"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นายใหญ่ทีมชาติไทย เผย อัฟกานิสถาน คู่ต่อกรในการลับแข้งวันที่ 3 ก.ย.นี้ มีรูปร่างสูงใหญ่ทว่าจะใช้ความปราดเปรียวของนักเตะสยาม รวมทั้งการต่อบอลที่รวดเร็วในการเจาะเข้าทำสกอร์ เน้นต้องไม่บาดเจ็บเป็นอันขาด เพราะมีเกมใหญ่กับ อิรัก ในวันที่ 8 ก.ย. รออยู่ นอกจากนี้ยังแสดงความมั่นในในตัว "เทพมุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ที่มีวิญญาณเพชฌฆาตกับความครบเครื่อง วางเป็นตัวนำทัพแนวรุก "ช้างศึก" ไม่กังวลแม้ระยะหลังจะถูกดึงไปเล่นต่ำก็ตาม แต่เตือนถึงพร้อมเต็มที่ ก็ไม่ใช่งานง่ายจะโค่น "อิรัก" อ้อนขอแรงใจกองเชียร์ช่วยอุ้มฝ่าด่านหิน

"ช้างศึก" ผู้พี่ลุยซ้อมสองมื้อ
 

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทัพของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งก่อนที่พวกเขาจะลงฟาดแข้งในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กับ อิรัก จะมีเกมอุ่นเครื่องในการเจอ อัฟกานิสถาน วันที่ 3 ก.ย.นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
 

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ ได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อมในช่วงเช้าที่แคมป์เก็บตัวกิเลน วัลเล่ย์ โดยเน้นไปที่ของการวิ่งสปีดตามจุดต่างๆ เพื่อเรียกพละกำลัง ก่อนที่จะมีการซ้อมยิงประตูเป็นการตบท้าย ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
 

 จากนั้นเวลา 16.00 น. ขุนพล "ช้างศึก" ได้ลงทำการซ้อมอีก 1 มื้อ โดยแม่ทัพทีมชาติไทย ได้ทำการเซตแท็กติกที่จะไว้เจอกับอัฟกานิสถาน ซึ่งใช้การเจาะทะลุทะลวงทางริมเส้นทั้งสองฝั่งเป็นหลัก รวมทั้งการเจ้าทำประตูจากแถวสอง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งจึงแล้วเสร็จ

  "ซิโก้" แย้มศึกษาฟอร์ม "อัฟกาฯ" แล้ว
 

 หลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชของทีมชาติไทย ได้พูดถึงคู่แข่งในเกมอุ่นเครื่องวันที่ 3 ก.ย.นี้ อย่างอัฟกานิสถาน ซึ่งจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันที่ 1 ก.ย. ก่อนที่จะมีการซ้อมในวันที่ 2 ก.ย. ที่สนาม กกท.1 ว่า
 

 "เท่าที่ผมได้ศึกษาเกมของอัฟกานิสถาน ในเกมฟุตบอลโลกที่พวกเขาบุกไปเจอกับกัมพูชา เกมดังกล่าวเจ้าบ้านกลับเปิดเกมรุกได้มากกว่า โดยเฉพาะการเจาะทางริมเส้นด้านข้าง เพราะใช้ความได้เปรียบจากการเล่นในบ้านที่เป็นสนามหญ้าเทียมเป็นหลัก"
 

 "โดยรูปแบบของอัฟกานิสถานจะเป็นแบบ 4-2-3-1 ก่อนที่จะเอาชนะกัมพูชาได้เพียงแค่ 1-0 ซึ่งต้องยอมรับว่าผู้เล่นของพวกเขามีรูปร่างที่ค่อนข้างจะสูงใหญ่ ทว่าการอุ่นเครื่องครั้งนี้เราโฟกัสที่การทดลองตัวผู้เล่นมากกว่า เนื่องจากเกมที่เราจะเจอกับอิรักนั้นสำคัญที่สุด"

  วางทะลวงช่องเป็นจุดแข็งเข้าทำ
 

 ผู้สื่อข่าว นสพ.สยามกีฬา ได้สอบถามกุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ว่าจะใช้จุดแข็งด้านใดของขุนพลจากฝั่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในการเจาะเข้าทำประตูของอัฟกานิสถาน ในเกมอุ่นเครื่องที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 3 ก.ย.นี้ "ซิโก้" ได้บอกว่า
 

  "แม้ว่าทีมชาติไทยจะมีตัวผู้เล่นที่ค่อนข้างเล็ก ทว่าเราจะอาศัยจุดแข็งของเราที่มีความปราดเปรียวและการออกบอลอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการโจมตีที่ต้องกระชับฉับไว ซึ่งเวลาที่เราอยู่ในแดนของเราอาจจะเซตบอลช้าได้ ทว่าเมื่อผ่านแดนกลางไปแล้วต้องเข้าโจมตีแบบเร็วที่สุด"
 

 "นอกจากนี้ผมคิดว่าเกมที่จะอุ่นเครื่องกับกัมพูชาน่าจะเป็นเกมที่สนุก เนื่องจากช่วงที่เขาไปเล่นกับกัมพูชาด้วยสภาพหญ้าจริง อาจจะทำให้สปีดบอลของทีมตกลงไป แต่การมาเจอกับเราบนสนามหญ้าจริงที่อาจจะส่งผลต่อการเล่นแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผมมองว่านัดนี้เราต้องสร้างความมั่นใจ รวมทั้งห้ามบาดเจ็บเป็นอันขาด เพราะยังมีเกมใหญ่กับอิรักรออยู่"

  ไม่โฟกัสแดนกลาง "อิรัก" ที่แข็งโป๊ก
 

 ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า จากการที่อิรักส่งรายชื่อ 2 ผู้เล่นในแดนกลางมาเป็นจอมทัพ ไม่ว่าจะเป็น ฮูมัม ทาริค วันเดอร์คิดส์ วัย 19 ปี ของอัล อาห์ลี ในลีกยูเออี และ ยาสเซอร์ คาซิม จากสวินดอน ทาวน์ มาเป็นตัวชูโรงครั้งนี้ จะสร้างความลำบากในการตัดเกมให้กับทัพ "ช้างศึก" หรือไม่
 

   "ซิโก้" ตอบว่า "ผมคิดว่ารูปแบบของอิรัก พวกเขาเล่นกันเป็นระบบอยู่แล้ว โดยอาศัยการต่อบอลกันเป็นกลุ่ม ทำให้เราต้องไม่ผลีผลาม ซึ่งเกมรุกและรับของเราจะต้องดี รวมทั้งแม่นยำในการต่อบอล อีกทั้งเราคงจะไม่มอง 2 แดนกลางที่เป็นตัวเด่นของเขาแน่นอน"
 

 "เนื่องจากเราต้องการโฟกัสไปที่ระบบการาเล่นของอิรักมากกว่า รวมทั้งเราต้องหาวิธีการเจาะเข้าทำสกอร์ให้ได้ เพราะแผงแบ็กโฟร์ของพวกเขาค่อนข้างที่จะเหนียวแน่น แต่เท่าที่ได้ศึกษามาก่อนหน้านี้ในการอุ่นเครื่องกับเลบานอน ซึ่งการเสีย 2 ลูก แสดงให้เห็นถึงช่องโหว่ ฉะนั้นเราคงจะอาศัยการเล่นในบ้าน รวมถึงความรวดเร็วในการโจมตี"

ย้ำวาง "มุ้ย" เป็นหน้าตัวเป้าแน่นอน  
 

 อย่างไรก็ตามอดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกา ยังได้กล่าวถึงการวางตำแหน่งของ "เทพมุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกตัวสังหารของ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังจากเจ้าตัวทำหน้าที่ได้ดีในการเล่นหน้าตัวเป้าในเกมที่บุกไปชนะไต้หวัน 2-0 ในเกมนัดที่สองของศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่ม เอฟ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา
 

 "สำหรับการจัดทัพแนวรุกของทีมชาติไทย ผมคิดว่าต้องการที่จะวาง ธีรศิลป์ แดงดา เป็นกำลังหลักของทีมในตำแหน่งหัวหอก แม้ในระยะหลังที่เจ้าตัวได้รับกับบทบาทในสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เขามักถูกดึงลงมาเล่นบ่อยครั้งก็ตาม แต่นั่นเพราะเอสซีจี เมืองทอง มีผู้เล่นเกมรุกเยอะ"
 

 "ทว่าด้วยธรรมชาติของ ธีรศิลป์ แดงดา เขาคือกองหน้าตัวเป้าอยู่แล้ว จึงไม่ห่วงเมื่อต้องเปลี่ยนหน้าที่ในการเล่นให้ทีมชาติ ขณะเดียวกันเชื่อด้วยว่า ประสิทธิภาพของเขาจะถูกดึงออกมาใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดในการเล่นกองหน้าตัวเป้า เพราะมีทีเด็ดครบเครื่อง ทั้งการเล่นกลางอากาศ, ภาคพื้นดิน ขอเพียงมีคู่หูที่เล่นเข้ากันได้เท่านั้น ซึ่งในทีมชาติไทยตนก็มองเห็นคนที่เหมาะสมจะมาช่วยเสริมความคมของเจ้ามุ้ยแล้ว"