพาะกรณีนี้ ผมพูดมาเสมอว่าพวกคุณเป็นแฟนบอลที่ดีที่สุดในโลก แต่คืนนี้ผมผิดหวังในพวกคุณนิดหน่อย และผมจะบอกเหตุผลให้ ผมเห็นคุณผู้หญิงเป่าแซ็กโซโฟนได้เพราะมาก ปรบมือดังๆ ให้เธอหน่อย!"