ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม 2558

สโต๊ค ซิตี้ 0-1 ลิเวอร์พูล

สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม

         สโต๊ค หวังย้ำแค้น หงส์แดง หลังจากที่เคยถล่ม 6-1 เมื่อวันปิดซีซั่นที่แล้ว เกมนี้กุนซือ มาร์ค ฮิวจ์ส จัดแข้งใหม่ทั้ง มาร์โก ฟาน กิงเคล และ อิบราฮิม อเฟลลาย รวมถึง เกล็น จอห์นสัน ลงลุย ส่วน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ ลิเวอร์พูล จับ เนธาเนี่ยล ไคลน์, โจ โกเมซ, เจมส์ มิลเนอร์ และ คริสติย็อง เบนเตเก้ เปิดซิงในพรีเมียร์ลีก

          ออกสตาร์ทเกมไม่ถึง 4 นาที อเฟลลาย ดาวเตะดัตช์ของเจ้าถิ่น โดนใบเหลืองไปเป็นคนแรกของเกม จากการยกเท้าสูงไปยัน ไคลน์ ต่อหน้าผู้ตัดสิน

          รูปเกมเป็นไปอย่างสูสี นาทีที่ 18 มาเม่ บิราม ดิยุฟ กองหน้า สโต๊ค ส่องไกลแต่เบาเข้ามือ ซิมง มินโยเล่ต์ ก่อนที่นาทีถัดมา ทีมเยือนตอบโต้ อดัม ลัลลาน่า ปั่นแฉลบออกหลังไป

          ผ่านมาถึงนาทีที่ 28 มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลัง หงส์แดง โดนใบเหลืองบ้าง จากการไปสอย ดิยุฟ ทางด้านหลัง จากนั้น นาทีที่ 36 เจ้าบ้านได้เสียวสุดๆ เมื่อ ฟาน กิงเคล หลุดเข้าไปกึ่งยิงกึ่งผ่านในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนโดน สเคอร์เทล หวดทิ้งเข้าทางปืน อเฟลลาย วอลเล่ย์สวนตูมเดียวติดบล็อก และ จอห์นสัน เด็กเก่า หงส์แดง ดึงจังหวะแล้วยิง 10 หลาข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

          อีก 5 นาทีจะหมดครึ่งแรก มิลเนอร์ เข้าหนักใส่ ชาร์ลี อดัม เลยโดนใบเหลืองไปอีกคน จากนั้น ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม 45 นาทีแรก สกอร์ยังนิ่งอยู่ 0-0

          ครึ่งหลัง มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือเจ้าบ้านเปลี่ยนตัวด้วยการส่ง ฟิลิปป์ โวล์สไชด์ แทน เอริก ปีเตอร์ส ที่เจ็บเล่นต่อไม่ไหว ก่อนที่ เดยัน ลอฟเร็น กองหลัง ลิเวอร์พูล จะโชคดีสุดๆ ที่โดนแค่ใบเหลือง หลังจากไปศอกใส่ ดิยุฟ

          ทั้งสองทีมพยายามเร่งเครื่องเปิดเกมแลกหมัด แต่ยังไม่มีจังหวะหวาดเสียวจังๆ เข้าสู่นาทีที่ 62 ร็อดเจอร์ส เปลี่ยนบ้าง โดยส่ง เอ็มเร่ ชาน แทน ลัลลาน่า ก่อนที่ หงส์แดง จะได้ลุ้นเล็ก จากลูกยิงของ ลอฟเร็น ทว่าไปตรงตัว แจ็ค บัตแลนด์

          โจ โกเมซ แบ๊กซ้ายดาวรุ่งทีมเยือนโดนใบเหลืองอีกคน และจากจังหวะฟรีคิกด้านขวา เดือดร้อน มินโยเล่ต์ ต้องออกแรงปัดทิ้งไปหวุดหวิด ถัดมา เป็นโอกาสของ ลิเวอร์พูล เมื่อ มิลเนอร์ เตะมุมทางขวาให้ สเคอร์เทล เทกตัวขวิด ทว่า บัตแลนด์ บินรับไว้ได้สวย

          นาทีที่ 77 ร็อดเจอร์ส เสริมเกมรุกด้วยการปล่อยแข้งใหม่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ แทน จอร์ดอน ไอบ์ ขณะที่ ฮิวจ์ส จัด ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ กับ สตีฟ ซิดเวลล์ แทน อเฟลลาย และ อดัม

          เข้าสู่นาทีที่ 86 คูตินโญ่ แผลงฤทธิ์เมื่อรับบอลจาก โกเมซ ก่อนพลิกหนี ซิดเวลล์ แล้วลากเข้าไปซัดด้วยขวาเต็มๆ ส่งลูกลอยผ่านมือ บัตแลนด์ เข้าไปตุงตาข่ายงามหยด เป็นประตูชัยช่วยให้ ลิเวอร์พูล บุกกำชัย 1-0 พร้อมคว้า 3 แต้มประเดิมฤดูกาลใหม่ และยังเป็นการล้างแค้น ช่างปั้นหม้อ ได้สำเร็จด้วย

          รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
          สโต๊ค : แจ็ค บัตแลนด์, เกล็น จอห์นสัน, เจฟฟ์ คาเมรอน, มาร์ก มูเนียซ่า, เอริค ปีเตอร์ส (ฟิลิปป์ โวล์สไชด์ น.46), มาร์โก ฟาน กิงเคล, เกล็น วีแลน, จอน วอลเตอร์ส, ชาร์ลี อดัม (สตีฟ ซิดเวลล์ น.78), อิบราฮิม อเฟลลาย (ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ น.77), มาเม่ บิราม ดิยุฟ
          สำรองไม่ได้ใช้ : สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, โฆเซลู, เชย์ กิฟเว่น, ปีเตอร์ เคร้าช์ 
          ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโยเล่ต์, เนธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเร็น, มาร์ติน สเคอร์เทล, โจ โกเมซ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์ดอน ไอบ์ (โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ น.77), ฟิลิปป์ คูตินโญ่, อดัม ลัลลาน่า (เอ็มเร่ ชาน น.62), คริสติย็อง เบนเตเก้
          สำรองไม่ได้ใช้ : โคโล ตูเร่, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, ดิว็อค โอริกี้, แดนนี่ อิงส์, อดัม บ๊อกดาน