ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » กิเลนขึ้นจ่าฝูง!เปิดบ้านทุบขุนศึก 2-0

กิเลนขึ้นจ่าฝูง!เปิดบ้านทุบขุนศึก 2-0

Posted 26/07/2015 by siamsport

มาริโอ ยูรอฟสกี้ ควง กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ ช่วยกันยิงประตูให้ ''กิเลนผยอง'' เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ "ขุนศึก" สระบุรี เอฟซี 2-0 พร้อมแซงบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นจ่าฝูงชั่วคราว ในการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก 2015 ประจำวันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2558

 

ฟุตบอลโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก 2015
วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2558
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2 - สระบุรี เอฟซี 0

 

 

ที่สนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม เป็นศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 นัดสั่งลาเลกแรก ประจำวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ระหว่าง "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง รองจ่าฝูงในปัจจุบัน มี 34 คะแนน เกมที่แล้วบุกไปเสมอ บีอีซี เทโรศาสน มา 1-1 พบกับ "ขุนศึก" สระบุรี เอฟซี รองบ๊วยของตาราง ที่เก็บไปแล้ว 10 แต้ม นัดก่อนเปิดบ้านแพ้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-2


 
         รายชื่อผู้ตัดสิน : ผู้ตัดสิน เกตุดำรง เข็มทอง, ผช.ผู้ตัดสินที่ 1 ราชันย์ ดาวังปา, ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 นิรุตม์ เรืองศรีชาติ, ผู้ตัดสินที่ 4 ชิงชัย ฝัดสุภาพ, ผู้ประเมินผู้ตัดสิน วิทยา แม้นพิบูลย์, ผู้ควบคุมการแข่งขัน เจษฎากรณ์ ณ พัทลุง, ผช.ผู้ควบคุมการแข่งขัน ดาวยศ ดารา

 
             
         เกมนี้ ดราแกน ทาลายิช แม่ทัพของ "กิเลนผยอง" ส่งแข้งตัวหลักลงอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ธีรศิลป์ แดงดา, มาริโอ ยูรอฟสกี้, ชนานันท์ ป้อมบุบผา ด้าน "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือ "ขุนศึก" ตรึงกำลังศึกมาเต็มอัตรา ทั้ง ทินกร อสุรินทร์, ยุทธพงษ์ ศรีละคร, สุริยกานต์ ฉิมจีน

 
          
         ออกสตาร์ตครึ่งแรก น.3 สุริยา สิงห์มุ้ย เติมเกมขึ้นไปทางกราบซ้าย แล้วครอสบอลเข้าไปในเขตโทษ คลีตัน ซิลวา เตรียมที่จะจักรยานอากาศ ทว่าแนวรับทีมเยือนเคลียร์ทิ้งออกมาได้ น.5 สุริยกานต์ ฉิมจีน แทงบอลทะลุช่องไปให้ ดิยุฟ บีเรเม่ หลุดกับดักล้ำหน้า แต่บอลแรงเกินไปจึงไปเข้ามือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

 
             
         น.6 คลีตัน ซิลวา ลองสับไกลระยะ 30 หลา บอลพุ่งไปที่เสาแรกแต่ยังไปเข้ามือ วิชิตชัย รักษา น.8 มาริโอ ยูรอฟสกี้ เปิดฟรีคิกจากขวาเข้าไปที่จุดโทษ ปิยพล ผานิชกุล ขึ้นโขกเน้นๆ แต่บอลยังไปตรงตัว วิชิตชัย รักษา น.14 ได มิน จู ครอสบอลจากขวาเข้าไปให้ ดิยุฟ บีเรเม่ ได้โหม่งเน้นๆ แต่บอลข้ามคาน

 
              
         น.19 เอสซีจี เมืองทอง หวิดขึ้นนำ จากการครอสบอลทางซ้ายของ ดัสกร ทองเหลา เข้าไปให้ คิม ดอง จิน โถมตัวขึ้นโหม่งในเขตโทษ บอลถากเสาสองออกไปนิดเดียว น.24 สุริยา สิงห์มุ้ย เปิดบอลจากซ้ายไปให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ โขกบอลไปเข้ามือ วิชิตชัย รักษา

 
              
         น.25 คลีตัน ซิลวา ตะบันระยะไกลส่งบอลไปแฉลบผู้เล่น สระบุรี เอฟซี ออกหลังไป น.30 ศิริวัฒน์ โชติเวชารักษ์ กึ่งยิงกึ่งผ่านจากซ้ายเข้าไปในเขตโทษ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ทุบบอลทิ้งออกมา น.34 ดัสกร ทองเหลา รับใบเหลืองแรกของเกมนี้ หลังจากไปตัดฟาวล์ ปิยะชาติ ศรีมะเรือง

  
 
         น.35 มาริโอ ยูรอฟสกี้ เปิดลูกเตะมุมขวาเข้าไปในเขตโทษ วิชิตชัย รักษา รับบอลได้อยู่หมัด น.37 สุริยา สิงห์มุ้ย ครอสบอลจากซ้ายไปให้ คิม ดอง จิน ขึ้นโหม่งส่งบอลออกหลัง น.41 ปฐมชัย เสือสกุล รับใบเหลือง จากจังหวะที่ไปสอย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์

  
 
         น.45+1 เอสซีจี เมืองทอง พลาดการสกอร์นำอีกครั้ง คราวนี้ ดัสกร ทองเหลา ได้วอลเลย์แบบไม่ต้องจับด้วยซ้าย ทว่าบอลกลับไปชนเสาอย่างจัง หลังจากนั้นไม่มีฝั่งใดผลิตประตูกันได้ ทำให้หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0


 
         กลับมาเล่นกันต่อครึ่งหลังเพียงแค่ 25 นาที ขุนพล "กิเลนผยอง" ได้เฮกันลั่น จากจังหวะที่ คลีตัน ซิลวา แทงบอลไปให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ตวัดยิงด้วยซ้ายส่งบอลย้อยแบบลูกใบไม้ร่วงเสียบคานอย่างสวยงาม ทำให้ เอสซีจี เมืองทอง ขึ้นนำ สระบุรี เอฟซี 1-0 ทว่า "ซูเปอร์มาริโอ" รับใบเหลืองด้วย หลังจากถอดเสื้อแสดงความดีใจ


 
         น.47 เจ้าบ้านพลาดการได้สกอร์ที่สองแบบต่อเนื่อง หลังจาก ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้กดเน้นๆ ที่เสาแรก บอลยังไปติดตัว วิชิตชัย รักษา น.51 คิม ดอง จิน ปะทะหนักกับ ดิยุฟ บีเรเม่ จนหัวแตก ต้องถูกส่งเข้าห้องแต่งตัว ขณะที่ ดิยุฟ บีเรเม่ ถูกหามออกจากสนามไปโรงพยาบาลโดยด่วน

   
           
         น.54 สระบุรี เอฟซี ส่ง ทนงศักดิ์ พรหมดาด ลงไปแทน ดิยุฟ บีเรเม่ ขณะที่ "กิเลนผยอง" ส่ง สราวุธ กัลยาณบัณฑิต แทน คิม ดอง จิน น.56 มาริโอ ยูรอฟสกี้ ยิงฟรีคิกไปติดกำแพงทีมเยือน น.58 ปิยะชาติ ศรีมะเรือง หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ยิงไปติดตัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

   
 
         น.61 ปฐมชัย เสือสกุล ยิงฟรีคิกหน้าเขตโทษส่งบอลไปติดกำแพง น.62 เอสซีจี เมืองทอง ถอด ชนานันท์ ป้อมบุบผา แล้วให้ กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ ลงไปแทน น.64 ปฐมชัย เสือสกุล เปิดลูกเตะมุมทางขวาไปให้กับ สุริยกานต์ ฉิมจีน โหม่งจ่อๆ ในเขตโทษ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยังเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม


               
         น.66 สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ลองยิงไกลจากขวา บอลยังไปเข้ามือ วิชิตชัย รักษา น.67 กลายเป็นแฟนบอล "กิเลนผยอง" ได้เฮอีกรอบ เมื่อ กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ ตัวสำรองที่เพิ่งถูกส่งลงมาแค่ 5 นาที หลุดเข้าไปที่เสาแรก ก่อนยกบอลข้ามตัว วิชิตชัย รักษา เข้าประตูไป ทำให้ เอสซีจี เมืองทอง ทำสกอร์หนีห่าง สระบุรี เอฟซี เป็น 2-0

 
             
         น.73 เอสซีจี เมืองทอง ส่ง เสกสิทธิ์ ศรีใส ลงไปแทน ดัสกร ทองเหลา ที่ได้รับบาดเจ็บ น.74 ศิริวัฒน์ โชติเวชารักษ์ รับใบเหลือง เมื่อไปอัด คลีตัน ซิลวา จากด้านหลัง น.75 สระบุรี เอฟซี ส่ง วศิน ทองสง ไปแทน พานุวัฒ ยิ้มสง่า น.78 "กิเลนผยอง" ต้องเล่น 10 คน หลังจาก ปิยพล ผานิชกุล ได้รับบาดเจ็บ จนต้องนำออกมารักษาพยาบาลข้างนอกสนาม และไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้อีก เนื่องจากเปลี่ยนผู้เล่นครบโควตา 3 คน ไปแล้ว


               
         น.84 ยุทธพงศ์ ศรีละคร จับบอลพลาดโดน คลีตัน ซิลวา ฉกบอลไปต่อหน้าก่อนที่จะพาบอลทะลุเข้าไปในเขตโทษ ทว่าบอลยาวไปจึงไปเข้ามือ วิชิตชัย รักษา น.85 ทีมเยือนส่ง ยุทธนา จงนอก ลงไปแทน สุริยกานต์ ฉิมจีน น.88 สามารถ ปัญญา ได้โหม่งจ่อๆ ที่เสาแรกส่งบอลไปเข้ามือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

 
 
         เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+2 มาริโอ ยูรอฟสกี้ แทงบอลไปให้ เสกสิทธิ์ ศรีใส หลุดเข้าไปในเขตโทษ ทว่าจังหวะสุดท้ายเจ้าตัวไปแต่งบอลนาน ทำให้ช่วงที่ง้างเท้ายิงโดนกองหลังทีมเยือนบล็อกได้ทัน จากนั้นไม่มีฝั่งใดผลิตสกอร์เพิ่มได้ จบเกม เอสซีจี เมืองทอง เปิดบ้านส่งท้ายเลกแรกด้วยการขยี้ สระบุรี เอฟซี ไป 2-0 เก็บ 3 คะแนน พร้อมพกับพาตัวเองขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราว โดยมีแต้มเหนือกว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1 คะแนน ทว่าแข่งมากกว่า 1 นัด และหากว่า บีอีซี เทโรศาสน สามรถบุกไปชนะ "ปราสาทสายฟ้า" ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ได้ จะทำให้พลพรรค "กิเลนผยอง" คว้าแชมป์เลกแรกของศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 ทันที


 
         โดยชัยชนะนัดนี้ของ เอสซีจี เมืองทอง ยังสร้างสถิติขึ้นมาใหม่ในเลกแรก ด้วยการจบที่การเอาชนะคู่แข่งใน เอสซีจี สเตเดี้ยม 7 เกม ซึ่งมากที่สุดในโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 ด้วยการคว้าชัยเหนือ การท่าเรือ เอฟซี 1-0, ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 1-0, ชนะ โอสถสภา เอ็ม-150 2-1, ชนะ ทีโอที เอสซี 3-0, ชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 2-0, ชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 3-0 และชนะ สระบุรี เอฟซี 2-0

วาทะโค้ชของทั้งสองทีม


 
         ดราแกน ทาลายิช (เอสซีจี เมืองทอง) : "เราทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด จากการเก็บชัยชนะนัดนี้ แม้ว่าเราจะมีปัญหาผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ 3 คน ทว่าต้องขอชมลูกทีมที่เล่นจนคว้า 3 คะแนน ซึ่งผมได้บอกกับนักเตะไปแล้วว่า เราจะต้องใส่เพิ่มขึ้นมาอีก 30-40 เปอร์เซ็นต์ เพื่อคว้าแชมป์ให้ได้"


 
         ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก (สระบุรี เอฟซี) : "ในครึ่งแรกนักเตะทำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เปิดครึ่งหลังมาไม่นานเกมรับเสียสมาธิเลยโดนลงโทษ ทั้งๆ ที่เราน่าจะได้ประตูตีเสมอหลายครั้ง ทว่ากลับทำไม่ได้เอง นอกจากนี้ ผมยังกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของ ดิยุฟ บีเรเม่ ที่ตอนนี้ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล"

 
         คะแนนความสามารถของผู้เล่นทั้ง 2 ทีม

 
 
         เอสซีจี เมืองทอง : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ 6, ปิยพล ผานิชกุล 6.5, คิม ดอง จิน 6 (สราวุธ กัลยาณบัณฑิต 5.5 แทน น.54), ดัสกร ทองเหลา 6 (เสกสิทธิ์ ศรีใส 5.5 แทน น.73), ธีรศิลป์ แดงดา 6.5, มาริโอ ยูรอฟสกี้ 6.5, ชนานันท์ ป้อมบุบผา 6 (กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ 6 แทน น.62), คลีตัน ซิลวา 6, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ 7, สุริยา สิงห์มุ้ย 6, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ 6

  
         
         สระบุรี เอฟซี : วิชิตชัย รักษา 5, ทินกร อสุรินทร์, ยุทธพงษ์ ศรีละคร 5, สุริยกานต์ ฉิมจีน 5 (ยุทธนา จงนอก  - แทน น.85), ปิยะชาติ ศรีมะเรือง, พานุวัฒ ยิ้มสง่า 5 (วศิน ทองสง 5 แทน น.75), ได มิน จู 5, สามารถ ปัญญา 5, ศิริวัฒน์ โชติเวชารักษ์ 5, ดิยุฟ บีเรเม่ 5.5 (ทนงศักดิ์ พรหมดาด 5 แทน น.54), ปฐมชัย เสือสกุล 5


 
         แมน ออฟ เดอะ แมตช์ - ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (เอสซีจี เมืองทองฯ)

 

เมืองทองฯใจชื้น 3 แข้งไร้ปัญหา

  
            
         จากอาการบาดเจ็บระกว่างเกมของ 3 แข้ง "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ไม่ว่าจะเป็น คิม ดอง จิน ที่ต้องออกจากสนาม หลังจากปะทะหนักกับ ดิยุฟ บีเรเม่ จนหัวแตก ต้องถูกส่งเข้าห้องแต่งตัว ขณะที่ ดิยุฟ บีเรเม่ ถูกหามออกจากสนามไปโรงพยาบาลโดยด่วน

   
           
         ขณะที่ ดัสกร ทองเหลา จอมทัพของทีมมีอาการกล้ามเนื้อกระตุก จนต้องส่ง เสกสิทธิ์ ศรีใส ลงไปแทนใน น.73 ก่อนที่ น.78 เอสซีจี เมืองทอง ต้องเล่น 10 คน หลังจาก ปิยพล ผานิชกุล ได้นับบาดเจ็บ จนต้องนำออกมารักษาพยาบาลข้างนอกสนาม และไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้อีก เนื่องจากเปลี่ยนผู้เล่นครบโควตา 3 คน ไปแล้ว

  
           
         ซึ่ง ดราแกน ทาลายิช กุนซือใหญ่ของทีม พูดถึงเรื่องนี้ว่า "คิม ดอง จิน ได้รับการเย็บไปแล้วที่ศีรษะประมาณ 7-8 เข็ม แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก ส่วน ดัสกร ทองเหลา มีเพียงแค่กล้ามเนื้อกระตุกเท่านั้น ด้าน ปิยพล ผานิชกุล โดนผู้เล่นสระบุรี ทับที่ข้อเท้า ทำให้ต้องเดินออกมาใน น.78 แต่ผมเชื่อว่าในเกมกลางสัปดาห์ซึ่งเป็นถ้วยเอฟเอ คัพ และในเกมแรกของเลกสองที่จะไปเยือน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทั้ง 3 คนจะลงสนามได้แน่นอน"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • กกท.ขอ ส.บอล เปิดเผยข้อบังคับฯ ผ่านเว็บไซต์
    การกีฬาแห่งประเทศไทยส่งหนังสือขอความร่วมมือสมาคมฟุตบอลเปิดเผยข้อบังคับลักษณะปกครองลงบนเว็บไซต์เพื่อให้บุคคลทั่วไปได้ศึกษา
  • ทีมใหม่รอเซ้ง!เมลวินร่ำลาสาวกอาร์มี่
    ดาวยิงดัตช์แมนยืนยันว่าเตรียมเก็บกระเป๋าย้ายออกจากรังกองทัพบก แต่ยังอุบไต๋เรื่องสโมสรใหม่
  • แผนสำรอง! ชิลส์จำใจอาจส่งประตูเป็นกองหน้า
    วิกฤติตัวผู้เล่นบาดเจ็บของ “มังกรไฟ” อาจทำให้จำใจต้องส่ง ทศพร ศรีเรือง ผู้รักษาประตูมือ 1 ไปเป็นกองหน้า
  • ช้างศึกยู -16 ลัดฟ้าสู่กัมพูชาลุยชิงแชมป์อาเซียน
    เจ้าหนูเยาวชน 16 ปีทีมชาติไทย บินลัดฟ้า สู่ประเทศ กัมพูชา เพื่อร่วมทำ ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2015 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ปกครองร่วมส่งบุตรหลานกันอย่างคึกคัก "ผู้พันหลอ" พ.อ. (พิเศษ) วรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯย้ำให้ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถและนำพาชื่อเสียงกลับสู่ประเทศไทยให้ได้ ด้านดร.จินติยา จินารัตน์ ผจก.ทีมขอเคลียร์ภาระกิจก่อนบินสมทบกับทีมวันอาทิตย์ที่ 26 ก.ค.นี้

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »