พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2558

นิวคาสเซิ่ล 0-1 อาร์เซน่อล
 

สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค

         เกมรอบหัวค่ำวันเสาร์ เวลา 18.45 น. ที่สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค เจ้าถิ่น "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล เปิดบ้านรับ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล โดยเกมนี้ กุนซือ สตีฟ แม็คลาเรน ส่ง มุสซ่า ซิสโซโก้ ที่หายไปหลายเกม ลงทำเกมคู่กับ ฟลอริย็อง โตแว็ง เปิดบอลให้ อเล็กซานด้าร์ มิโตรวิช ที่ได้รับความไว้วางใจก่อน ปาปิสส์ เดมบ้า ซิสเซ่

         ส่วนทีมเยือนจากลอนดอน ส่ง ธีโอ วัลค็อตต์ ลงเป็นหน้าเป้าทะลวงแนวรับทีมแดนอีสาน ก่อน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ส่วน เมซุต โอซิล ที่มีอาการเจ็บเข่าเล็กน้อย ไม่มีชื่อในทีมของกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์

         เหมือนผู้ตัดสิน อันเดร มาร์ริเนอร์ กลัวไม่มีบทบาทในเกมหรือไงไม่ทราบ ถึงตัดสินจังหวะสุดน่ากังขาในนาที 13 เมื่อ เบเลริน หลุดเข้าเขตโทษ แล้ว ฟลอริย็อง โตแว็ง ที่ลงมาช่วยเกมรับ หวดเข้าข้อเท้าเต็มๆ เบเลรินล้มลง แต่ มาร์ริเนอร์ กลับบอกว่าเข้าที่บอล 

         เจ้าบ้านดวงแตก ในนาที 16 เจ้าบ้านก็หาเรื่องให้ตัวเองเดือดร้อนจนได้ เมื่อ อเล็กซานด้าร์ มิโตรวิช เข้าบอลใส่ โดยไม่จำเป็น ผู้ตัดสิน มาร์ริเนอร์ ควักใบแดงไล่ มิโตรวิช ออกจากสนามโดยทันที "สาลิกาดง" เหลือ 10 คนแล้ว

         โอกาสน่าขึ้นนำสุดๆ ของ "ปืนใหญ่" เกิดขึ้นในนาที 31 เมื่อ ซานเซซ ลากตัดจากครึ่งสนามแล้วยิงไกล ทิม ครูล ปัดมาเข้าทาง ธีโอ วัลค็อตต์ แต่วัลค็อตต์ดันโชว์เหนือ ชิพบอลข้ามคาน พ้นจากจังหวะนี้ไป ก็ไม่มีจังหวะหวาดเสียวของทั้งคู่อีก จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

         เปิดครึ่งหลังมาแป๊บเดียว เหมือนมาเพื่อเตะคนมากกว่าเตะบอลกันรึเปล่าทั้งสองทีม เมื่อทั้งคู่โดนใบเหลืองรวมกันถึง 3 ใบ ในเวลาแค่ 2 นาที โดยนิวคาสเซิ่ลเป็น ฟูร์น่อน อานิต้า ในนาที 48 และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ในนาที 50 ส่วนทีมเยือนจากลอนดอน เป็นของ ซานติ กาซอร์ล่า ในนาที 49

         จากเกมไม่มีอะไร สุดท้ายก็มีประตูจนได้ในนาที 52 โดยเป็นของอาร์เซน่อลที่นวดเจ้าบ้านอยู่นาน จากการที่ กาซอร์ล่า ยิงไปติดบล๊อกกองหลังเจ้าบ้าน เด้งมาเข้าทาง แรมซี่ย์ ยิงไปโดน ครูล พุ่งปัดออกมาไม่ดี เข้าทาง อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน ที่มาเล่นแทน เมซุต โอซิล ในเกมนี้ ยิงแฉลบ ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ เข้าประตูไปให้ "ปืนใหญ่" นำ 1-0 แต่เครดิตการทำประตูกลับเป็น โคลอชชินี่ ทำเข้าประตูตัวเอง

        นิวคาสเซิ่ลพยายามครองบอลก็จริง แต่โอกาสกลับเป็นของ "ปืนใหญ่" ที่บุกได้น้ำได้เนื้อกว่าในนาที 65 อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน จ่ายให้ กาซอร์ล่า ที่วันนี้ได้เป็นกัปตันทีม ยิงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่ยังตรงตัวของ ครูล ตามด้วย ครูล ที่น่าเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ทางฝั่งนิวคาสเซิ่ลจริงๆ วิ่งออกมาเคลียร์ทิ้งในจังหวะหลุดเดี่ยวของ ซานเชซ ในนาที 77 ปิดท้าย โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ตัวสำรอง หลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษในช่วงทดเจ็บ แต่ยังไม่ผ่านมือ ครูล แล้วก็เป็นโอกาสสุดท้ายในเกมนี้ จบเกม อาร์เซน่อล บุกเฉือน นิวคาสเซิ่ล 1-0

11นักเตะของทั้งสองทีม

 นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครูล - ชองเซล เอ็มเบมบ้า, ดารีล ยานมาท, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่, มัสซาดิโอ้ อาอิดาร่า - ฟูร์น่อน อานิต้า (อโยเซ่ เปเรซ น.72), แจ๊ค โคลแบล็ค - มุสซ่า ซิสโซโก้ (ปาปิสส์ เดมบ้า ซิสเซ่ น.78), จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, ฟลอริย็อง โตแว็ง (เซียม เดอ ยองก์ น.86) - อเล็กซานด้าร์ มิโตรวิช

สำรองไม่ได้ใช้ : สตีเว่น เทย์เลอร์,  คาร์ล ดาร์โลว์, กาเบรียล โอแบร์กต็อง, ชีค ติโอเต้

 อาร์เซน่อล : ปีเตอร์ เช็ก - เฮคตอร์ เบเลริน, กาเบรียล เปาลิสต้า, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, นาโช่ มอนเรอัล - ฟร็องซิส โกเกอแล็ง, อารอน แรมซีย์ - ซานติ กาซอร์ล่า, อเล็กซิส ซานเชซ,อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน (มิเกล อาร์เตต้า น.82) - ธีโอ วัลค็อตต์ (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.70)

สำรองไม่ได้ใช้ : ดาบิด ออสปิน่า, คีแรน กิ๊บบ์ส, คาลั่ม แชมเบอร์ส, มาติเยอ เดบูชี่, โจเอล แคมป์เบล
 

ผู้ตัดสิน : อันเดร มาร์ริเนอร์