"เดอะบิ๊ก" สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา นายใหญ่โปลิศ ยันผู้ติดตามของตนไม่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายเปา เนื่องจากเป็นกลุ่มแฟนบอลที่ดักรออยู่ด้านหน้าสนาม แต่ตนได้เข้าไประงับเหตุการณ์ไว้ ทว่าต้องขอความเป็นธรรมหลังจากแข้งของทีมรับใบเหลืองมากกว่าทีมเยือน ทั้งๆที่ในเกมมีจังหวะที่ ธนา ชะนะบุตร โดนอัดไปที่ซี่โครงจนต้องหามส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ทว่านักเตะของ "สุภาพบุรุษวงจักร" กลับไม่ได้โดนลงโทษตามมา ต่อหน้านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เข้ามาชมเกมมากมาย เชื่อหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ระดมมามีมากจริง และไม่ได้หละหลวมแต่ประการใด

กรณีที่เกิดขึ้นหลังเกมระหว่าง เพื่อนตำรวจ กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ดเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ทาง "เดอะบิ๊ก" สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานฝ่ายบริหารสโมสร "สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน" ในออกมาชี้แจงผ่านโลกโซเชียลอย่าง facebook.com/samrit.bunditkitsada  ซึ่งเป็นเฟซบุ๊คของตัวเองในเวลาเกือบ 01.00 น.ว่า

        ผมขอชี้แจงเรื่อง "การทำร้ายผู้ตัดสินภายหลังเกมส์จบ" จากกรณีที่เกิดการออกข่าวจากฝ่ายทีมงานผู้ตัดสินในศึกฟุตบอลช้าง เอฟ เอ คัพ 2015 นัดระหว่าง เพื่อนตำรวจ พบ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่ สนามบุณยะจินดา เมื่อช่วงหัวค่ำถึงดึกที่ผ่านมานั้น ผมในนามประธานฝ่ายบริหารของสโมสรฯ ขอเรียนชี้แจงตามนี้นะครับ..

        "ตั้งแต่เริ่มเขี่ยลูกในวินาทีแรกจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 1 นาทีในช่วงของการต่อเวลาครึ่งหลัง..ผู้ตัดสินท่านนี้ ตัดสินด้วยความลำเอียงอย่างเห็นได้ชัดเจนทั้งจากการดูสดภายในสนามและ/ หรือจากการถ่ายทอดสดทางทีวี ซึ่งเรื่องราวประเภทนี้ พูดไปก็เหมือนการแก้ตัวและอาจจะถูกกล่าวหาว่า ไม่มีน้ำใจนักกีฬา หรือ แพ้แล้วพาล เพียงแต่ ถ้านี่คือ ผู้ตัดสินอันดับ 1 หรืออันดับต้นๆ ของประเทศไทยแล้วไซร้ ผมคิดว่า ฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศไทย คงยากที่จะพัฒนาต่อไปในระยะยาวได้ และอนาคตของคนทำทีมหรือทีมฟุตบอลที่อยากจะทำให้เป็นทีมอาชีพจริงๆ คงจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ และเพราะเหตุการณ์ทุกอย่างที่ผู้ตัดสินท่านนี้ มีความจงใจและตั้งใจ ให้เกมส์มันออกมา คือ ให้ทีมเพื่อนตำรวจ ต้องตกรอบนี้!! การบันดาลโทสะของแฟนบอลที่ยอมจ่ายเงินมานั่งเปียกฝน ร้องตะโกนเชียร์ และ ลุ้นไปกับเกมส์ที่พวกเค้าคาดหวังว่า จะให้เป็นเกมส์แห่งศักดิ์ศรีดั่งคำที่ว่า เพื่อนตำรวจ พบ อาร์มี่ คือศึกน้องของกองทัพไทย จึงเกิดขึ้นโดยไม่เจตนา!!! และผมเชื่อมั่นว่า นี่ไม่ใช่เหตุการณ์อัปยศที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นในวงการฟุตบอลไทยในปี 2015 นี้ ฉะนั้นแล้ว ถ้าท่านคิดได้ คิดเป็น และยังหลงเหลือความเป็นมนุษย์ที่ยังมีศีลธรรมอยู่ในร่างกายและจิตใจของท่านอยู่บ้าง ผมขอความกรุณาว่า จงหยุดคิด พูด ทำ เรื่องประเภทนี้อีก โดยขอให้เริ่มต้นคิดดี พูดดี และทำดี ตั้งแต่การทำงานนัดหน้า (ถ้ามี) เป็นต้นไป';

        และนี่คือคำชี้แจงทั้งหมดทุกเรื่องเท่าที่ผมจะสื่อสารออกมาได้นะครับ ขอบคุณมากครับ..

        ยันคนทำร้ายเปาไม่ใช่ผู้ติดตาม

        ในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก "เดอะบิ๊ก" สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานฝ่ายบริหารของเพื่อนตำรวจ เกี่ยวกับประเด็นที่ว่ากลุ่มที่ทำร้ายร่างกาย "เปาโค้ช" ศิวกร ภูอุดม บริเวณนอกสนามบุณยะจินดา หลังจบเกมที่ทีมแพ้ให้กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ไป 1-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เป็นคนที่ติดตามเจ้าตัว

        "เดอะบิ๊ก"บอกว่า "ผมขอยืนยันได้ว่าคนที่ทำร้ายผู้ตัดสินหลังจบเกมนั้น ไม่ใช่ผู้ติดตามของผมอย่างแน่นอน เนื่องจากผมอยู่ในเหตุการณ์ระหว่างที่มีการทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นแฟนบอลของทีม ทำให้ผมต้องรีบเข้าไประงับเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยทันที ก่อนที่จะให้การ์ดส่งผู้ตัดสินขึ้นรถ"

        "ที่สำคัญในเกมกับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ผมรู้ดีว่ามันเป็นเกมศักดิ์ศรีของกองทัพไทย ทำให้ผมได้ให้การ์ดเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยในสนาม 100 คน ทว่าในเกมนั้นผมคิดว่ามันไม่แฟร์สำรับทีมผม ที่โดนผู้เล่นฝั่งตรงข้ามเสียบจากด้านหลังนักเตะของเรา แต่กลับไม่โดนใบเหลือง"

        "ซ้ำร้ายเมื่อมาเช็กข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อนตำรวจ รับใบเหลืองถึง 7 ใบ ผิดกับฝั่งตรงข้ามที่โดน 2 ใบ และยังมีจังหวะที่ ธนา ชะนะบุตร โดนกระแทกเข้าไปที่ซี่โครงจนต้องหามส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ซึ่งจุดนี้ผู้เล่นของ อาร์มี่ ยูไนเต็ด กลับไม่ได้รับใบเหลือง ทั้งๆที่ในเกมนี้มีผู้ใหญ่ของตำรวจ 40-50 คน ที่เข้ามาดูในสนาม พร้อมกับเห็นอย่างชัดเจนว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเกมทั้งหมด"