สาโรช ล้วนเหล่าอังกูร, กิตติ ทัพมาลัย ผู้สื่อข่าว, ช่างภาพ นสพ.สยามกีฬา, ฟุตบอลสยาม รายวัน รายงานความเคลื่อนไหวทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่มีภารกิจคัดเลือกฟุตบอลโลก โซนเอเชีย กลุ่ม เอฟ นัดที่ 4 ที่ต้องมาเยือนเวียดนาม ในวันพุธที่ 13 ต.ค. 58 นี้เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเวียดนาม ที่สนามมีดิ่งห์ สเตเดี้ยม กรุงฮานอย นัดนี้ ไทยรัฐทีวี ถ่ายทอดสด
 

                             เช้าปล่อยพักยาวซ้อมเย็นที่มีดิ่งห์
 

        
         เมื่อ 12 ต.ค. 58 ที่ผ่านมาก่อนเตะ 1 วันนั้น ไทยในฐานะผู้นำของกลุ่ม เอฟ ขณะนี้ที่มี 7 แต้มจาก 3 นัดที่ผ่านมา ยังไม่แพ้ใคร ล่าสุดเปิดบ้านเสมอกับอิรัก มาได้ 2-2 นั้นช่วงเช้า "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทีมไม่ได้ใส่โปรแกรมฝึกซ้อมให้กับลูกทีมโดยปล่อยนักเตะพักผ่อน ยาวหลังรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมคราวน์ พลาซ่า เวสต์ ฮานอย ก็ให้นักเตะพักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนจะรับประทานอาหารเที่ยงจากนั้นเวลา 19.00 น. ได้เดินทางไปซ้อมยังสนามมีดิ่งห์ สเตเดี้ยม สังเวียนแข่งขันจริง โดยการซ้อมในวันนี้ "ซิโก้" ยังคงเน้นทั้งแท็กติกเกมรับ และรุกที่จะใช้เล่นกับเวียดนามเป็นพิเศษ

 
         โดยหลังเสร็จสิ้นการซ้อม "ซิโก้" ได้กล่าวกับกองทัพผู้สื่อข่าวจากไทยถึงบินตามมาทำข่าวหลายสิบชีวิตว่า "เกมนี้เป้าหมายของผมคือพาทีมชาติไทยบุกชนะเวียดนามกลับไปให้ได้ เพราะเป้าหมายเรานั้นคือผ่านเข้าไปเล่นรอบ 12 ทีมสุดท้ายเอเชียให้ได้นั่นเอง หากเราบุกชนะนัดนี้ได้แล้วเกมหน้าที่เราจะเปิดบ้านพบไต้หวันที่เราเคยบุกไป ชนะมาได้แล้ว 2-0 ถ้าเราชนะผมมองว่าโอกาสที่เราจะได้ไปเล่นรอบสุดท้ายมีสูงทีเดียว

 
         แม้ว่าเวียดนามจะเป็นทีมที่เล่นในบ้านตัวเองได้แข็งแกร่ง และมีกองเชียร์ราว 4 หมื่นคนหนุนหลังในเกมนี้ แต่ผมมั่นใจในตัวของลูกทีมทุกคนที่สภาพร่างกายสมบูรณ์ดีไม่มีใครเจ็บ และโชว์ฟอร์มได้ดีมตลอดนั้นจะสามารถเค้นฟอร์มเก่งจนพาทีมชาติไทยบุกมาเก็บ 3 แต้มกลับไปให้แฟนบอลชาวไทยได้มีความสุขกันอย่างแน่นอน "
 

       เชื่อเกมใหญ่ไว้ใจเชิ้ตดำได้

 
         นอกจากนี้คณะเชิ้ตดำที่จะชี้ขาดในเกมนี้ มาจากประเทศบาห์เรน นำโดยผู้ตัดสินอย่าง นาวาฟ ชูคัลล่า เปาฟีฟ่าวัยเพียงแค่ 38 ปีที่เคยผ่านการทำหน้าที่ในศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิลมาแล้วโดยได้ทำหน้าที่ทั้งหมด 4 เกม แบ่งเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด 2 แมตช์ ประกอบด้วย โปรตุเกส ชนะ กานา 2-1 กับออสเตรเลีย แพ้ สเปน 0-3 และผู้ตัดสินที่ 4 อีก 2 นัด คือ คอสตาริกา เสมอ กรีซ 1-1 และสเปน แพ้ ชิลี 0-2

 
         ที่สำคัญในการตัดสินทีมชาติไทย ยู-19 ปีมาแล้ว ในเกมชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศเมียนมาร์ เมื่อปี 2014 ซึ่งเกมนั้นเจ้าภาพเอาชนะ "ช้างศึก" จูเนียร์ ไป 3-0 ก่อนจะคว้าตั๋วไปลุยศึกฟุตบอลโลก ยู-20 ที่นิวซีแลนด์ได้สำเร็จ นาวาฟ ชูคัลล่า ยังเคยทำหน้าที่เป็นผู้ชี้ขาดในเกมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สโมสรไทยอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงเล่นแต่ต้องพบกับความผิดหวังซึ่งเป็นเกมในบ้าน 2 หน เริ่มจากปี 2012 แพ้ ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ส 0-2 และปี 2014 แพ้ โปฮัง สตีลเลอร์ส 1-2

 
         ส่วนผู้ตัดสินอีก 3 คน จะมาจาก บาห์เรน ด้วยกันทั้งหมด ประกอบด้วย ผช.ผู้ตัดสินที่ 1 ซาเลห์ อิบราฮิม มูบารัค และ ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 นาวาฟ มูซ่า ขณะที่ผู้ตัดสินที่ 4 เป็น อับดุลลา อับดุลลาซิซ

 
         ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถาม "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ว่า หวั่นใจหรือไม่ว่าเกมนี้ผู้ตัดสินจะทำหน้าที่โอนเอียงไปทางฝั่งเจ้าถิ่น เวียดนาม ซึ่งเรื่องนี้กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย กล่าวว่า "ไม่วิตกเลยนะสำหรับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน เพราะผมมั่นใจ และเชื่อมั่นว่าเกมระดับคัดบอลโลก นั้นผู้ตัดสินที่ถูกเลือกมาทำหน้าที่เรื่องคุณภาพต้องได้รับการยอมรับในฐานะ ผู้ตัดสินฟีฟ่า เรื่องที่สิงห์เชิ้ตดำจะเอาชื่อตัวเองมาทิ้งเป่าแบบไม่เอาไหนไม่น่าจะมี อย่างเกมล่าสุด เวียดนาม เล่นในบ้านก็ยังเสียจุดโทษ นาทีสุดท้ายเกมทำให้โดนอิรักบุกมาตีเสมอได้ อีกอย่างเราจะเล่นแบบแฟร์เพลย์ไม่หลงเล่ห์กลจากการยั่วยุ หรือเดินเกมหนักของเวียดนาม เขาแต่อย่างใด ผู้ตัดสินคงไม่อยากมาพลาดกับเกมใหญ่ๆเช่นนี้ซึ่งจะส่งผลเสียต่ออนาคตการเป็น ผู้ตัดสินของเขาเองแน่นอน"

ชู "ชนาธิป" ดีกว่า "เมสซี่เหงียน" เยอะ

 
         นอกจากนี้ "ซิโก้" ยังกล่าวอีกด้วยถึงกรณีที่สื่อเวียดนาม ยกย่องให้นักเตะชาติเขาเองอย่าง เหวียน คงเฟือง ดาวรุ่งวัย 20 ปี เป็นเมสซี่ของเวียดนาม ว่า "ผมว่านักเตะของเวียดนามรายนี้ยังไม่อาจเทียบชั้น "เมสซี่เจ-ชนาธิป" ของเราได้ ชนาธิป ของเราความสามารถจัดจ้านกว่าเยอะเป็นการยกย่อง และโปรโมตกันเองของสื่อเวียดนามมากกว่า หลังจากเห็นว่าไทยเรามีเมสซี่เจ

 
      เวียดนามถอดใจ,เน้นอช.คัพ

 
         กุนซือใหญ่อย่าง "ซิโก้" ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า เมื่อวันก่อนตัวเขาเองได้มีโอกาสสนทนากับ เลขาธิการสมาคมฟุตบอลเวียดนาม อย่าง เลฮ่อยอัน ก่อนได้รับคำตอบมาว่า รายการอย่าง ฟุตบอลโลก นั้นเหมือนจะไกลเกินไปและคงยากที่เวียดนามจะได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้ คงต้องพัฒนาทีมอีกเยอะหากจะไปถึงฟุตบอลโลกแต่สำหรับรายการอย่าง อช.คัพ นั้น น่าจะเป็นการง่ายกว่าหากเวียดนาม จะเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้ซึ่งนั่นเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของสมาคมฟุตบอล เวียดนาม ในช่วงนี้

      11 คนแรกปรับ "ปกเกล้า" แทน "สรรวัชญ์"

 
         สำหรับ 11 คนแรกที่จะลงสนามพบกับเวียดนามของไทยนั้นมีการปรับทัพจากที่เป็นข่าวก่อน หน้านี้ 1 ตำแหน่งโดย ปกเกล้า อนันต์ จะได้ทำหน้าที่แทน สรรวัชญ์ เดชมิตร ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ ในระบบ 4-3-3 ยังคงเดิม ผู้รักษาประตูเป็น กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, กองหลัง แบ็กซ้าย,ขวา ธีราทร บุญมาทัน, ทริสตัน สมชาย โด, เซนเตอร์ฮาฟ กรวิทย์ นามวิเศษ, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลาง สารัช อยู่เย็น, ปกเกล้า อนันต์, ชนาธิป สรงกระสินธ์ แนวรุก 3 ราย ริมเส้น ซ้าย,ขวา เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์,มงคล ทศไกร, หน้าเป้า ธีรศิลป์ แดงดา

ไทยใส่น้ำเงินบู๊ในเกมนี้

 
         ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 09.00 น. ได้มีการประชุมผู้จัดการทีมที่สนามสมาคมฟุตบอลเวียดนาม โดยไทยส่ง ใกล้รุ่ง ตรีจักรสังข์ สตาฟฟ์โค้ช และ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ไปร่วมแถลงข่าว ซึ่งได้มีการประชุมผจก.ทีมของ 2 ชาติ ปรากฏว่า ขุนพลทัพ "ช้างศึก" จะได้ใส่ชุดน้ำเงินล้วน ขณะที่ เวียดนาม จะสวมชุดเก่งสีแดงลงเล่นในนัดนี้อีกด้วย

       "มิอูระ" ชมไทยแกร่งแต่มั่นใจเวียดนามชนะ

 
         ขณะที่ มิอูระ กุนซือชาวญี่ปุ่น ของเวียดนาม กล่าวกับสื่อมวลชนระหว่างแถลงข่าวว่า "ทีมชาติไทยเป็นทีมที่แข็งแกร่งแท็กติกความสามารถเฉพาะตัวนักเตะดีมีเกมที่ ดุดัน แต่ผมก็รู้ และมีวิธีที่จะเล่นกับไทยไว้แล้วว่าต้องทำอย่างไร แม้ไทยจะเป็นทีมที่ดีแต่เกมนี้ที่บ้านของเวียดนามนั้นผมมั่นใจว่าชัยชนะจะตก เป็นของเราแน่นอน"