ปรีวิวฟุตบอล โคปา อเมริกา 2015

(รอบก่อนรองชนะเลิศ)

วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน 2558

บราซิล  -  ปารากวัย    

ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1, ทรูสปอร์ต เอชดี 2, (เวลา: 04.30 น.)

สนาม : เอสตาดิโอ มูนิซิปัล เด คอนเซ็ปซิโอน, (คอนเซ็ปซิโอน, ชิลี), (สนามกลาง)

        คู่นี้เจอกัน 14 ครั้งหลังสุด บราซิล ทำได้ดีกว่าเยอะ ชนะไปถึง 9 นัด เสมอ 3 และพลาดท่าปราชัยไปเพียงสองครั้งเท่านั้นเอง ยิงได้ 23 เสียแค่ 9 ประตู

        กระนั้นการเจอกันสองหนหลังสุดในศึกโคปา อเมริกา 2011 นั้น ปารากวัย ไม่แพ้เลย โดยเสมอ 2-2 ในรอบแบ่งกลุ่ม แล้วมาเสมอ 0-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่สู้กันยาว 120 นาที ก่อน ปารากวัย ชนะการดวลจุดโทษ 2-0 เขี่ย บราซิล ตกรอบไปได้

        "เซเลเซา" ทีมชาติบราซิล อดีตแชมป์โลก 5 สมัย และ แชมป์โคปา อเมริกา 8 สมัย ลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม ประเดิมด้วยการเชือด เปรู 2-1 แต่มาแพ้ให้กับ โคลอมเบีย 0-1 ในนัดที่สอง แล้วกู้หน้าด้วยการเชือด เวเนซูเอล่า หวุดหวิด 2-1 เก็บ 6 แต้มจากสามนัด เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม ซี.

        ความพร้อมเกมนี้ ทัพแซมบ้า ไม่มี เนย์มาร์ กองหน้ากัปตันทีมที่โดนไล่ออกในเกมเสียท่าให้ โคลอมเบีย เลยต้องติดโทษแบนยาวถึง 4 นัด ปิดฉากทัวร์นาเมนต์นี้เรียบร้อย เพราะสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งบราซิล (ซีบีเอฟ) ตัดสินใจยกเลิกแผนการยื่นอุทธรณ์โทษแบนสี่เกม

        อย่างไรก็ตามขุนพลคนอื่นๆ พร้อมลงสนาม คาดว่า คาร์ลอส ดุงก้า เทรนเนอร์ทีมชาติบราซิล จะไม่เปลี่ยนแปลงทีมจากเกมเอาชนะ เวเนซูเอล่า ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม โดยให้ ชูเอา มิรันด้า ที่รับบทบาทกัปตันทีมลงยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ ติอาโก้ ซิลวา

        ฟูลแบ็คทั้งสองข้างส่ง ดาเนียล อัลเวส กับ ฟิลิเป้ ลุยส์ ลงประจำการ ส่วนแดนกลางวาง แฟร์นานดินโญ่ คุมเกมกับ เอลิอาส เปิดทางให้ วิลเลี่ยน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ โรบินโญ่ ช่วยกันทำเกมรุกสนับสนุน โรแบร์โต้ เฟียร์มีโน่ กองหน้าคนใหม่ของลิเวอร์พูล เข้าทำประตู

        สลับมาดู "ลา อัลบีร์โรฆา" ทีมชาติปารากวัย ภายใต้การคุมทัพของ ราม่อน ดิอ๊าซ เทรนเนอร์วัย 55 ปี ชาวอาร์เจนไตน์ พาทีมลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม ทำผลงานได้ดีทีเดียว ไล่ตั้งแต่เสมอ อาร์เจนติน่า 2-2 ต่อด้วยเบียดชนะ จาเมก้า 1-0 แล้วนัดสุดท้ายเสมอกับ อุรุกวัย 1-1 เข้ารอบ 8 ทีมมาด้วยการเป็นอันดับสองของกลุ่ม บี.

        สภาพทีมของปารากวัย เกมนี้ต้องขาด เนสเตอร์ ออร์ติโกซ่า มิดฟิลด์คนสำคัญที่มีปัญหาบาดเจ็บต้นขา รวมทั้ง ริชาร์ด ออร์ติซ ปีกตัวเก่งที่ติดโทษแบนจากการได้ใบเหลืองสะสมครบตามโควตา

        นอกจากนั้น มิเกล ซามูดีโอ แบ็กซ้ายก็ไม่สมบูรณ์ โดยรูปแบบการเล่นนั้นใช้สูตร 4-4-2 ให้ ฮุสโต้ วีย่าร์ นายทวารจอมเก๋าวัย 37 ปี ลงเฝ้าเสา

        แผงหลังวาง มาร์กอส คาเซเรส, เปาโล ดา ซิลวา, ปาโบล อากีล่าร์ และ อีวาน ปีริส ลงประจำการ ด้าน บรูโน่ วัลเดซ กองหลังดาวรุ่งวัย 22 ปี มีโอกาสสอดแทรกลงสนามเช่นกัน

        ขุมกำลังในแดนกลางวาง ราอูล โบบาดีย่า, วิคตอร์ คาเซเรส, ออสมาร์ โมลีนาส และ เอ็ดการ์ เบนีเตซ ลงปั้นเกมสนับสนุนคู่หน้าทั้ง ลูคัส บาร์ริออส กับ เนลสัน วัลเดซ เข้าทะลวงตาข่าย ขณะที่ โรเก้ ซานตา ครูซ ยังเป็นเพียงสำรอง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

        บราซิล : เจฟเฟอร์สัน - ดาเนียล อัลเวส, ติอาโก้ ซิลวา, ชูเอา มิรันด้า (กัปตันทีม), ฟิลิเป้ ลุยส์ - แฟร์นานดินโญ่, เอลิอาส - วิลเลี่ยน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, โรบินโญ่ - โรแบร์โต้ เฟียร์มีโน่

        ปารากวัย : ฮุสโต้ วีย่าร์ - มาร์กอส คาเซเรส, เปาโล ดา ซิลวา, ปาโบล อากีล่าร์, อีวาน ปีริส - ราอูล โบบาดีย่า, วิคตอร์ คาเซเรส (กัปตันทีม), ออสมาร์ โมลีนาส, เอ็ดการ์ เบนีเตซ - ลูคัส บาร์ริออส, เนลสัน วัลเดซ

        ผู้ตัดสิน : อันเดรส คุนญ่า (อุรุกวัย)

อันดับดาวซัลโวโคปา อเมริกา 2015
3 ประตู : อาร์ตูโร่ วิดาล (ชิลี), เปาโล เกร์เรโร่ (เปรู)
2 ประตู : เอดูอาร์โด้ วาร์กาส (ชิลี), ชาร์ลส์ อรานกิซ (ชิลี), วิเซนเต้ วูโอโซ่ (เม็กซิโก), ราอูล ฮิเมเนซ (เม็กซิโก), เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" (อาร์เจนติน่า), มิเลร์ โบลันญอส (เอกวาดอร์), เอนเนร์ วาเลนเซีย (เอกวาดอร์), ลูคัส บาร์ริออส (ปารากวัย), มาร์เซโล่ โมเรโน่ (โบลิเวีย)
1 ประตู : ลีโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า), กอนซาโล่ อิกวาอีน (อาร์เจนติน่า), เนลสัน วัลเดซ (ปารากวัย), เอ็ดการ์ เบนีเตซ (ปารากวัย), ดั๊กลาส คอสต้า (บราซิล), เนย์มาร์ (บราซิล), โรแบร์โต้ เฟียร์มีโน่ (บราซิล), ติอาโก้ ซิลวา (บราซิล), คริสเตียน กูเอว่า (เปรู), เคลาดิโอ ปิซาร์โฮ (เปรู), คริสเตียน โรดริเกซ (อุรุกวัย), โฮเซ่ คิเมเนซ (อุรุกวัย), โรนัลด์ รัลเดส (โบลิเวีย), มาร์ติน สเม็ดเบิร์ก-เดเลนเซ่ (โบลิเวีย), โฮเซ่ ซาโลมอน รอนดอน (เวเนซูเอล่า), นิโคลัส เฟดอร์ "มิกู" (เวเนซูเอล่า), เฮยซอน มูรีโญ่ (โคลอมเบีย), การี เมเดล (ชิลี), อเล็กซิส ซานเชซ (ชิลี), เมาริซิโอ อิสล่า (ชิลี)

ทำเข้าประตูตัวเอง : โรนัลด์ รัลเดส (โบลิเวีย) นัดเจอกับ ชิลี