การแข่งขันฟุตบอลลา ลีกา สเปน

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2558

เรอัล มาดริด 5-0 เรอัล เบติส

สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว (มาดริด)

          เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 2 นาที ราชันชุดขาว ได้ประตูขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ ฮาเมส โรดรีเกซ โยนด้วยซ้ายจากทางกราบขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษให้กับ แกเร็ธ เบล วิ่งสอดมาโหม่งจากระยะแค่ 5 หลา เสียบมุมขวาเข้าไปให้ เรอัล มาดริด นำเร็ว 1-0
 

          สามนาทีต่อมา ชุดขาว มาอีกครั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่ อันโตนิโอ อาดาน นายทวารเบติส ปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน
 

          เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 18 เจ้าบ้านบุกมาทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไหลให้กับ ดานิโล่ ซัดด้วยซ้ายจากหน้ากรอบเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว
 

          ผ่านมา 23 นาที ทีมชุดขาว บดต่อเนื่อง ลูก้า โมดริช เปิดมุมให้กับ เซร์คิโอ รามอส เทคตัวโหม่งบอลข้ามคานไป
 

          ชุดขาว บดสนุกทีเดียว ฮาเมส ไหลให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่องด้วยขวาไปติดบล็อคของ  บรูโน่ กอนซาเลซ กองหลังเบติส ออกหลังไปในนาทีที่ 35
 

          อย่างไรก็ตาม ราชันชุดขาว มาได้ประตูที่สองจนได้จากจังหวะที่ ฮาเมส โรดรีเกซ ปั่นฟรีคิกด้วยซ้ายจากบริเวณริมกรอบเขตโทษด้านขวาบอลโค้งเสียบเสาไกลเข้าไป อย่างงดงามให้เจ้าบ้านนำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 39 หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำอยู่ 2-0
 

          เข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ทำชิ่งกันสวยงาม ก่อนที่ ฮาเมส จะไหลขึ้นหน้าให้ แกเร็ธ เบล เปิดด้วยขวาจากทางกรอบเขตโทษด้านขวาให้ คาริม เบนเซม่า ทิ้งตัวโหม่งจ่อๆเข้าประตูไปให้ เรอัล มาดริด นำขาด 3-0 แล้ว
 

          จากนั้นนาทีที่ 50 เรอัล มาดริด นำหายห่วง 4-0 เมื่อ โทนี่ โครส สับไกยิงด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษบอลมาเข้าทาง ฮาเมส โรดรีเกซ จับด้วยขวาแล้วตีลังกาฟาดด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยสดงดงาม และเป็นประตูที่สองของฮาเมส ในเกมนี้ด้วย
 

          ถัดมาสามนาที เรอัล เปลี่ยนเอา คาริม เบนเซม่า ที่เพิ่งหายเจ็บออกมาพักแล้วส่ง อีสโก้ ลงมาเล่นแทน ส่วน เบติส ส่ง ดิดีเย่ร์ ดิการ์ เล่นแทน ดาเนียล เซบายอส
 

         กระเถิบมานาทีที่ 58 ชุดขาว น่าจะได้ประตูที่ห้า เมื่อ อีสโก้ เปิดทะลุแนวรับให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งสอดมายิงด้วยซ้ายติดขาของ อันโตนิโอ อาดาน นายทวารเบติส ออกหลังไป
 

         หนึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน เรอัล เบติส มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ วาราน กองหลังของทีมชุดขาวไปทำฟาวล์ ฆอร์เค่ โมลีน่า กองหน้าของเบติส ที่ลงมาเป็นสำรองล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้ทันที ก่อนที่ รูเบน กาสโตร รับหน้าที่สังหารด้วยขวา ทว่า เคย์ลอร์ นาวาส นายทวารเรอัล มาดริด พุ่งไปปัดไว้ได้ ก่อนตามรับไว้อีกครั้งหนึ่ง
 

          นาทีที่ 64 เรอัล เปลี่ยนเอา โทนี่ โครส ออกมาพักแล้วให้ คาเซมีโร่ กองกลางชาวบราซิล ลงมาเล่นแทน
 

         ล่วงเลยมานาทีที่ 75 ราชันชุดขาว เปลี่ยนผู้เล่นเป็นคนสุดท้ายให้ มาเตโอ โควาซิซ ลงมาเล่นแทน ลูก้า โมดริช
 

          เกมของชุดขาวเหนือกว่าเยอะ น่าจะได้ประตูที่ห้า เมื่อ คาเซมีโร่ โยนให้กับ เซร์คิโอ รามอส ซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษบอลไปชนเสาออกมาอย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 78
 

          ท้ายเกมนาทีที่ 80 เรอัล บดต่อเนื่อง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กระทุ้งด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลไปติดเซฟของ อันโตนิโอ อาดาน นายด่านเบติส
 

          ก่อนจบเกมแค่นาทีเดียว เรอัล มาดริด นำขาดลอย 5-0 จากจังหวะที่ มาเตโอ โควาซิซ เปิดสั้นๆให้กับ คาเซมีโร่ ไขว้หลังจ่ายเร็วจากบริเวณกลางสนามให้กับ แกเร็ธ เบล กระชากขึ้นหน้า ก่อนวางเท้ายิงด้วยซ้ายจากระยะ 25 หลาบอลติดไซด์ก้อยพุ่งเช็ดเสาเข้าไปอย่างเด็ดขาด และเป็นประตูที่สองของเบล ในเกมนี้
 

          ช่วงที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม เรอัล มาดริด เปิดรังถล่ม เบติส ไปกระจุย 5-0 เก็บสามแต้มแรกในลีกซีซั่นนี้ได้สำเร็จ

เบลยิง2จ่าย1 ชุดขาวถล่มโหดเบติส 5-0 ไร้ชื่อโด้ทำประตู

   รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

          เรอัล มาดริด: เคย์ลอร์ นาวาส - ดานิโล่, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), มาร์เซโล่ วิเอยร่า - โทนี่ โครส (คาเซมีโร่ น.64), ลูก้า โมดริช (มาเตโอ โควาซิซ น.75) - แกเร็ธ เบล, ฮาเมส โรดรีเกซ, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า (อีสโก้ น.53)
          สำรองไม่ได้ใช้: กีโก้ กาซีย่า (ผู้รักษาประตู) - เปเป้, ดาเนียล การ์บาฆัล, เฆเซ่ โรดรีเกซ
          เรอัล เบติส: อันโต นิโอ อาดาน - คริสเตียโน่ ปิคคินี่, เคร์มาน เปซเซย่า, บรูโน่ กอนซาเลซ, ฟรานซิสโก้ โมลิเนโร่ (ฆอร์เค่ โมลีน่า น.46) - อัลบาโร่ เซฆูโด้, ชาบี ตอร์เรส (กัปตันทีม), อัลเฟร็ด เอ็นดิอาย (เปตรอส น.81), ฮวน วาร์กาส - ดาเนียล เซบายอส (ดิดีเย่ร์ ดิการ์ น.53), รูเบน กาสโตร
 
          สำรองไม่ได้ใช้: ดานี่ คิเมเนซ (ผู้รักษาประตู) - ไฮโค เวสเตอร์มันน์, ฟรานซิสโก้ ปอร์ตีโย่, วินเชนโซ่ เรนเนลล่า
          ผู้ตัดสิน: อาเลฆานโดร โฆเซ่ เอร์นานเดซ