ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2558
เวสต์แฮม - เชลซี

สนาม : อัพตัน พาร์ค

          ศึกลอนดอนดาร์บี้ระหว่าง เวสต์แฮม ทีมฟอร์มแรงที่อยู่อันดับ 4 เจอกับ เชลซี ทีมฟอร์มตกที่อยู่อันดับ 12 หลังผ่านไป 9 นัดแรก

          ขุนค้อนของกุนซือ สลาเวน บิลิช มีผลงานที่น่าพอใจ ไม่แพ้เกมลีก 6 นัดติดแล้ว ล่าสุดบุกชนะคริสตัล พาเลซ 3-1 ซึ่งเป็นลอนดอนดาร์บี้เช่นกัน

          สภาพทีมสมบูรณ์ขึ้นเมื่อได้ เอ็นเนร์ วาเลนเซีย ปีกตัวเก่งทีมชาติเอกวาดอร์หายเจ็บกลับมานั่งสำรองแล้วตั้งแต่นัดก่อน มีลุ้นลงตัวจริง

          อีกคนคือ อันเจโล อ็อกบอนน่า เซนเตอร์ฮาล์ฟก็หายเจ็บนั่งสำรองนัดก่อนเช่นกัน แต่ไม่น่าจะเบียดลงยืนเซนเตอร์ตัวจริงได้ในเวลานี้

          ที่ขาดหายไปคือ วิคเตอร์ โมเสส ปีกที่ยืมมาจากเชลซี หมดสิทธิ์ลงเจอต้นสังกัดตัวจริง, วินสตัน รีด เซนเตอร์ฮาล์ฟที่พลาดนัดก่อนก็ฟิตไม่ทัน และ อเล็กซ์ ซง กองกลางตัวรับเจ็บข้อเท้า

          ฝั่งเชลซีของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่กำลังเจอวิกฤติทีมครั้งใหญ่ เพราะเพิ่งเก็บไปเพียง 11 คะแนน จาก 9 นัดเท่านั้น

          เกมลีกล่าสุด สิงโตน้ำเงินครามกลับมาคว้าชัยในบ้านเหนือแอสตัน วิลล่า 2-0 จากประตูของ ดีเอโก้ คอสต้า และ อลัน ฮัตตัน ทำเข้าประตูตัวเอง

          ส่วนในถ้วยยุโรปเพิ่งบุกเสมอ ดินาโม เคียฟ 0-0 เก็บ 4 แต้มจาก 3 นัด อยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม จี ตามปอร์โต้ที่มี 7 แต้ม และเคียฟที่มี 5 แต้ม

          สภาพทีมยังชวดใช้งาน ติโบต์ กูร์กตัวส์ (เข่า) และ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (เอ็นหลังหัวเข่า) ทำให้กุนซือชาวโปรตุกีสต้องแก้ปัญหาตรงแบ็กขวา

          เกมกับวิลล่า มูรินโญ่ขยับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ยืนแบ็กขวา แล้วส่ง บาบา ราห์มาน ยืนแบ็กซ้าย แต่ในเกมที่เคียฟ คูร์ท ซูม่า ถูกส่งยืนแบ็กขวา แล้วขยับอัซปิลิกวยต้าไปยืนซ้าย

          สองคนที่พลาดเกมที่เคียฟ เปโดร โรดริเกซ กับ โลอิก เรมี่ จะกลับคืนทีมตามเดิม หลังไม่มีชื่อเกมชปล. แต่มูรินโญ่ยืนยันว่าแค่บาดเจ็บเล็กน้อย

          แนวรุกยังหวังพึ่ง ดีเอโก้ คอสต้า, เอแด็น อาซาร์ และ วิลเลี่ยน เป็นแกนหลักต่อไป ขณะที่ ออสการ์ อาจนั่งสำรองต่อ

          รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

          เวสต์แฮม : อาเดรียน, คาร์ล เจนกินสัน, เจมส์ ทอมกิ้นส์, เจมส์ คอลลินส์, อารอน เครสส์เวลล์, ชีกู กูยาเต้, มาร์ค โนเบิล, ดิมิทรี ปาเยต, มานูเอล ลันซินี่, เอ็นเนร์ วาเลนเซีย, ดิอาฟร่า ซาโก้

          เชลซี : อัสเมียร์ เบโกวิช, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, บาบา ราห์มาน, รามิเรส, เนมานย่า มาติช, เชส ฟาเบรกาส, วิลเลี่ยน, เอแด็น อาซาร์, ดีเอโก้ คอสต้า

          คอสต้าลั่นถ้ามูไม่ขอจะเล่นดุเหมือนเดิม

          ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าตัวเก่งของเชลซี ยืนยันไม่มีวันเปลี่ยนสไตล์การเล่นชนิดบู๊ล้างผลาญพร้อมท้าชนคู่แข่งในสนาม แน่นอน ยกเว้น โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมเลือดโปรตุกีสเป็นคนบอกเองเท่านั้น

          คอสต้าเผย ''ผู้จัดการทีมยังสนับสนุนผมเต็มร้อย เช่นเดียวกับสโมสรและแฟนบอลเชลซี ไม่ ผมจะไม่เปลี่ยนแน่ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิดตลอดอาชีพนักฟุตบอลเลย หลายครั้งคู่แข่งพยายามจะหยุดผมเช่นการเตะผมแต่ผมก็ไม่ได้ร้องไห้เหมือน เด็กๆ หรอก''

          ''ดังนั้นผมคิดว่าการที่แฟนบอลได้เห็นเรื่องแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ ดังนั้นผมจะเล่นแบบเดิมเพื่อแฟนบอล ผู้จัดการทีม และสโมสรที่ให้การสนับสนุนผม''

         มั่นใจไม่โดนเปาจ้องจับผิด

          พร้อมกันนี้ อดีตดาวยิงแอตเลติโก มาดริด ยังมั่นใจจะไม่ถูกผู้ตัดสินกาหัวเป็นผู้เล่นที่ต้องได้รับการจับตาเป็นกรณี พิเศษ แม้เพิ่งโดนลงโทษแบนย้อนหลังจากการเล่นตุกติกเกมชนะอาร์เซน่อลก็ตาม

          ''ผมไม่เคยมีปัญหาใดๆ กับกรรมการ มันไม่เกี่ยวกับโทษแบนที่ผมได้รับ บางครั้งผมอาจได้ใบเหลืองบ้าง แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของเกมอยู่แล้ว ผมหวังแค่ว่าตอนนี้พวกเขาจะมีมุมมองที่เปลี่ยนไปบ้าง แต่ผมคิดว่าพวกเขามีความเป็นมืออาชีพมาก พวกเขาพยายามรักษาแนวทางการทำงานให้ไปในทิศทางทิศเดียวกัน''

          ลูซิโอเชื่อเชลซีพลิกสถานการณ์ได้

                     ลูซิโอ อดีตกองหลังทีมชาติบราซิล เชื่อมั่นว่า โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุเกส อดีตเจ้านายสมัยค้าแข้งที่อินเตอร์ มิลาน เก่งพอพาเชลซีพลิกสถานการณ์กลับมาโชว์ฟอร์มแข็งแกร่งสมราคาแชมป์เก่า พรีเมียร์ลีกได้แน่นอน

          ลูซิโอเชื่อว่า เดอะ สเปเชียล วัน วัย 52 ที่ร่วมกันพาอินเตอร์คว้าทริปเปิลแชมป์ ปี 2010 สั่งลาก่อนไปคุมเรอัล มาดริด จะพาทีมพลิกฟอร์มได้ ''การอยู่บนจุดสูงสุดตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องง่าย จากที่รู้จักเขา เขาไม่มีความสุขกับสถานการณ์แน่นอน''

          ''ทว่าไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะหลุดออกมาจากสถานการณ์นั้นและพาทีมกลับมาคืนฟอร์มในเร็ววันนี้ เขาสามารถทำได้ และจะทำได้''

          ''เมื่อไหร่ที่ทีมแพ้มูนรินโญ่แทบจะไม่ยิ้มในการซ้อมครั้งถัดมา เขาต้องการชนะทุกเกม สมัยอยู่อินเตอร์ เวลาแพ้ เราจะพยายามเลี่ยงเขาในการซ้อมครั้งถัดไป ผมวิ่งผ่านเขาโดยไม่หันไปมองหน้าด้วยซ้ำ แต่โดยส่วนตัวแล้ว เขาเป็นผู้จัดการทีมดีสุดที่ผมเคยร่วมงานด้วย''

          เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจก่อนเกม

 - เวสต์แฮม คว้าชัยได้เพียงเกมเดียวจาก 18 นัดหลังสุดที่ทำศึกลอนดอนดาร์บี้พบ เชลซี ในพรีเมียร์ลีก (ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 14)
 - เชลซี ไม่เสียประตูเลยตลอด 5 นัดหลังสุดที่พบ เวสต์แฮม ในพรีเมียร์ลีก โดยหนสุดท้ายที่โดนยิงคือเกมแพ้ 1-3 เมื่อธันวาคม 2012
 - เวสต์แฮม มีค่าเฉลี่ยได้ประตูจากโอกาสยิงเยอะที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (22%) โดยมีเพียง แมนฯ ซิตี้ (24) ที่ทำประตูในลีกได้เยอะกว่าพวกเขา (20)
 - เชลซี เป็นทีมที่เสียประตูจากลูกโหม่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (5)
 - ดิมิทรี ปาเยต สร้างสรรค์โอกาสพังประตูได้มากกว่าทุกคนในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ (39)
 - ปาเยต มีส่วนร่วมถึง 8 ประตู (ยิง 5 แอสซิสต์ 3) จาก 9 เกมที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกให้ เวสต์แฮม
 - ขุนค้อนเอาชนะมาได้แล้ว 2 ครั้งที่ทำศึกลอนดอนดาร์บี้ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ (อาร์เซน่อล และ คริสตัล พาเลซ) ทั้งที่พวกเขาคว้าชัยได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้นในลอนดอนดาร์บี้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
 - อย่างไรก็ตาม เดอะ แฮมเมอร์ส แพ้มาตลอด 3 นัดเหย้าหลังสุดที่ทำศึกลอนดอนดาร์บี้ในพรีเมียร์ลีก
 - โชเซ่ มูรินโญ่ แพ้เพียง 5 จาก 52 เกมลอนดอนดาร์บี้ในฐานะกุนซือ (ชนะ 36 เสมอ 11 แพ้ 5)
 - นี่เป็นการออกสตาร์ตซีซั่นดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกของ เวสต์แฮม หลังจากผ่านไป 9 นัด (17 แต้ม) ขณะที่ เชลซี ออกสตาร์ตแย่ที่สุดเป็นอันดับสองของพวกเขาหลังจากผ่านไป 9 นัด (11 แต้ม)