ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2015
แมนฯ ซิตี้ 5-1 บอร์นมัธ

สนาม : เอติฮัด สเตเดียม

         จ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นัดนี้ต้องขาด เซร์คิโอ้ อเกวโร่ ดาวยิงเบอร์ 1 ที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ วิลฟรีด โบนี่ ได้ออกสตาร์ทแทน ขณะที่ แว็งซองต์ กอมปานี กัปตันทีมแมตช์นี้แม้จะผ่านความฟิตกลับมาทว่าก็ยังเป็นแค่สำรองเท่านั้น

          ฝั่งบอร์นมัธมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนายทวารเล็กน้อย หลัง อาร์เธอร์ โบรุก เกิดเจ็บข้อเท้ากระทันหันก่อนเกมหนึ่งชั่วโมงทำให้ อดัม เฟเดริชี่ ได้เฝ้าเสาแทน ด้านหัวหอก เกล็น เมอร์เรย์ จะยังได้ล่าสกอร์ต่อไป เหตุ คัลลั่ม วิลสัน ยังคงต้องพักยาวกว่า 9 เดือน

          ออกสตาร์ทแค่ 7 นาที เรือใบก็แล่นฉิวนำก่อน 1-0 แฟร์นันดินโญ่ วางบอลยาวให้ พาโบล ซาบาเลต้า โขกชงต่อไปที่ วิลฟรีด โบนี่ ก่อนออกบอลต่อให้ ราฮีม สเตอร์ลิงแปเน้นๆจากระยะ 3 หลาเข้าไป ทว่าจากจังหวะนี้เหมือนจะมีประเด็นเกิดขึ้นหลังภาพช้าแสดงให้เห็นว่า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง อยู่ในตำแหน่งที่ล้ำหน้าในจังหวะที่รับบอลจาก วิลฟรีด โบนี่

          ถัดมา 3 นาที สกอร์ไหลเป็น 2-0 บาการี่ ซานญ่า พาบอลขึ้นทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลาง แม้อดัม เฟเดริชี่จะตะครุบไว้ได้ทว่ากลับจับบอลพลาดทำบอลหลุดมือส่งผลให้ วิลฟรีด โบนี่ ฉกไปยิงเข้าไปง่ายๆ

          ทว่าพอเข้าสู่นาที 22 ทีมจากอาคันตุกะก้ไล่มาเป็น 1-2 อูนาน โอเคน จ่ายสั้นให้ เกล็น เมอร์เรย์ ก่อนที่หัวหอกตัวเก๋าจะยิงจากบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ บอลแฉลบ เอเลียควิม ม็องกาล่า เปลี่ยนทางเข้าประตูไปแบบโชคช่วย

          แต่ดีใจได้ไม่นาน และแล้วนาที 28 เควิน เดอ บรอยน์ ไหลทะลุช่องให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ก่อนที่ปีกทีมชาติอังกฤษจะโชว์คลาสกระชากเข้าในกรอบเขตโทษก่อนแตะหลบเกมรับผู้มาเยือนถึง 3 คนแล้วซัลโวผ่านมือ อดัม เฟเดริชี่ เข้าไป แมนฯซิตี้ ทิ้งห่างอีกครั้ง 3-1

          ท้ายครึ่งแรก โจ ฮาร์ท เตะเปิดเกมยาวขึ้นมา แอนดรูว์ เซอร์แมน ไปปล่อยบอลทำให้โดน เฆซุส นาบาส ฉกไป ก่อนที่ดาวเตะชาวสเปนจะลากเลื้อยเข้าไปในเขตโทษก่อนยิงติดเซฟ อดัม เฟเดริชี่ ไปเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปรี่ซ้ำไม่เหลือ และ เป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ทำให้จบครึ่งแรกแมนฯซิตี้ต้อนขาด 4-1

          เข้าสู่ครึ่งหลังแม้สกอร์จะทิ้งห่างไปแล้วแต่ทีม "เรือใบ" ยังไม่มีผ่อน นาที 55 เฆซุส นาบาส จ่ายเข้ากลางให้ วิลฟรีด โบนี่ สอดมายิงแต่ อดัม เฟเดริชี่ ตะครุบไว้ได้

          ถัดมานาที 61 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กระชากมาคนเดียวเลยก่อนจบด้วยการซัดไกลจากระยะ 24 หลาทว่าบอลหลุดกรอบออกไปเยอะ

          เข้าสู่นาที 64 สเตอร์ลิ่ง ได้โอกาสอีกครั้ง คราวนี้ได้แปเน้นๆในกรอบเขตโทษ 6 หลาแต่ก็เป็นอีกครั้งที่บอลถากเสาออกไป แม้ อดัม เฟเดริชี่ จะขาตายแล้วก็ตาม

          ช่วง 15 นาทีสุดท้าย "เดอะ เชอรี่ส์" ดูถอดใจไปแล้วกับสกอร์ที่ตามอยู่ ด้านแมนซิตี้ก็ดูไม่เน้นทยอยถอดกำลังหลักสำคัญอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ออกพร้อมให้แข้งสำรองอย่าง ซามีร์ นาสรี่ สัมผัสพื้นหญ้าบ้าง

          ก่อนหมดเวลา1นาที เจ้าถิ่นมาบวกเพิ่มอีกจาก วิลฟรีด โบนี่  ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำไรกันเพิ่มได้ ทำให้ครบ 90 นาที เจ้าบ้านรัวสนั่น 5-1 นำโด่งเป็นจ่าฝูงของลีกต่อไป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - พาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เอเลียควิม ม็องกาล่า, บาการี่ ซานญ่า - ยาย่า ตูเร่, แฟร์นันดินโญ่ - เฆซุส นาบาส, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง - วิลฟรีด โบนี่

 สำรอง : วิลลี่ กาบาเยโร่, มาร์ติน เดมิเคลิส, แว็งซ็องต์ กอมปานี, เฟอร์นานโด, ซามีร์ นาสรี่, เคเลชี่ เฮียนนาโช่, พาทริค โรเบิร์ตส์

 บอร์นมัธ : อดัม เฟเดริชี่ - ไซม่อน ฟรานซิส, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, สตีฟ คุ้ก, ชาร์ลี แดเนี่ยลส์ - แม็ตต์ ริทชี่, แดน กอสลิ่ง, แอนดรูว์ เซอร์แมน, อดัม สมิธ - อูนาน โอเคน - เกล็น เมอร์เรย์

 สำรอง : อาร์เธอร์ โบรุค, โจ เบนเน็ตต์, เบลี่ คาร์กิล, ชอน แม็คโดนัลด์, มาร์ค พิวจ์, ยานน์ เคอร์มอร์แกนต์, โจชัว คิง

 ผู้ตัดสิน : เคร็ก พาว์สัน