Rank It Up : 10 แข้งเปลี่ยนตำแหน่งแล้วรุ่ง
Posted 06/10/2015 by goal.com
โกล ไทยแลนด์ เสนอ 10 ยอดแข้งโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก ที่พลิกชะตาชีวิตด้วยการเปลี่ยนตำแหน่ง...จนชีวิตเปลี่ยน
สินทวีชัย หทัยรัตนกุล - จากปีกซ้ายสู่ผู้รักษาประตู
นายด่านฉลามชลวัย 33 ปี เริ่มเล่นฟุตบอลด้วยตำแหน่ง "ปีกซ้าย" แต่ด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิต ทำให้เขาไม่ได้เอาดีตำแหน่งปีกซ้าย
โดยจุดเปลี่ยนสำคัญของ "ตี๋" เกิดจากการไม่พอใจเพื่อนร่วมทีมสมัยเด็กที่เซฟไม่ได้ดั่งใจ โดนคู่แข่งยิงเป็นเข้า เขาเลยสั่งให้เพื่อนคนดังกล่าวไปเล่นปีกซ้ายและตัวเขาอาสาเฝ้าเสาแทนที่ จนกลายเป็นตำแหน่งที่สร้างชื่อให้เขามีตัวตนและเป็นยอดผู้รักษาประตูทีมชาติ ไทยในยุคปัจจุบัน
สารัช อยู่เย็น - จากหน้าตัวต่ำสู่กลางรับ
ดาวเตะวัย 23 ปี เริ่มต้นค้าแข้งกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยตำแหน่ง "มิดฟิลด์ตัวรุก" ก่อนถูกส่งไปหาประสบการณ์กับ ภูเก็ต เอฟซี และ นครราชสีมา เอฟซี
โดยหลังจากเก็บสกิลฝีเท้าและคืนถิ่นเกิด สลาวิซา โยคาโนวิช กุนซือเมืองทองในตอนนั้นจัดการเปลี่ยนให้ "ตัง" ถอยลงมาเป็นกลางรับเพื่อเรียนรู้เรื่องการคุมจังหวะเกมให้สมดุลระหว่างหลัง ไปหน้า จนปันจุบัน สารัช อยู่เย็น กลายเป็นหัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้ของ "กิเลนผยอง" และ "ทีมชาติไทย" ด้วยตำแหน่ง "มิดฟิลด์ตัวรับ"
สรรวัชญ์ เดชมิตร - จากปีกซ้ายสู่กลางรุก
วิชะยา เดชมิตร หรือ สรรวัชญ์ เดชมิตร เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังที่ประเทศสิงคโปร์ด้วยตำแหน่งปีกซ้าย ก่อนที่ บีจี และ บีอีซี เทโรศาสน จับมาเล่นเป็น "มิดฟิลด์ตัวกลาง" ทว่ายังไม่ตอบโจทย์ผลงานออกมาเป็นรูปธรรม
สุดท้ายเป็น มาโน โพลกิ้ง กุนซือบียูวางให้ "แคมป์" มาเล่นตำแหน่งตัวทำเกม "มิดฟิลด์ตัวรุก" จนยกระดับฉายแววติดทีมชาติไทย
ชลทิตย์ จันทคาม - จากกองหน้าสู่กองหลัง
เกมรับวัย 30 ปี เกิดที่ จ.มหาสารคาม ก่อนโยกย้ายมาเรียนในแดนบูรพา เริ่มเล่นฟุตบอลในตำแหน่ง "กองหน้า" ตั้งแต่เด็กและเคยเป็นคู่หูล่าตาข่ายกับ พิภพ อ่อนโม้ สมัยพา ชลบุรี เอฟซี คว้าแชมป์ฟุตบอลโปรลีก
ทว่า "เฮงซัง" วิทยา เลาหกุล ยอดกุนซือมันสมองมองว่า "ชล" มีความสามารถเกมรับมากกว่าเกมรุก จึงปรับเปลี่ยนให้มาเอาดีตำแหน่ง "กองหลัง" ที่เล่นได้ทั้งแบ็กขวาและเซนเตอร์ฮาร์ฟจนกลายเป็น "ชลขาโหด" ในยุคปัจจุบัน
ปิยพล ผานิชกุล - จากกองกลางสู่แบ็กขวา
ฮิปเตอร์ลูกหนังวัย 27 ปี เริ่มต้นแจ้งเกิดในตำแหน่ง "มิดฟิลด์" กับทีม โค้ก บางพระ (พัทยา ยูไนเต็ด) ก่อนย้ายไป ชลบุรี เอฟซี ทว่าไม่ได้รับโอกาสลงสนามจนถูกปล่อยตัวให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2010 ด้วยความสามารถและพรสวรรค์เชิงลูกหนังทำให้ "ไดร์" ถูกโยกมาเล่น "แบ็กขวา" จนกลายเป็นตำแหน่งที่สร้างชื่อและเป็นที่ยอมรับในวงการ
เอกชัย สำเร - จากกองหน้าสู่แบ็กขวา
แข้งความเร็วสูงวัย 26 ปี เริ่มต้นชีวิตลูกหนังที่ จ.สตูล ก่อนย้ายมาโด่งดังกับ การท่าเรือ ยุค "โค้ชเตี้ย" คุมทัพโดยเขาเล่นในตำแหน่ง กองหน้าริมเส้นขวา แผน 4-3-3 ด้วยความเร็วที่เป็นจุดเด่น ทำให้ บุรีรัมย์ฯ ไม่รอช้าทุ่มซื้อตัวเข้าทัพ
โดยส่วนใหญ่จะถูกจับเล่นกองหน้าและตัวริมเส้นฝั่งขวา แต่ไม่สามารถแจ้งเกิดได้ จึงถูกปล่อยให้ บียู ซึ่งการค้าแข้งในถิ่นแข้งเทพแห่งนี้เป็นจุดเปลี่ยนทำให้ "เจ้าเอก" ถูกถอยมาเล่น "แบ็กขวา" และกลายเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขาได้มีชื่อติดทีมชาติไทย
ธนบูรณ์ เกษารัตน์ - จากกองกลางสู่กองหลัง
"ตั้ม" เริ่มต้นอาชีพลูกหนังกับทีม อาร์แบค ใน ด.2 ก่อนย้ายขึ้นมาอยู่ บีอีซี เทโร พร้อมได้เรียนรู้วิชาจากรุ่นใหญ่อย่าง อาร์ซู และ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ทำให้เขาถูกยกเป็น "มิดฟิลด์ตัวรับ" อนาคตไกลของวงการลูกหนัง
ด้วยลีลาการอ่านเกมที่ชาญฉลาด การเข้าแย่งบอลคู่แข่งแบบเนียนตา ก็ทำให้เขาถูกโยกไปเล่นตำแหน่ง "เซนเตอร์ฮาร์ฟ" ในบางครั้ง แม้จะเป็นตำแหน่งที่ไม่ถนัดนัก แต่ถือว่าปรับตัวได้ดีและทำหน้าที่นี้ได้อย่างยอดเยี่ยมจนได้รับเสียงชื่นชม ทั่วทุกสารทิศ
สุเชาว์ นุชนุ่ม - จากปีกขวาสู่มิดฟิลด์ตัวรับ
แข้งรุ่นใหม่ควรเรียนรู้จากลูกผู้ชายลูกหนังผู้นี้ "กัปตันกบ" เริ่มแจ้งเกิดเส้นทางฟุตบอลกับ ทีโอที ด้วยตำแหน่งปีกขวาจนสร้างชื่อติดทีมชาติไทยและโดนทุ่มเงินไปโชว์เพลงแข้งใน แดนอิเหนา ก่อนย้ายมาร่วมทีมบุรีรัมย์พร้อมโกยความสำเร็จมากมาย
ทว่าหลังก้าวสู่วัย 30+ สปีดที่เป็นจุดเด่นในวัยหนุ่มถูกลดลงไปตามวิถีลูกหนัง ทำให้ถูกจับโยกมาเล่น "มิดฟิลด์ตัวรับ" จนกลายเป็นตำแหน่งที่ทำให้ตัวเขาแจ้งเกิดใหม่อีกครั้งและถูกจดจำเป็นมิด ฟิลด์ผึ้งงานแห่งยุคนี้
ทริสตอง โด - จากกองหน้าสู่แบ็กขวา
ดาวเตะวัย 23 ปี เริ่มต้นเล่นตำแหน่ง กองหน้า และ ปีกขวา มาตลอดสมัยค้าแข้งที่ฝรั่งเศสทั้งกับทีมเยาวชนสตารสบูร์ก รวมถึงชุดใหญ่ของ ลอริยองต์ และ กราเซเลค
แม้ระยะแรกที่ย้ายมาอยู่กับ บีอีซี เทโรศาสน ปี 2014 เลกสอง จะยังได้เล่นตำแหน่งดังกล่าว ทว่าปี 2015 จากการที่ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ย้ายออกก็ทำให้กราฟชีวิตลูกหนังเจ้าตัวพลิกผัน เมื่อกลายมาเป็น "แบ็กขวา" แทนที่แล้วทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนก้าวสู่รั้วทีมชาติไทย
อาทิตย์ ดาวสว่าง - จากแบ็กขวาสู่เซนเตอร์ฮาร์ฟ
อาทิตย์ ดาวสว่าง เซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรกกับ ทีโอที แคท เอฟซี ในปี 2009 ด้วยวัยเพียงแค่ 16 ปีและถูกส่งลงเล่นตำแหน่งแบ็กขวาตัวจริงในวัย 16 ปี จนถูกบันทึกว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในเวทีไทย พรีเมียร์ลีก ก่อนถูกขายไปให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด
โดยทีมงานโค้ชกิเลนรู้ดีว่าตำแหน่งที่ดีทีสุดของ "แบ็ค" ไม่ใช่แบ็กขวาแต่เป็น "เซนเตอร์ฮาร์ฟ" จนสุดท้ายเป็นตำแหน่งที่ลงตัวและสร้างชื่อให้เขาเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่ สุดของไทยยุคนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์