ลุ้นกันตัวโก่งมาหลายวัน และแล้วเหรียญทองเหรียญแรก ของทัพนักกีฬาไทย ก็ออกที่ดาบสากล ''นนท์'' นนทพัฒน์ ปานจันทร์ ก่อนที่ไทยจะได้อีกเหรียญทอง เทเบิลเทนนิสเพียง 30 นาที โดยผลงานของนักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทย วัย 34 ปี กรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ พบกับ เหวียน มิน คอง จากเวียดนาม ซึ่งในช่วง 5 นาทีแรกตกเป็นรอง แต่ในเบรกสองกลับทำแต้มไล่แซง และเอาชนะไปได้ในที่สุด 15-11

 ''นนทพัฒน์ ปานจันทร์'' กลายเป็นนักกีฬาดาบสากลคนเดียวของไทย ที่ทำผลงานได้สูงสุด 5 เหรียญทอง ฟอยล์ บุคคลชาย และทีม 2 เหรียญทอง รวม 7 เหรียญทองในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ นับตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา ซึ่งสถิติเหล่านี้ต้องจารึกเอาไว้ หลังจากที่เจ้าตัวประกาศ เลิกเล่นทีมชาติอย่างเป็นทางการ จบซีเกมส์ 2015 แต่ยังเหลือให้ลุ้นอีก 1 ทอง จากประเภททีม หากจะให้สวยกว่านี้ ''เจ้านนท์'' ต้องคว้าทองเป็นทองที่ 8 ให้กับตนเอง

  ตลอดระยะเวลา 16 ปี ที่รับใช้ทีมชาติ ''นนทพัฒน์'' เป็นเด็กหนุ่มที่มีบุคลิกมุ่งมั่นและเอาจริงเอาจัง กับกีฬาฟันดาบสากลที่ตนเองรักมาก ซึ่งเริ่มเล่นกีฬาฟันดาบครั้งแรก ตอนอายุได้เพียง 10 ขวบ กระทั่งติดทีมชาติครั้งแรกในวัย 18 ปี ก่อนจะเป็นกำลังหลักของทีมชาติ ร่วมรุ่นเดียวกันกับ ''วิลลี่'' วีระเดช โคธนี่ นักกีฬาทีมชาติไทย ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน รวมไปถึง ศิรวลัย สตาร์รัตน์ และ นันทา จันทสุวรรณสิน เป็นนักกีฬาร่วมทีมชาติรุ่นราวคราวเดียวกัน

  เหรียญทองเหรียญแรกของนนทพัฒน์ แต่เหลือให้ลุ้นอีกประเภททีม ทว่าเจ้าตัวยืนยันชัดเจนว่า ขอเลิกเล่นให้กับทีมชาติ พร้อมกับเบนเข็มไปเป็น ผู้ฝึกสอนกีฬาดาบสากลอย่างเต็มตัว แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีคลับ เป็นของตนเองที่ประเทศสิงคโปร์ กระทั่งได้ย้ายไปเปิดคลับที่ประเทศมาเลเซีย ท้ายที่สุดความเป็นหัวใจไทย อยากจะกลับมาเปิดคลับดาบสากล ที่ประเทศไทยในอีก 2 ปีข้างหน้า เป็นการปิดฉากที่สวยงาม ช่างเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ของนักฟันดาบทีมชาติไทยในวัย 34 ปี

''ผมมอบเหรียญทองเหรียญนี้ ให้กับคุณพ่อและคุณแม่ เพราะท่านเป็นกำลังใจสำคัญ ทุกครั้งที่มีแข่งท่านมักจะ เดินทางไปชมการแข่งขันเสมอ นี่คือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ที่ทำให้ผมเล่นกีฬาชนิดนี้ และได้ดีกับกีฬาชนิดนี้ ต่อจากนี้คงต้องให้เวลากับการสอนเด็กๆ มากขึ้น เพราะตอนนี้สภาพร่างกายไม่ไหวแล้ว ไม่อยากฝืน มาตรฐานของนักกีฬาต่างชาติสูงขึ้น จึงอยากฝากให้เด็กรุ่นใหม่ ทุ่มเทและมุ่งมั่นจริงจัง อีกทั้งสมาคมกีฬาฟันดาบสมัครแห่งประเทศไทย ได้มีการคัดเลือกและให้โอกาสผู้ฝึกสอน หรือนักกีฬาที่มีฝีมือเข้ามาช่วยทำงาน และบูรณาการระบบการทำงาน โดยอยากให้ศึกษารูปแบบของต่างชาติ เช่นสิงคโปร์ ที่เดินหน้าไปไกลมาก เพื่ออนาคตกีฬาฟันดาบของเมืองไทย กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง'' เจ้าของเหรียญทองแรกของไทยกล่าว

ยังเหลือให้ลุ้นอีก 1 เหรียญทองจากดาบฟอยล์ ประเภททีมชาย ซึ่งมีโอกาสสูงที่ ''เจ้านนท์'' จะคว้าเหรียญทองเพิ่ม เป็นเหรียญที่สองให้กับตนเอง และเป็นเหรียญที่ 8 ในนามทีมชาติไทย และในนามตลอดชีวิต ของนักกีฬาฟันดาบ นั่นหมายความว่า ''นนทพัฒน์ ปานจันทร์'' คือนักกีฬาที่ทำสถิติเจ้าของเหรียญทอง กีฬาฟันดาบสากลซีเกมส์ มากที่สุดในประเทศไทย แม้ว่าสถิติจะหยุดอยู่ที่ 7 เหรียญทองก็ตาม

ได้แต่หวังว่า ความสามารถของ นนทพัฒน์ ปานจันทร์ ในฐานะที่เคยผ่านการคัดเลือกเข้าร่วม การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008 และรับใช้ทีมชาติมายาวนาน จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ วงการฟันดาบของไทย พัฒนาก้าวขึ้นมาอีกระดับ ในเมื่อสิงคโปร์และมาเลเซีย ยังต้องการนักกีฬาฟันดาบของไทย เป็นผู้ฝึกสอนกระทั่งปั้นเด็กในสังกัด ขึ้นมาติดทำเนียบทีมชาติ แล้วทำไมสมาคมฟันดาบของไทยจะทำไม่ได้ หากมีโอกาสเชื่อว่า แฟนกีฬาชาวไทย จะจดจำ ''นนทพัฒน์ ปานจันทร์'' ในฐานโค้ชฟันดาบทีมชาติไทยอีกแน่นอน

ประวัติ
นายนนทพัฒน์ ปานจันทร์
ชื่อเล่น นนท์
เกิด 23 พฤศจิกายน 2524
อายุ 34 ปี
ภูมิลำเนา กรุงเทพมหา
การศึกษา จบปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์การเงิน ที่ม.เพนซิเวอร์เนีย สเตท สหรัฐอเมริกา
ผลงาน
- เหรียญทอง บุคคล ซีเกมส์ ปี 2001, 2003, 2005, 2011, 2015
- เหรียญทอง ทีมชาย ซีเกมส์ ปี 2007, 2011
- เหรียญเงิน บุคคล ซีเกมส์ ปี 2007
- ผ่านการคัดตัวเข้าร่วมการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008 กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน